xs
xsm
sm
md
lg

ปชป.บี้ “ปู” เลิกจ้อรับศาลโลก จี้หาทางออกในสภา ชี้แก้ 190 ส่อยกแผ่นดินให้เขมร

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


โฆษก ปชป.ชี้ผลตัดสินศาลโลกไม่เสียที่ทับซ้อน แต่ กต.ระบุเสียพื้นที่ 0.3 ตร.กม. เท่ากับเขมรได้พื้นที่ 0.58 ตร.กม. ชี้ปักปันเขตก่อนถึงทำตามศาลให้กำหนดพื้นที่ใหม่ ร้องนายกฯ-รมว.กต.เลิกจ้อรับคำพิพากษา ไม่ฟังต้องแจงไทยสูญเสียอะไรบ้าง และเข้าสภาถกหาทางออก นิ่งเฉยไล่ยุบสภา ดักอย่าใช้สภาปาหี่เพื่อผลประโยชน์ ย้ำคำตัดสินยึดแผนที่ 1 ต่อ 200,000 ผลดีไทย ฉะแก้ ม.190 เอื้อยกดินแดนให้เขมร ฝ่าย กม.หาช่องขวาง


วันนี้ (12 พ.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีศาลโลกมีคำพิพากษาตีความคำพิพากษาเดิมกรณีปราสาทพระวิหาร ปี 2505 ว่าศาลได้กำหนดพื้นที่บริเวณรอบปราสาทขึ้นมาใหม่ แม้ผลคำพิพากษาจะไม่ทำให้ไทยเสียดินแดนในพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม.ตามที่กัมพูชาร้องขอ แต่จากการคำนวณของกระทรวงการต่างประเทศ พบว่าจะทำให้ไทยเสียพื้นที่ 0.3 ตร.กม. ที่อยู่นอกพื้นที่รั้วลวดหนามเดิมที่มีพื้นที่ 0.28 ตร.กม. เท่ากับว่ากัมพูชาได้พื้นที่ 0.58 ตร.กม. แต่กัมพูชาจะไม่มีสิทธิ์ยื่นให้ศาลโลกตีความเพื่อครอบครองพื้นที่ 4.6 ตร.กม.อีก และไม่มีสิทธิ์เข้ามาข้องเกี่ยวพื้นที่ 4.0 ตร.กม.อีก ทั้งนี้ การที่ศาลกำหนดพื้นที่ใหม่นั้นยังไม่สามารถปฏิบัติตามคำพิพากษาได้ จนกว่าจะมีการปักปันหลักเขตแดนที่แท้จริง ดังนั้นขอเรียกร้องให้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ และผู้ที่เกี่ยวข้องเลิกพูดเรื่องการยอมรับคำพิพากษา เพราะยังไม่มีความชัดเจนในรายละเอียด และมีพันธกรณีในการผลักดันทหารกัมพูชาให้พื้นที่ 4.0 ตร.กม. คือบริเวณบริเวณภูมะเขือและพื้นที่ใกล้เคียง

นายชวนนท์กล่าวอีกว่า หากรัฐบาลยอมรับคำพิพากษาก็ต้องใช้ช่องทางเจรจาคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วม ในการกำหนดพื้นที่จริงตามคำพิพากษา และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องออกมาชี้แจงว่า ไทยสูญเสียอะไรบ้าง และทางเลือกของไทยอยู่ตรงไหน และ น.ส.ยิ่งลักษณ์ต้องเข้ามาฟังคำอภิปรายในการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจาณาหาทางออกกรณีคำตัดสินของศาลโลกตามมาตรา 179 ตลอดทั้งวัน และต้องตอบคำถามในเรื่องการแก้ไขปัญหาเรื่องปราสาทพระวิหาร หากไม่มาก็ควรยุบสภา เพราะสภาไม่ทำหน้าที่แก้ไขปัญหาให้ประชาชนและประเทศชาติก็ไม่มีประโยชน์ และรัฐบาลไม่ควรใช้ใช้เวทีสภาเป็นเวทีปาหี่ เพื่อซื้อเวลาให้มีเวลาต่อรองพื้นที่เพื่อผลประโยชน์ ทั้งนี้จากคำพิพากษาที่ให้ยึดแนวเขตด้านทิศเหนือตามแผนที่ 1 ต่อ 200,000 นั้น ถือเป็นคุณกับไทย เพราะสระกราว และสถูปคู่อยู่ในเขตแดนไทย ซึ่งจะทำให้ตัวปราสาทที่กัมพูชาได้ไปไม่สมบูรณ์ ดังนั้นรัฐบาลควรเสนอขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกร่วมกัน

“การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 สอดคล้องกับผลคำพิพากษาที่ออกมา เนื่องจากผลการแก้ไขจะทำให้รัฐบาลไม่ต้องนำเสนอกรอบขั้นตอนการพิจารณาเขตแดนต่อรัฐสภา แต่จะนำเข้ามาอีกครั้งเมื่อมีการเจรจาเบ็ดเสร็จ และยกแผ่นดินให้กับกัมพูชาเรียบร้อย จึงเห็นควรให้หันกลับมาใช้มาตรา 190 ในรูปแบบเดิม ซึ่งในขณะนี้ฝ่ายกฎหมายของพรรคกำลังศึกษาวิธีการที่จะทำให้กฎหมายนี้ผ่านไม่ได้” นายชวนนท์กล่าว
กำลังโหลดความคิดเห็น