หน.ปชป.เผย ปชช.รวมใจค้านล้างผิด รัฐต้องทำตาม นายกฯ ทำความเข้าใจสลัดพ้น “พี่แม้ว” ดื้อไปป่วยการ งงร้องไห้ให้ใคร ทั้งที่ล้างผิดคนโกงแลกผู้สูญเสีย ชี้เหลือเวลาแสดงจุดยืนไม่มาก ฟังเห็นต่างบ้าง รับตกใจปฏิกิริยา ปชช. ย้อนค้านมาเป็นปีไม่เกี่ยวล้มรัฐ ฉะขี้ข้าโกหกตามนาย หวังวุฒิฯ คว่ำ กม.หยุดขัดแย้ง ชี้มีสัญญาณที่ดี ตอบไม่ได้ม็อบยุติตอนไหน ยันชาติต้องขอความเป็นธรรมนายกฯ มากกว่า ฉะ “นช.แม้ว” อยู่นอกประเทศดีแล้วอย่าให้ทุกคนต้องเสียสละ
วันนี้ (5 พ.ย.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงปรากฏการณ์การชุมนุมของประชาชนในหลายพื้นที่เพื่อต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับสุดซอย ว่าไม่ใช่แค่จำนวนคนที่ออกมาที่สีลมและอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย แต่มีการเคลื่อนไหวทั้งประเทศ ทั้งในแง่พื้นที่ สถาบัน เครือข่ายต่างๆ เป็นเสียงเดียวกันว่าประชาชนไม่ยอมรับการออกกฎหมายล้างผิดให้กับคนคอร์รัปชัน ทุจริต หรือทำผิดกฎหมายร้ายแรง ซึ่งน่าจะเป็นปรากฏการณ์ครั้งแรกในรอบหลายปีที่บุคคลไม่เกี่ยวข้องกับการเมืองแสดงออกว่าไม่ยอมรับสิ่งนี้ และคาดหวังว่ารัฐบาลต้องฟัง ทบทวน เปลี่ยนใจเอาเรื่องนี้ออกไป ส่วนที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกฯ ยังยืนยันจะเดินสุดซอย และมอบให้นายจารุพงศ์ เรืองสุวรรณ รมว.มหาดไทย ชี้แจงว่ากฎหมายนิรโทษกรรมจะช่วยสร้างความปรองดองในชาตินั้น ตนคิดว่าเวลานี้คนที่ควรทำความเข้าใจคือนายกฯว่าทำไมสังคมต่อต้าน หากกฎหมายนี้ออกไปก็ป่วยการที่จะพูดถึงระบบกฎหมาย ป่วยการที่จะพูดถึงเรื่องทุจริตคอร์รัปชัน ตนไม่อยากเชื่อว่านายกฯ จะไม่เข้าใจ แต่นายกฯต้องสลัดตัวเองให้พ้นจากพี่ชาย จากผลประโยชน์คนรอบข้าง และประโยชน์ของตัวเอง ก็จะเข้าใจว่าทำไมคนจึงออกมาต่อต้านเรื่องนี้
ผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีที่นายกรัฐมนตรีหลั่งน้ำตาอยากให้ชาติเดินหน้าด้วยการให้อภัยกันมองอย่างไร นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนเข้าใจยากว่าหลั่งน้ำตาเพื่อสะท้อนอะไร ทำไมไม่คิดว่าคนสูญเสียเขามีสิทธิได้รับทราบข้อเท็จจริง เขามีสิทธิเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม มีสิทธิที่จะให้สังคมค้นหาผู้รับผิดชอบ
“ผมไม่เข้าใจว่าจะหลั่งน้ำตาให้ใคร กับการที่เอาข้อเสนอว่าคนโกงอยากพ้นผิด ถึงขั้นทุกคนต้องเสียสละ ทั้งคนที่สูญเสียชีวิตคนในครอบครัวไปแล้วด้วย และที่อ้างว่าขอให้ยึดหลักการให้อภัยและเมตตาธรรมนั้นก็ไม่มีปัญหาเรื่องให้อภัยแต่การให้อภัยจะเกิดขึ้นก็ต่อเมื่อทำคนทำผิดสำนึกผิด แต่สิ่งที่รัฐบาลกำลังทำไม่ใช่การให้อภัยแต่เป็นการออกกฎหมายเพื่อลบล้างความผิด ผมเป็นห่วงว่าสถานการณ์จะลุกลามบานปลายออกไป รัฐบาลและนายกเหลือเวลาไม่มากในการแสดงจุดยืนต่อกฎหมายนี้ เพราะปฏิกริยาผู้คนถ้าไม่มีการเปลี่ยนแปลงจะลุกลามเป็นเรื่องอื่น ซึ่งถึงจุดนั้นปัญหาจะแก้ยาก” นายอภิสิทธิ์กล่าว
