xs
xsm
sm
md
lg

“ปู” สั่งตั้ง 3 วอร์รูมสู้ม็อบ “ชัยเกษม” โผล่การันตีไม่ขุดนิรโทษฯ ขึ้นมาอีก ท้าตุลาการดีเบต

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ชัยเกษม นิติสิริ (แฟ้มภาพ)
“นายกฯ ปู” ถกฝ่ายความมั่นคงรับมือผู้ชุมนุมยกระดับไล่รัฐบาล ผุด 3 วอร์รูมรับศึก “ชัยเกษม” โผล่อีก คราวนี้การันตีรัฐบาลจะไม่เอา พ.ร.บ.นิรโทษฯ มาพิจารณาอีก พร้อมใช้ตำแหน่งเป็นเดิมพัน รับกฎหมายดังกล่าวยกผิดให้ “นช.แม้ว” ที่ถูกสอบโดยองค์กรที่ตั้งขึ้นจากฝ่ายปฏิวัติ ชี้ม็อบไม่มีเหตุผลไล่รัฐบาล ท้าตุลการกลุ่มต้านออกมาดีเบตกัน ลั่นนายใหญ่ไม่กลับมาสู้คดีแน่ กลัวติดคุก

ที่ตึกไทยคู่ฟ้า ทำเนียบรัฐบาล วันนี้ (7 พ.ย.) น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เรียกประชุมฝ่ายความมั่นคง เพื่อประเมินสถานการณ์การชุมนุมกลุ่มต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยมี พล.ต.ประชา พรหมนอก นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี นายวราเทพ รัตนากร รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และรมช.เกษตรและสหกรณ์ นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา รมช.กลาโหม พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว ผบ.ตร. พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) และนายชูเกียรติ รัตนชัยชาญ เลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีเข้าร่วม โดยใช้เวลาการประชุมประมาณ 1 ชั่วโมง

พล.ต.ต.ธวัชกล่าวว่า การชุมนุมเวลานี้รัฐบาลยอมรับว่ามีความกังวล ประมาทไม่ได้ ด้าน พล.ท.ภราดรกล่าวว่า เป็นการประเมินสถานการณ์หลังกลุ่มมวลชนต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมยกระดับการชุมนุมอย่างต่อเนื่อง โดยนายกฯ สั่งตั้งทีมวอร์รูม 3 ชุด ประกอบด้วย 1. ชุดจัดระเบียบผู้ชุมนุม โดยมี รมว.มหาดไทย และ ผบ.ตร.ร่วมดูแล 2. ชุดประมวลเนื้อหาประชาสัมพันธ์ มีนายสุรนันทน์ เวชชาชีวะ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นหัวหน้าทีม ทำงานร่วมกับ รมว.ไอซีที ที่จะดูในเรื่องสื่อสารประชาสัมพันธ์ผ่านระบบโซเชียลมีเดีย และ 3. ทีมงานด้านกฎหมาย มีนายพงศ์เทพ นายชัยเกษม และเลขาธิการคณะกรรมการกฤษฎีกา เป็นคณะทำงาน ซึ่งนายกฯย้ำผู้ที่เกี่ยวข้องต้องออกมาประชาสัมพันธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ประชาชนรู้เท่าทันสถานการณ์ และนายกฯพร้อมชี้แจงเองในเรื่องที่จำเป็น

รมว.ยุติธรรมเอาตำแหน่งเป็นประกัน ไม่มีลักไก่

นายชัยเกษม นิติสิริ รมว.ยุติธรรม แถลงว่า ขณะนี้มีการยืนยันจากนายกฯ และพรรคเพื่อไทยแล้วว่า หากวุฒิสภามีมติคว่ำร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แม้สภาผู้แทนราษฎรจะมีสิทธิหยิบขึ้นมาพิจารณาใหม่ได้หลังจากครบ 180 วัน แต่จะไม่มีการหยิบยกเรื่องนี้ขึ้นมาอีก หมายความว่าจบ หยุด หมดสิ้นไป จะไม่มีการพิจารณาในเรื่องนี้ ฉะนั้นไม่ต้องกลัวว่าเรื่องนี้จะมีผลออกมาอย่างที่หลายคนพูดกัน จบคือจบ วางใจได้ ตนเอาตำแหน่งรมว.ยุติธรรมเป็นประกัน หากไม่จบในลักษณะนี้ตนยินดีไม่อยู่ในตำแหน่งนี้ต่อไป

