“สุรพงษ์” พอใจคำสั่งศาลโลกตัดสินใกล้เคียงปี 05 ไทยไม่เสียพื้นที่ 4.6 ตร.กม. ระบุศาลสั่งไม่เกี่ยวชุมชนไทย-เขมรแถววัดแก้ว “ยุทธศักดิ์” ชี้คุยผู้นำทหารเขมรแล้ว รับรองชายแดนสงบ ทั้งสองฝ่ายคงกำลังจนกว่าจะได้ข้อสรุปคำตัดสิน
วันนี้ (12 พ.ย.) ที่ห้องรับรองพิเศษ ท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ และ พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ได้เดินทางกลับมาถึงประเทศไทยภายหลังจากที่ร่วมรับฟังศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ หรือศาลโลก (ไอซีเจ) อ่านคำตัดสินคดีพระวิหาร
นายสุรพงษ์ กล่าวว่า พอใจคำตัดสินศาลโลก และขอดีใจด้วยกับประชาชนในพื้นที่ โดยในวันพรุ่งนี้ (13 พ.ย.) นายวีรชัย พลาศรัย เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ ในฐานะตัวแทนไทย จะเข้าชี้แจงรายละเอียดคำพิพากษาของศาลโลกต่อที่ประชุมร่วมรัฐสภา โดยหวังให้ ส.ส. และ ส.ว.ได้เข้าใจตรงกัน ทั้งนี้ ขอยืนยันว่าในคำตัดสินครั้งนี้ ประเทศไทยไม่เสียพื้นที่ทับซ้อน 4.6 ตร.กม. โดยกระทรวงการต่างประเทศ กำลังเร่งนำคำพิพากษาคดีพระวิหารแปลเป็นภาษาไทยให้เสร็จสิ้นให้เร็วที่สุด เพื่อยื่นสู่ที่ประชุมรัฐสภา และขอกรอบการเจรจาสำหรับนำไปหารือกับกัมพูชาภายใต้กลไกคณะกรรมาธิการร่วม (เจซี) ไทย-กัมพูชา ตามมาตรา 190 นอกจากนี้ น.ส.อลินา มิรอง ทนายความต่างชาติกับกรมแผนที่ทหารไปสรุปในรายละเอียดคำพิพากษาศาลโลกที่เกี่ยวข้องกับแผนที่อย่างถี่ถ้วน และรอบคอบ เพื่อนำไปทำความเข้าใจกับประชาชนโดยเร็ว
ส่วนเรื่องการเสียพื้นที่ที่หลายฝ่ายกังวัลอยู่ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า นายวีรชัย ในการดำเนินการทางกฎหมายคดีพระวิหาร ได้ชี้แจงว่า ในมติคณะรัฐมนตรี ปี 2505 ได้มีการพิจารณาเส้นแบ่งเขตแดนตามคำตัดสินศาลโลก ปี 2505 ไว้ 2 เส้นที่อยู่ใกล้เคียงกัน ซึ่งคำตัดสินศาลโลกครั้งนี้ได้วินิจฉัยเพิ่มเติมเพื่อให้ชัดเจนขึ้น จากที่คำตัดสินศาลในวานนี้ อาจจะใกล้เคียงกับเส้นเขตแดนตามที่รัฐบาลในสมัยนั้นได้พิจารณาไว้ ซึ่งเป็นคนละเส้นที่ไทยได้ดำเนินการล้อมรั้วให้แก่กัมพูชา โดยทูตวีรชัย และคณะทำงานจะศึกษารายละเอียดเรื่องนี้ต่อไป โดยในขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่า พื้นที่มีขนาดเท่าไร แต่ขอให้มั่นใจว่า ชุมชนที่มีคนไทย และกัมพูชาอาศรัยอยู่ร่วมกันในพื้นที่ใกล้วัดแก้วสิขาคีรีสวรา ที่อยู่บริเวณภูมะเขือ ไม่ใช่พื้นที่ที่คำศาลโลกพูดถึงในวานนี้
เมื่อถามว่า มีความกังวลหรือไม่ว่า กระบวนการพิจารณารัฐสภาเพื่อดำเนินการตามคำตัดสินของศาลโลกจะล่าช้า เนื่องจากสถานการณ์การเมืองในขณะนี้ นายสุรพงษ์ กล่าวว่า ตนไม่กังวลที่ฝ่ายค้านจะตีรวนในสภา ใครจะเล่นการเมืองในสภา ตนพร้อมชี้แจงที่ประชุมสภา และตอบทุกประเด็น ผมไม่ใช่นักการเมืองที่ฉวยโอกาส แต่ก็ไม่ให้อยากให้นำเรื่องนี้มาเป็นประโยชน์ทางการเมือง อย่างไรก็ตาม ตนพร้อมรับฟังความคิดเห็นจากทุกฝ่าย หากใครมีข้อสงสัยก็ได้นำแชร์กัน
ด้าน พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า ภายหลังที่รับฟังคำตัดสินของศาลโลกแล้ว ตนได้มีการพูดคุยทางโทรศัพท์กับผู้นำทางทหารของกัมพูชาที่ไปร่วมรับฟังศาลโลก ทุกๆ 2 ชั่วโมง เพื่อยืนยันจะยังคงกำลังทางการทหารในพื้นที่จนกว่าจะมีการหารือในรายละเอียดจนได้ข้อสรุปเกี่ยวกับคำตัดสินของศาลโลก โดยขอให้ประชาชนสบายใจได้ว่าพื้นที่ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา จะเกิดความสงบ
