โฆษก ปชป. เชื่อนายกฯ เยือนมอนเตเนโกร ลงนามยกเว้นวีซ่าหนังสือเดินทางทูตและราชการไทย มีนัยยะทางการเมือง จี้รัฐบาลแจง “นช.ทักษิณ” กลับไทยในฐานะพลเมืองมอนเตเนโกรหรือไม่ ด้าน ส.ส.ดอนเมือง แฉหลักฐาน “เก่ง-การุณ” โพสต์เฟซบุ๊ก โชว์ภาพถ่าย “แม้ว” ร่วมกับ “หญิงหน่อย-อนุดิษฐ์” จี้ “ธาริต” เรียกมาแจง อย่าสองมาตรฐานเหมือน “เจนนี่-เอ๋” ดอดพบ “วัฒนา”
วันนี้ (11 ก.ย.) นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับการบริหารประเทศของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ว่า ไม่มีการแก้ปัญหาปล่อยให้ประชาชนรู้สึกชินชากับปัญหา โดยนายกฯ เลือกที่จะเดินทางไปต่างประเทศ คือ สวิส อิตาลี และ มอนเตเนโกร โดยที่สวิส นายกฯ ได้แสดงวิสัยทัศน์ต่อที่ประชุมข้าหลวงใหญ่สิทธิมนุษยชนแห่งสหประชาชาติว่า เคารพเสียงข้างน้อยไม่ยัดเยียดความต้องการของคนใดคนหนึ่งให้ฝ่ายตรงข้าม ขอให้ปฏิบัติตามด้วยการยัดเยียดกฎหมายล้างผิด เคารพเสียงฝ่ายค้านได้ทำหน้าที่ผู้แทนประชาชน แต่ตอนนี้รัฐบาลยัดเยียดการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้คนทั้งประเทศ จนพรรคไม่มีโอกาสได้พูดถึงปัญหาพี่น้องประชาชน เช่น ของแพง และรู้สึกผิดหวังที่ รมว.พาณิชย์ ระบุว่า การนำเสนอข่าวจะชี้นำทำให้ราคาสินคาแพงขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเดือดร้อนเรื่องการปรับราคาแก๊สหุงต้มด้วย ดังนั้นเมื่อนายกฯเดินทางกลับมาก็อยากให้ปฏิบัติตามที่พูดด้วย
นายชวนนท์ ยังกล่าวถึงการเดินทางไปประเทศมอนเตเนโกร ซึ่งเป็นสถานที่พักพิงของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร พี่ชายนักโทษหนีคดีของนายกรัฐมนตรี โดยมีการทำข้อตกลงยกเว้นวีซ่าเฉพาะหนังสือเดินทางราชการ และทางการทูตระหว่างสองประเทศ มีนัยยะว่าการยกเว้นตรวจลงตราระหว่างสองประเทศ แม้จะเป็นเรื่องปกติแต่จะต้องดูความสำคัญของประเทศด้วยว่าจะเป็นประโยชน์อย่างไร แต่ถ้าเซ็นแล้วเราไม่ได้ประโยชน์ รัฐบาลต้องอธิบายทำไมเลือกมอนเตเนโกร เพราะไทยไม่มีการดำเนินการลักษณะนี้กับประเทศแถบยุโรป แต่มอนเตเนโกรเป็นประเทศเล็กประมาณปลายด้ามขวานไทย มีพลเมือง 6.6 แสนคน ปี 2554 จำนวนนักท่องเที่ยวมาไทย 211 คน มูลค่าการค้าระหว่างไทย-มอนเตเนโกร ประมาณ 210 ล้านบาท ไทยนำเข้าในปี 54 จากมอนเตเนโกร 9 ล้านบาท ต้องถามว่ามีความสำคัญถึงขั้นต้องยกเว้นวีซ่าเลยหรือไม่
