xs
xsm
sm
md
lg

“พงศ์เทพ” เล่นเล่ห์แจงคืนพาสปอร์ต “นช.แม้ว” อ้างคืนสิทธิเดิม อยู่เมืองนอกไม่ได้ทำเสียหาย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี (ภาพจากแฟ้ม)
รัฐเล่นเล่ห์อุ้มทักษิณ “พงศ์เทพ” ร่อนหนังสือแจงผู้ตรวจฯ อ้าง กต. ออกหนังสือเดินทางให้ทักษิณเป็นการคืนสิทธิเดิมที่เคยมีหนังสือเดินทาง ตามนโยบาย รมว.ตปท. รัฐบาลไม่อาจก้าวล่วงได้ พร้อมตั้งข้อสังเกตที่ให้ปรับปรุงระเบียบฯ กรณีเปิดช่องให้ จนท. ใช้ดุลพินิจในการออกหรือไม่ออกหนังสือเดินทางให้แก่ผู้ต้องหาน่าจะเป็นผลดี ทำให้สามารถติดตามได้ว่าผู้ถือหนังสือเคลื่อนอยู่ที่ใดใน ตปท.

วันนี้ (10 พ.ย.) รายงานข่าวแจ้งว่า นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี ได้มีหนังสือตอบกลับไปยังผู้ตรวจการแผ่นดินตามที่ได้รับมอบหมายจากนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการ และชี้แจงเรื่องที่ผู้ตรวจการแผ่นดินขอให้นายกรัฐมนตรี พิจารณากรณีกระทรวงการต่างประเทศไม่ดำเนินการตามข้อเสนอแนะของผู้ตรวจการแผ่นดินที่ให้ทบทวนการออกหนังสือเดินทางให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เป็นนักโทษหลบหนีคดี โดยหนังสือที่นายพงศ์เทพ แจ้งกลับมายังผู้ตรวจการแผ่นดินนั้น ระบุว่า กรมการกงสุล กระทรวงการต่างประเทศ ได้รายงานต่อคณะทำงานที่สำนักนายกรัฐมนตรีมีคำสั่งแต่งตั้งขึ้น ยืนยันว่า การใช้ดุลพินิจในการออกหนังสือเดินทางให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ตามระเบียบฯ ดังกล่าวนั้น เป็นการคืนสิทธิเดิมในการมีหนังสือเดินทางที่ถูกคำสั่งยกเลิกหนังสือเดินทางโดยรัฐบาลชุดก่อน เพราะก่อนหน้านี้ พ.ต.ท.ทักษิณ มีหนังสือเดินทางอยู่แล้ว คือ ออกให้เมื่อวันที่ 1 มิ.ย.50 และถูกยกเลิกเมื่อ 12 เม.ย.52 ตามการวินิจฉัย และสั่งการของนายกษิต ภิรมย์ รมว.ต่างประเทศในขณะนั้น โดยอาศัยอำนาจตามข้อ 23(7) ของระเบียบฯ ที่กำหนดว่า พิจารณาเห็นว่าหากให้ผู้ถือหนังสือเดินทางยังคงอยู่ในต่างประเทศต่อไปอาจก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทย หรือต่างประเทศได้ ซึ่งต่อมา นายสุรพงษ์ โตวิจักษณ์ชัยกุล รมว.ต่างประเทศ ได้มีข้อวินิจฉัยและมีคำสั่งเมื่อวันที่ 25 ต.ค. ว่านโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันเห็นว่าการคงอยู่ในต่างประเทศของ พ.ต.ท.ทักษิณ ผู้ขอหนังสือเดินทาง ไม่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่ประเทศไทยห รือต่างประเทศตามข้อ 23 (7) ของระเบียบ จึงยกเลิกคำสั่งเดิมในเรื่องนี้ และให้ออกหนังสือเดินทางทั่วไปให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ

“ในกรณีของหนังสือเดินทางทุกประเภทเมื่อถุกยกเลิกไปแล้วไม่ว่าด้วยเหตุผลใดๆ เช่น ยกเลิกโดยคำสั่งของกระทรวงฯ หรือการแจ้งสูญหาย กระทรวงจะยกเลิกการใช้งานของหนังสือเดินทางดังกล่าว เมื่อได้รับคืนสิทธิให้มีหนังสือเดินทาง บุคคลนั้นก็ไม่สามารถนำหนังสือเดินทางเล่มเดิมกลับมาใช้งานได้อีก การคืนสิทธิจึงจำเป็นต้องออกหนังสือเดินทางเล่มใหม่ให้เท่านั้น ซึ่งเมื่อกระทรวงการต่างประเทศ ยืนยันว่า การใช้ดุลพินิจในการออกหนังสือเดินทางให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นไปตามระเบียบฯ แล้วจึงเป็นกรณีที่คณะทำงานไม่อาจก้าวล่วงไปยังการใช้ดุลพินิจดังกล่าวของกระทรวงต่างประเทศได้”