นายอภิสิทธิ์กล่าวด้วยว่า นับตั้งแต่วินาทีนี้เป็นต้นไปนายกรัฐมนตรีควรแสดงจุดยืนต่อกฎหมายให้ชัดเจนเร็วเท่าไหร่ยิ่งดี แสดงจุดยืนว่าจะทบทวนเรื่องนี้ เพราะตนทราบว่าอารมณ์ของคนไปถึงขั้นขับไล่รัฐบาลแล้วจึงอยากให้นายกฯคิดถึงความเรียบร้อยและประโยชน์ประเทศ ลองฟังคนอื่นบ้าง เพราะถ้านายกฯไม่เข้าสภาเลย ไม่พยายามที่จะฟังเสียงคนอื่น ฟังแต่พี่ชายกับคนรอบข้างจะไม่มีวันเข้าใจปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นจากการแสดงออกของประชาชนที่อออกมาต่อต้าน พวกตนยังตกใจกับปฏิกริยาที่ประชาชนออกมาต่อต้าน ส่วนที่พรรคเพื่อไทยกล่าวหาว่าเป็นแผนช่วงชิงอำนาจของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ก็เพราะไม่เคยฟังและโกหก พวกตนปราศรัยมาเป็นปีคัดค้านเรื่องนี้ และไม่อยากยุ่งเกี่ยวกับการล้มหรือไม่ล้มรัฐบาลทั้งสิ้น บอกว่าคัดค้านเรื่องนี้เรื่องเดียวให้เอาออกไปก็จบ ตอนที่ไม่มีเรื่องนี้เข้ามา บ้านเมืองก็สงบ เดินหน้าได้ เพราะฉะนั้นอย่ามาแต่งนิทานเลย พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ก็พูดอยู่ที่ต่างประเทศ ลูกน้องพูดตาม เหลวไหลทั้งนั้นทั้งลูกน้องและหัวหน้าพูดจาไม่ดูข้อเท็จจริง ถ้ายังเป็นอย่างนี้ก็จะรุนแรงมากขึ้น เพราะขณะนี้การเคลื่อนไหวก็เข้มข้นมากขึ้นทุกขณะ ต้องถามว่าจะนำพาประเทศไปสู่ความขัดแย้งเพิ่มขึ้นเพราะอะไรถ้าไม่ใช่ทำเพื่อตัวเอง คนที่ได้ประโยชน์จากการเดินหน้าขัดแย้งมีแต่ พ.ต.ท.ทักษิณกับพวกเท่านั้น คนอื่นไม่มีใครได้อะไร ประเทศไม่ได้อะไรเลย
อย่างไรก็ตาม ตนยังหวังว่าสมาชิกวุฒิสภาจะมีส่วนช่วยปลดชนวนความขัดแย้งนี้ด้วยการคว่ำกฎหมายนิรโทษกรรมที่เป็นต้นตอของความขัดแย้ง ซึ่งในขณะนี้เริ่มมีสัญญาณที่ดีว่า สมาชิกวุฒิสภาก็มีการถกในประเด็นนี้แต่อยากให้แสดงเจตนาที่ชัดเจนว่าถ้าไม่เห็นด้วยก็แสดงเจตนาอย่างรวดเร็ว เปิดเผย รวมจำนวน ส.ว.ให้ได้มากกว่าเกินหนึ่งเพื่อประกาศจุดยืนไม่เห็นชอบกฎหมายฉบับนี้ก็จะช่วยลดความตึงเครียดในสังคมได้ เพราะแม้ว่าหลังการคว่ำกฎหมายของสมาชิกวุฒิสภาแล้ว สภาผู้แทนราษฎรสามารถยืนยันกฎหมายด้วยเสียงข้างมากได้อีกครั้ง แต่ก็ต้องทิ้งไว้ 6 เดือน ทุกคนก็ตั้งหลักกันได้
เมื่อถามว่า ถ้า ส.ว.ถอดชนวนตรงนี้ก็จะทำให้การชุมนุมที่มีอยู่สลายไปได้ใช่หรือไม่ นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า ตนตอบแทนผู้ชุมนุมไม่ได้ แต่เวลาที่มีอยู่ขอให้รัฐบาลเร่งทบทวน ส.ว.ที่มีส่วนจะปลดชนวนออกได้ถ้ารวมตัวให้เกินครึ่งมาแสดงเจตนาให้ชัดเจนก็จะลดความตึงเครียดและการเผชิญหน้าระหว่างกันได้ ส่วนที่นายขวัญชัย ไพรพนา ประธานชมรมคนรักอุดร ระบุว่าจะขนคนเข้ามาเผชิญหน้ากับกลุ่มต้านนิรโทษกรรมและนายการุณ โหสกุล ได้โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัวว่าจะออกมาสู้ข้างถนนด้วยนั้น “ก็ต้องถามนายกฯ ว่านี้คือความปรองดองในความหมายของนายกฯใช่หรือไม่แล้วร้องไห้ทำไม ซึ่งตนไม่อาจเข้าใจได้เพราะสิ่งที่นายกฯ ทำอยู่ในขณะนี้โหดร้ายกับประเทศไทยมาก ไม่รู้จะมาขอความเมตตาอะไร ประเทศต้องขอความเป็นธรรมจากนายกมากกว่าว่าทำไมถึงทำกับประเทศอย่างนี้”
ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ระบุว่า ทุกฝ่ายต้องยอมเสียสละบ้างนั้น นายอภิสิทธิ์กล่าวว่า สิ่งที่เกิดขึ้นคือทุกคนต้องเสียสละให้ พ.ต.ท.ทักษิณหมด มันเรื่องอะไรที่จะต้องเป็นอย่างนั้น เพราะคนในประเทศนี้อยู่ภายใต้กฎหมายหมด มี พ.ต.ท.ทักษิณคนเดียวที่บอกว่าจะต้องอยู่เหนือกฎหมายและทุกคนต้องเสียสละเพื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ตนจึงคิดว่าอยู่นอกประเทศดีแล้วอย่ามายุ่งเลย