นอกจากนี้ พ.ต.ท.ทักษิณ ยังถือพาสปอร์ตมอนเตเนโกร จึงต้องถามว่าถ้า พ.ต.ท.ทักษิณ ถือพาสปอร์ตทูตราชการของมอนเตเนโกร จะเดินทางเข้าประเทศไทยในฐานะพลเมืองมอนเตเนโกร รัฐบาลไทยจะทำอย่างไร รัฐบาลต้องตอบ จะจับเขาในฐานะที่ถือพาสปอร์ตเป็นพลเมืองมอนเตเนโกรได้หรือไม่ เพราะตนก็กลัวว่าจะเกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เพราะหนังสือเดินทางทูตนั้นได้รับความคุ้มครอง อีกทั้งระดับอธิบดีหรือข้าราชการ ส.ส.ที่ถือพาสปอร์ตสีน้ำเงินเดินทางไปมอนเตเนโกรได้เลย โดยตรวจสอบยากขึ้นเพราะไม่ต้องขอวีซ่า จึงขอให้รัฐบาลให้คำตอบกับประชาชนว่าทำไมยกเว้นวีซ่ากับประเทศเล็กๆ แบบนี้ เพราะมีนัยยะทางการเมืองสูงมาก ว่าน่าจะเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ
ด้าน นายแทนคุณ จิตต์อิสระ ส.ส.กรุงเทพมหานคร และรองโฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ได้นำหลักฐานภาพถ่ายนายการุณ โหสกุล คุณหญิงสุดารัตน์ เกยุราพันธุ์ และ น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที เดินทางไปพบ พ.ต.ท.ทักษิณ โดยระบุวันที่เดินทางไว้ในเฟซบุ๊กว่าอยู่ระหว่างวันที่ 8-10 กันยายน นอกจากนี้ยังโพสต์หลักฐานตั๋วเครื่องบินด้วย ตนจึงอยากถาม นายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ที่เพิ่งได้รับการต่ออายุในตำแหน่งเดิมอีก 1 ปี ว่าจะดำเนินการอย่างไร และจะมีบรรทัดฐานในการดำเนินการอย่างไร เนื่องจากกรณีที่ นายชนม์สวัสดิ์ และ นางเจนนี่ อัศวเหม ถ่ายภาพคู่กับนายวัฒนา อัศวเหม อดีต รมช.มหาดไทย ที่หนีคำพิพากษาศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมืองไปอยู่ต่างประเทศ โดยระบุว่าจะเชิญบุคคลทั้งสองมาให้ข้อมูลเพื่อติดตามตัวนายวัฒนากลับมาดำเนินคดี จึงต้องถามว่าจะทำอย่างไรกับนายการุณ คุณหญิงสุดารัตน์ และ น.อ.อนุดิษฐ์ ที่เดินทางไปพบนักโทษหนีคดีที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดแล้วอย่าง พ.ต.ท.ทักษิณ อย่างไร จะเชิญบุคคลทั้งสามมาชี้แจงกับดีเอสไอหรือไม่
นายแทนคุณ ยังกล่าวต่อว่า นายธาริตต้องไม่เลือกปฏิบัติ หรือละเว้นในการปฏิบัติหน้าที่ แต่จะต้องเชิญบุคคลที่ไปพบกับนักโทษหนีคดีมาชี้แจง เพื่อดำเนินการกับผู้ที่ต้องคำพิพากษาถึงที่สุดด้วย ทั้งนี้ต้องขอบคุณนายการุณที่กรุณาโพสต์หลักฐานขึ้นเฟซบุ๊กด้วย ทั้งนี้ยังเรียกร้องให้มีการเปิดเผยผลการเจรจาการค้ากับประเทศต่างๆ ที่นายกรัฐมนตรีเดินทางไปโดยใช้งบประมาณกว่า 300 ล้านบาท ว่าเกิดประโยชน์ต่อประเทศไทยอย่างไรด้วย