นอกจากนี้ ขอยืนยันว่าเนื้อหาในร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมไม่มีอะไรที่เป็นกฎหมายเงินเลย หากเป็นเนื้อหาการเงินจะไม่สามารถพิจารณาได้เพราะไม่ได้การรับรองจากนายกฯ ถ้อยคำข้างในไม่มีอะไรที่แสดงว่าเป็นกฎหมายการเงิน แต่เป็นการนิรโทษกรรมเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่าใครที่เกี่ยวข้องกับเหตุการณ์นั้นจะได้รับผลจากกฎหมายฉบับนี้ทั้งหมด

นายชัยเกษมกล่าวว่า ส่วนที่กล่าวหารัฐบาลชุดนี้จะได้อานิสงส์ในคดีโครงการรับจำนำข้าวด้วยนั้น กฎหมายฉบับนี้ไม่มีอะไรเลยที่จะมาล้างผิดรัฐบาลชุดนี้ เพราะเป็นการนิรโทษกรรมให้กับสิ่งที่ต่อเนื่องกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากการรัฐประหาร 19 ก.ย. 49 ตนรับปากได้เลยว่าเรื่องจำนำข้าวจะไม่มีใครได้รับอานิสงส์จากกฎหมายฉบับนี้ แต่ถ้าเป็นเรื่องที่เกิดจากผลพวงการรัฐประหาร แล้วมีการสอบสวนที่ไม่เป็นธรรม อย่างคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ก็ตั้งพรรคพวกตัวเองที่สั่งได้และตั้งเป้าได้มาเป็นผู้ทำการสอบสวน ต่อมาบางส่วนมีมูล คตส.ได้ทำการฟ้อง บางส่วนทำไม่เสร็จส่งต่อมายังคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ดังนั้น อะไรที่ผ่านการสอบสวนของ คตส.ซึ่งเป็นองค์กรที่ตั้งมาเฉพาะกิจไม่ได้ใช้กระบวนการปกติ ผลพวงเหล่านี้เราคงไม่รับ คนที่ถูกลงโทษหรือที่ถูกสอบสวนอยู่ ต้องรับการนิรโทษกรรมจากกฎหมายฉบับนี้

“เราเองเคยถูก คตส.กล่าวหาในคดีทุจริตจัดซื้อเครื่องตรวจสอบวัตถุระเบิด หรือซีทีเอ็กซ์ ซึ่งตั้งแต่วันที่เริ่มทำการสอบสวน มีคนรู้จักผมที่เป็นอนุกรรมการโทรศัพท์มาหาบอกว่าหากให้การปรักปรำ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ในเรื่องซีทีเอ็กซ์ ผมจะไม่ถูกดำเนินคดีใดๆ เลย แต่ผมเห็นว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้องและไม่เป็นธรรม จึงบอกกลับไปว่าไม่สามารถใส่ความหรือใส่ร้ายใครได้ ผมอยู่ในผลพวงนี้ 7-8 ปี ที่สุด ป.ป.ช.ระบุว่าคดีดังกล่าวไม่มีอะไรเลย นี่เป็นตัวอย่างให้เห็นว่าความไม่เป็นธรรมเกิดขึ้น ถ้าล้างได้จะดี แต่ถ้าประชาชนยังไม่เข้าใจเราก็ต้องยอมปล่อยให้บ้านเมืองเดินไปอย่างกระท่อนกระแท่นเหมือนที่ผ่านมา และเมื่อมีความต้องการให้กฎหมายฉบับนี้ยุติจากหลายๆ กลุ่ม นายกฯ และพรรคเพื่อไทยจึงได้สนองตอบไปแล้ว”

