xs
xsm
sm
md
lg

พท.ปัด “นช.แม้ว” สั่งแกนนำพรรคปรับ ครม.ซัดคนไทยบางกลุ่มให้ไทยเสียดินแดน

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ (แฟ้มภาพ)
โฆษก พท.ปฏิเสธ “นช.แม้ว” สั่งแกนนำพรรคเร่งปรับ ครม.โวยมีคลิปปลอมหวังทำลาย “ทักษิณ-ยิ่งลักษณ์” วอนประชาชนอย่าหลงเชื่อ เตรียมสาวให้ถึงต้นตอ เรียกร้องชาวบ้านอย่าเลือก 9 ส.ส.ปชป.ที่ลาออกกลับสภาอีก อ้างผลาญภาษี ขอบคุณประธานหอการค้า สภาอุตฯ สถาบันการศึกษา รัฐวิสาหกิจ ไม่เอาด้วยกับอารยะขัดขืน ซัดคนไทยบางกลุ่มเสียสติให้ไทยเสียดินแดนจากคำตัดสินศาลโลก เย้ย ปชป.ยกระดับชุมนุมใกล้คุกไปทุกขณะ

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงข่าวที่ว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สั่งแกนนำพรรคเพื่อไทยให้ปรับ ครม.ว่า ขอปฏิเสธไม่เป็นความจริง เพราะตนได้ตรวจสอบข้อมูลกับคนใกล้ชิด พ.ต.ท.ทักษิณแล้ว ยืนยันว่าท่านไม่เกี่ยวข้อง และไม่มีการสั่งการ เป็นแค่การปล่อยข่าวเพื่อหวังผลทางการเมือง การปรับ ครม.เป็นอำนาจของนายกรัฐมนตรีที่จะพิจารณาบุคคลเพื่อมาทำงานให้กับบ้านเมือง ซึ่งวันนี้ยังไม่มีสัญญาณใดๆ จากนายกฯ ขอให้หยุดปล่อยข่าวสร้างความสับสนให้สังคมได้แล้ว

นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า ขณะนี้มีประชาชนร้องเรียนมายังพรรคเพื่อไทยว่า มีการทำคลิปปลอมเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียโจมตี พ.ต.ท.ทักษิณ และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และแกนนำพรรคเพื่อไทย ยืนยันว่าคลิปเหล่านั้นไม่เป็นความจริง เป็นการใส่ร้ายป้ายสี บิดเบือนข้อเท็จจริง หวังทำลาย พ.ต.ท.ทักษิณ น.ส.ยิ่งลักษณ์ รัฐบาล และพรรคเพื่อไทย ถือเป็นการกระทำที่ชั่วร้าย ขอเรียกร้องประชาชนที่พบเห็นคลิปปลอมที่มีการบิดเบือนเหล่านี้ว่า ไม่ควรที่จะส่งต่อ เพราะอาจผิดกฎหมาย พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์และเข้าข่ายหมิ่นประมาทได้ อย่างไรก็ตาม ตนและทีมกฎหมายของพรรคจะตามตรวจสอบเพื่อเอาผิดและสาวไปให้ถึงต้นตอ เพื่อลากคอไอ้โม่งที่อยู่เบื้องหลังมาดำเนินคดีให้ได้ เพราะถือเป็นภัยต่อประเทศ

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ 9 ส.ส.ประชาธิปัตย์ลาออกจากตำแหน่งเพื่อไปปลุกระดมมวลชนนอกสภา ว่า เป็นยุคตกต่ำของพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยอ้างว่ายึดมั่นในระบอบประชาธิปไตยและระบบรัฐสภา เพราะวันนี้ทำการเมือง 2 ขา โดยขาหนึ่งคอยคัดค้าน เตะตัดขารัฐบาลในสภา ขณะที่อีกทางหนึ่งปล่อยให้ ส.ส.ลาออกเพื่อไปปลุกระดมมวลชน วันนี้ประชาชนคงได้เห็นธาตุแท้ของพรรคประชาธิปัตย์ว่า น่าจะทำทุกอย่างเพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจ ทั้งนี้ อยากให้ประชาชนจดจำทั้ง 9 ส.ส.ของพรรคประชาธิปัตย์ไว้ว่า คนเหล่านี้ทำให้ต้องใช้เงินภาษีเพื่อเลือกตั้งซ่อมถึง 80 กว่าล้านบาท ดังนั้นไม่ควรเลือกกลับเข้ามาในสภาอีก และพรรคประชาธิปัตย์ก็ควรแสดงความรับผิดชอบด้วยการออกค่าใช้จ่ายในการเลือกตั้งซ่อมเอง ไม่ใช่ใช้เงินภาษีประชาชนมาจัดการเลือกตั้งซ่อม

นายพร้อมพงศ์ กล่าวถึงกรณีที่ นายสุเทพ เทือกสุบรรณ อดีต ส.ส.สุราษฎร์ธานี พรรคประชาธิปัตย์ เรียกร้องประชาชนให้อารยะขัดขืนรัฐบาลด้วยการหยุดงานระหว่างวันที่ 13-15 พ.ย.และงดจ่ายภาษีว่า วันนี้นายสุเทพมุกแป้ก เพราะประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา และภาคเอกชน เขาไม่เล่นด้วย ต้องขอขอบคุณประชาชน ประธานหอการค้า ประธานสภาอุตสาหกรรม สถาบันการศึกษา ภาคเอกชน และรัฐวิสาหกิจ ที่ไม่ทำตามคำเรียกร้องของนายสุเทพ เห็นแก่ประโยชน์ของบ้านเมืองและภาพลักษณ์ของประเทศ เพราะสิ่งที่นายสุเทพเรียกร้องนั้นยิ่งเป็นการซ้ำเติมปัญหา เป็นการประกาศของคนที่น่าจะเสียสติ ถือเป็นการอารยะข่มขืนประเทศมากกว่า เพราะขณะนี้ 16 ประเทศที่จะมาค้าขายและท่องเที่ยวในประเทศไทยนั้น มีการเตือนให้หลีกเลี่ยงแล้ว

