“มาร์ค” ย้ำต้องค้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรมถึงที่สุด หากผ่านได้ต่อไปบ้านเมืองจะมีรบราฆ่าฟันตลอด ยันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ส.ส.ประชาธิปัตย์จะทำหน้าที่ในสภาเต็มที่ พร้อมทำสัญญาใจกับผู้ร่วมชุมนุมต้องทำตามกรอบของกฎหมาย เพื่อพิสูจน์ให้เห็นว่าไม่มีพฤติกรรมสันดานเหมือนเสื้อแดง
วันนี้ (6 ส.ค.) เมื่อเวลา 21.14 น. นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวปราศรัยบนเวทีผ่าความจริง บริเวณลานกีฬาใต้ทางด่วนอุรุพงษ์ ช่วงหนึ่งว่า ประชาธิปัตย์ไม่ได้มีความคิดล้มล้างรัฐบาล หรือแย่งชิงอำนาจ การที่รัฐบาลพยายามบอกว่าจะตั้งสภาปฏิรูป เชิญทุกฝ่ายมาร่วม เราก็บอกแล้วว่าถ้าอยากหาทางออกให้ประเทศจริงๆ สิ่งที่ต้องทำก่อนคือแสดงความบริสุทธิ์ใจ ด้วยการถอนร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม หรือเลื่อนออกไป แต่ 3-4 วันที่ผ่านมานายกฯ บอกว่ามาคุยกันก่อน แต่เรื่องนิรโทษกรรมปล่อยให้เป็นเรื่องของสภา แสดงว่าไม่ได้สำนึกเลย
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่อว่า เราเป็นฝ่ายค้านที่มีความรับผิดชอบ ฉะนั้นจะไปทำหน้าที่ในสภาวันพรุ่งนี้ (7 ส.ค.) ส.ส.ประชาธิปัตย์ต้องการเข้าไปพูด เพราะเรื่องนี้สำคัญที่สุด เป็นกฎหมายที่ทำลายหลายสิ่งหลายอย่าง เราเป็นตัวแทนชาวไทย ต้องการทำหน้าที่เต็มที่ อย่าสกัดกั้นเรา
วันนี้ฝ่ายค้านมีการประชุม ขอให้พวกเราทำหน้าที่เต็มที่ สะท้อนความคิดเห็นทุกแง่ทุกมุม สภาคือที่ที่ต้องมีการพูด อย่าได้ปิดกั้น และสภาไม่ได้เป็นเวทีของตัวแทนประชาชนเท่านั้น แต่ตัวจริงคือพี่น้องที่อยู่นอกสภามีสิทธิรับรู้ทุกขั้นตอน แต่รัฐบาลไม่ให้ถ่ายทอดช่อง 11 คุณกลัวอะไร
หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าวอีกว่า สิ่งที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ทำกับแผ่นดินไทยหนักหนาสาหัสมากพอแล้ว แต่ยังคิดล้างความผิดเก่าเพื่อจะได้ทำความผิดใหม่ได้อย่างไร สิ่งที่กำลังเกิดขึ้น พ.ร.บ.นิรโทษฯ ฉบับนายวรชัย บอกว่าไปแค่ครึ่งซอย ยังไม่สุดซอย เพราะอีกหลายฉบับเลวร้ายกว่านี้ซึ่งก็ยังค้างอยู่ในวาระสภา แล้วถ้าฉบับนายวรชัยผ่าน มันก็เอาอีกครึ่งซอยไปสุดซอยจนได้ หรือดีไม่ดีก็แทรกในวาระ 2-3 ในกระบวนการพิจารณาของสภา จนในที่สุดก็จะบรรลุ ถ้าไม่มีความคิดนี้บรรดาขี้ข้าไม่พูดว่าจะกลับมาภายในปีนี้ปีหน้า เจตนามันชัด