ส่วนกรณีที่ผู้ตรวจการแผ่นดิน เสนอให้มีการปรับปรุงแก้ไขระเบียบกระทรวงการต่างประเทศว่าด้วยการออกหนังสือเดินทาง 2548 โดยเฉพาะในข้อ 21 (2) ที่กำหนดในลักษณะให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลยพินิจปฏิเสธ หรือยับยั้งการขอ หรือแก้ไขหนังสือเดินทางได้ในกรณีได้รับแจ้งว่าผู้ร้องเป็นผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างการปล่อยตัวชั่วคราว หรือเป็นผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้มีการออกหมายจับไว้แล้ว ซึ่งศาล หรือพนักงานฝ่ายปกครอง หรือตำรวจเห็นว่าไม่ควรจะออกหนังสือเดินทางให้นั้น ทางคณะทำงานของสำนักงานนายกรัฐมนตรี มีข้อสังเกตว่า การที่ระเบียบฯ มีลักษณะเปิดโอกาสให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจที่จะเลือกตัดสินใจวินิจฉัยในส่วนที่เป็นผลทางกฎหมายนั้น อาจเป็นเพราะการหนังสือเดินทางเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของประชาชน การวางระเบียบเกี่ยวกับการเพิกถอนสิทธิดังกล่าวย่อมไม่สามารถวางระเบียบให้พนักงานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตางเคร่งครัด แต่ต้องวางระเบียบให้พนักงานเจ้าหน้าที่สามารถใช้ดุลพินิจตัดสินใจตามแต่ละกรณีที่มีข้อเท็จจริงแตกต่างกัน การใช้ดุลพินิจจึงย่อมแตกต่างเช่นกัน

นอกจากนี้ ข้อ 21 (2) ของระเบียบดังกล่าว ถือเป็นมาตรการป้องกันไม่ให้ผู้ซึ่งกำลังรับโทษในคดีอาญา หรืออยู่ระหว่างปล่อยตัวชั่วคราว ผู้ต้องหาในคดีอาญาที่ได้ออกหมายจับแล้วหลบหนี แต่กรณีที่บุคคลดังกล่าวได้เดินทางออกนอกประเทศไปแล้ว มาตรการดังกล่าวอาจหมดความจำเป็นที่ศาล หรือฝ่ายปคกรองจะมีความเห็นมายังกระทรวงต่างประเทศว่าไม่ควรออกหนังสือเดินทางให้

“ในทางกลับกัน การคืนสิทธิในการมีหนังสือเดินทางกลับจะทำให้เป็นการสะดวกในการทรวบถึงความเคลื่อนไหว และสืบหาถิ่นที่อยู๋ในต่างประเทศของบุคคลประเภทนี้ได้ ซึ่งน่าจะตรงกับวัตถุประสงค์ของข้อ 21 (2) ของระเบียบฯ ที่เปิดช่องให้เจ้าหน้าที่ใช้ดุลพินิจในทางปฏบัติและตัดสินใจได้หลายอย่าง และแต่ละอย่างย่อมต้องถือว่าชอบด้วยกฎหมายเช่นเดียวกัน และโดยที่กระทรวงการต่างประเทศยังยืนยันว่า ได้ใช้ดุลยพินิจในการออกหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกต้องตามระเบียบแล้ว และเมื่อกระทรวงต่างประเทศ ยืนยันว่าการใช้ดุลพินิจคืนสิทธิเดิมของการมีหนังสือเดินทางให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ถูกต้องตามระเบียบฯ แล้ว คณะทำงานจึงเห็นควรเป็นที่ยุติ และในส่วนของข้อเสนอให้มีการปรับปรุงระเบียบฯ ข้อ 21 (2) นั้น ทางกระทรวงต่างประเทศกำลังจะตั้งคณะทำงานขึ้น คณะทำงานของสำนักนายกรัฐมนตรีก็ได้จะส่งข้อสังเกตไปให้พิจารณาต่อไป”


กำลังโหลดความคิดเห็น