ด้าน นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีคณะกรรมาธิการการต่างประเทศ คณะกรรมาธิการศึกษา ตรวจสอบเรื่องการทุจริต และเสริมสร้างธรรมาภิบาล วุฒิสภา และนายสุรพล นิติไกรพจน์ อดีตอธิการบดี มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ที่ระบุตรงกันว่าประเทศไทยแพ้คดีปราสาทพระวิหารว่า วันนี้ทุกอย่างชัดเจนที่สุดแล้วว่าสิ่งที่รัฐบาลนายสมัคร สุนทรเวช ในปี 2551 ได้เจรจาให้กัมพูชาขึ้นทะเบียนได้เฉพาะตัวปราสาทและให้ตัดพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ออกไม่ให้นำไปขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นสิ่งที่ถูกต้อง เป็นการปกป้องแผ่นดินไทย นายนพดล ปัทมะ รมว.ต่างประเทศในสมัยนั้น จึงเป็นพระเอกตัวจริง ไม่ใช่คนขายชาติตามที่ถูกใส่ร้าย

นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะหัวหน้าคณะต่อสู้คดีปราสาทเขาพระวิหารฝ่ายไทย ก็ยืนยันแล้วว่าศาลโลกรับฟังกัมพูชาเพียง 3 ประเด็น ฟังไทย 13 ประเด็น ไม่มีการเสียดินแดน ประชาชนคนไทยทั้งประเทศดีใจ โล่งใจ ที่คำตัดสินของศาลโลกเป็นคุณต่อประเทศไทย ที่ได้ยืนยันว่าพื้นที่ 4.6 ตร.กม.ไม่ได้เป็นของกัมพูชา และตัดสินว่าแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ไม่ใช่เส้นเขตแดนระหว่างไทยและกัมพูชา หมดเวลาสำหรับนักบิดเบือน ปลุกปั่นกันจนคลั่งชาติ และควรคำนึงถึงประชาชนตามแนวชายแดน มากกว่าการนำความเท็จมาจุดกระแสคลั่งชาติและหวังผลทางการเมือง น่าเสียใจที่คนไทยกลุ่มหนึ่งเสียสติที่ไทยไม่เสียดินแดน จึงอยากเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายรับผิดชอบต่อการจุดกระแสบิดเบือน และต้องตอบสังคมว่าเมื่อไหร่ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะพาพวกคลั่งชาติ ขาดสติไปทวงผืนดินใต้ปราสาท

นายอนุสรณ์ กล่าวถึงกรณี นายถาวร เสนเนียม อดีต ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ระบุ รัฐบาลยังถอยไม่สุดซอย เพราะ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ไปนอนรอ 180 วัน จากนี้จะเคลื่อนไหวตามมวลชน วันศุกร์นี้จะมีการยกระดับอีกว่า คนพวกนี้นับวันจะขาดสติ และออกทะเลไปเรื่อยๆ คนทั้งประเทศเขารู้กันหมดแล้วว่ารัฐบาลถอยสุดซอยไปนานแล้ว

ส่วนที่บอกว่าทุกอย่างจะจบในเดือนนี้ ทุกคนมองออกเลยว่า เป็นการทำบันไดลง สู้พลาง ถอยพลาง หวังตีธงส่งสัญญาณไปยังศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งเป็นความหวังสุดท้ายหลังจากที่แช่งประเทศ ผิดหวังทุกเรื่อง จึงขอเรียกร้องให้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ที่เหลืออยู่ลาออกทั้งพรรค มาสู้ในระบบฟุตปาธให้เต็มที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจจะได้ดำเนินการได้เต็มที่ตามกรอบกฎหมาย ในฐานกระทำความผิดต่อความมั่นคงของรัฐในราชอาณาจักร ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113 มาตรา 114 มาตรา 116 และมาตรา117 การประกาศยกระดับการชุมนุมแต่ละครั้งปลุกระดมให้แนวร่วมผู้ชุมนุมร่วมกันกระทำความผิดมากขึ้น เท่ากับเป็นการยกระดับใกล้คุกไปทุกขณะ อาจถือเป็นการกระทำความผิดฐานกบฏ ล้มล้างการปกครองในระบอบประชาธิปไตย ประชาชนรอดูอยู่ว่าคนพวกนี้จะออกทะเลกันไปถึงไหน ซึ่งคาดว่าการประกาศยกระดับแต่ละครั้ง เป็นการลดระดับจำนวนคนให้ต่ำลง น้อยลงเรื่อยๆ รัฐบาลพรรคเพื่อไทย จึงไม่มีความจำเป็นต้องดำเนินการอะไรที่ขัดกฎหมาย ตามที่ปลุกระดมเรียกแขกกัน ใครทำความผิดก็ต้องถูกดำเนินคดีตามกฎหมายปกติ จะไม่มีการยุบสภา หรือลาออกแต่อย่างใด พี่น้องประชาชนและภาคธุรกิจมั่นใจได้


กำลังโหลดความคิดเห็น