นายอภิสิทธิ์กล่าวอีกว่า คนที่จะได้รับอานิสงส์จาก พ.ร.บ.นิรโทษฯ นี้ คือคนฆ่า ระเบิด เผา หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ และถ้ามีโอกาสจะแถมคนโกงเข้าไปด้วย ถามว่าตรงไหนที่เป็นเรื่องเชิงต่อสู้ทางการเมือง คนเอาระเบิดมาจากบ้าน พกอาวุธมา รัฐธรรมนูญเขียนอยู่แล้วว่าการใช้สิทธิต้องสงบ ปราศจากอาวุธ ถ้ามามือเปล่าแล้วเกิดชุลมุนตนเข้าใจ แต่ไม่มีใครที่ไหนบอกบริสุทธิ์ใจแต่พกอาร์พีจีมาด้วย
ถ้าตีความแบบนั้น ถ้าวันนี้มีคนทำบ้างจะนิรโทษกรรมให้ไหม ถ้าเป็นอย่างนั้น ต่อไปบ้านเมืองจะรบราฆ่าฟันตลอด พอฝ่ายไหนไม่พอใจก็เตรียมกองกำลัง ฝึกอาวุธ พอมีอำนาจก็ไปเข้าไปบัญญัติกฎหมายให้ไม่เป็นความผิด แล้วที่รัฐธรรมนูญที่ระบุว่าการใช้สิทธิต้องชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ จะเหลือความหมายอะไร
แล้วกองกำลังที่ฝึก นายอริสมันต์เคยบอกเองว่าการต่อสู้ของพวกเขานั้น มีมวลชน พรรคการเมือง และกองกำลัง เป็นการยืนยันว่าไม่ได้ดำเนินการต่อสู้ทางการเมืองโดยสุจริต แต่มีการวางแผนล่วงหน้า แกนนำอย่ามาปฏิเสธว่าไม่รู้ นายใหญ่ก็อย่าปฏิเสธเพราะเสียตังค์กับเรื่องนี้ไปเยอะแล้ว
เราจึงบอกว่าต้องเดินหน้าคัดค้าน แล้วคนที่ค้านทั้งหมดไม่ว่าเวทีนี้หรือเวทีสวนลุมฯ ไม่ได้อะไรเป็นการส่วนตัว แต่ต้องการเห็นบ้านเมืองที่มีความถูกต้อง สงบสุข ไว้สำหรับลูกหลานของเรา ไม่ต้องมาหลอกกันว่าทำเพื่อความสามัคคีปรองดอง เพราะตั้งแต่ฝ่ายรัฐบาลมีอำนาจ แสดงให้เห็นความปรองดองบ้างไหม มีแต่การทำตัวอันธพาลตลอด ใครเห็นไม่ตรงก็ข่มขู่คุกคามในรูปแบบต่างๆ
นายอภิสิทธิ์กล่าวต่ออีกว่า พรุ่งนี้เสร็จจากเวทีนี้ พวกตนจะทำหน้าที่ในสภาเต็มที่ทุกคน เพื่อไม่ให้เป็นลักษณะต่างคนต่างทำเลยนัดหมายกันเดินไปรัฐสภาพรุ่งนี้ สำหรับพี่น้องนั้นอยากไปส่งเรา อยากไปเคียงข้างเรา ตนต้องขอบคุณน้ำใจอันหาญกล้าทุกคน แต่ต้องขอให้ทุกคนรักษากติกา เราประณามการกระทำของผู้ชุมุนุมเสื้อแดงปี 52-53 อย่างไร เราต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าเราไม่มีพฤติกรรมสันดานอย่างนั้น ให้เจ้าหน้าที่บ้านเมืองสบายใจได้เรามาต่อสู้ให้คนเคารพกฎหมาย เราจะเป็นแบบอย่างในการเคารพกฎหมาย พี่น้องยืนยันได้ไหม เป็นสัญญาใจว่าเราจะเคลื่อนไหวตามกรอบของกฎหมาย และต่อสู้ให้ถึงที่สุด