รมว.ยุติธรรมกล่าวว่า กรณีผู้พิพากษา “กลุ่มตุลาการผู้รักแผ่นดิน” จำนวน 63 ราย ออกมาคัดค้านนั้น ต้องให้ตุลาการเหล่านี้มาดีเบตกับตน ตนไม่ทราบว่าท่านทราบข้อเท็จจริงทุกอย่างชัดเจนหรือไม่ แล้วตุลาการเหล่านั้นเป็นตุลาการระดับไหน เพราะตุลาการที่ออกมาตนไม่ทราบว่ารู้เรื่องเกี่ยวกับการแต่งตั้ง คตส. การดำนินคดีของ คตส. และผลที่ คตส.ทำให้เกิดความปั่นป่วนวุ่นวายในวงการการเมืองและประเทศหรือไม่ เรื่องนี้ตนพร้อม เพราะเป็นคนที่ถูก คตส.กล่าวหามาแล้ว ความจริงในขณะที่ถูกสอบสวนมีอะไรมากกว่านั้น เรื่องนี้หากตนถูก คตส.สอบสวนแล้วส่งฟ้องในขณะที่ คตส.ยังอยู่ ตนอาจไม่มีโอกาสมานั่งอยู่ตรงนี้ แต่โชคดีที่ คตส.ทำไม่ทัน ได้แค่ข้อสรุปว่าควรฟ้องตน จึงส่งไป ป.ป.ช.

รมว.ยุติธรรมกล่าวด้วยว่า คิดว่าหลังจากชี้แจงในครั้งนี้แล้วหากประชาชนส่วนใหญ่เข้าใจว่าเรื่องดังกล่าวเป็นกระบวนการของสภาไม่ใช่รัฐบาล หากจะมาล้มรัฐบาลด้วยเหตุนี้ไม่ถูกต้อง แต่เมื่อรัฐบาลเข้ามาแก้ปัญหาเพื่อให้เกิดความเรียบร้อย ฉะนั้น เหตุผลที่จะมาไล่รัฐบาลนั้นไม่มี เมื่อไม่มีที่เคยคิดว่าจุดติดน่าจะจุดไม่ติดแล้ว น่าจะดับได้ เมื่อทุกคนได้รับความพอใจตามที่ต้องการแล้วควรกลับบ้านไปทำมาหากินเพื่อให้บ้านเมืองเดินต่อไปได้ ถ้าม็อบยังอยู่ถือว่าเป็นม็อบที่ไม่มีเหตุผล ซึ่งคนปลุกม็อบยิ่งไม่มีเหตุผลใหญ่ เลือกตั้งคราวหน้าก็อย่าเลือกคนปลุกม็อบ ตนจึงเชื่อว่าน่าจะจบ ถ้าเห็นแก่ชาติบ้านเมืองควรจะจบ ถ้าไม่จบแสดงว่าเป็นม็อบพิเศษ เพราะไม่มีเหตุผลเพียงพอในการไล่รัฐบาล

ผู้สื่อข่าวถามว่า จะไปปรับแก้กฎหมายให้เหลือเพียงการช่วยเหลือประชาชนที่เกี่ยวข้องกับชุมนุมหรือไม่ นายชัยเกษมกล่าวว่า ต้องถามประประชาชนก่อน เพราะการพิจารณาร่าง พ.รบ.นิรโทษกรรมในวาระ 2 และ 3 ที่ผ่านมายอมรับว่าเร็วไปหน่อย เลยมีปัญหา ถ้าจะทำต้องมีความรอบคอบ ต้องดูด้วยว่าประชาชนตกลงหรือไม่ แต่ถ้ายังเป็นอย่างนี้อยู่ก็ไม่ทำ ตอนนี้ยุติเต็มร้อย ถ้าจะทำใหม่ไม่ใช่ 3-5 วัน หมดอายุรัฐบาลชุดนี้ค่อยว่ากัน

เมื่อถามว่า มีบางฝ่ายอยากให้หาข้อเท็จจริงให้ยุติก่อนค่อยออกกฎหมาย นายชัยเกษมกล่าวว่า การหาความจริงจะใช้เวลาเท่าไร ถ้าคดีต้องขึ้นศาลต้องใช้ระยะเป็นสิบปี การตั้งคณะกรรมการต่างๆ ขึ้นมาหาความจริงก็ไม่ได้ความจริงร้อยเปอร์เซ็นต์ สุดท้ายต้องไปจบที่ศาล แล้วไม่มีใครกล้าวิพากษ์วิจารณ์ศาล เมื่อถามว่าในทางกฎหมายเป็นไปได้หรือไม่ที่จะให้ พ.ต.ท.ทักษิณ กลับมาเข้าสู้คดีตามกระบวนการ นายชัยเกษมกล่าวว่า “กลับมาสู้คดีตามกระบวนการแล้วใครจะมั่นใจว่าท่านจะไม่ถูกรวบ หรืออยู่ในคุกระหว่างต่อสู้คดีอีกสิบปี”


กำลังโหลดความคิดเห็น