ฝ่ายค้าน โวย กมธ.ปล่อยสงวนคำแปรระบุชื่อ “ทักษิณ” ตัดคำแปรญัตติ ส.ส. เสียงข้างน้อย จี้ถอนร่างเหตุขัดข้อบังคับ ‘สามารถ’ ยันไม่ถอน มั่นใจทำถูกต้อง ด้านพยาบาลสภาฯ หาม “สมคิด” ส่ง รพ.พระมงกุฎฯ เหตุโรคกระดูกคอเคลื่อนกำเริบ
วันนี้ (31 ต.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎรพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. .... แม้นายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา จะพยายามเดินเกมเร็วด้วยการบีบให้สภาเข้าสู่วาระ แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ก็ยังคงพยายามถ่วงเวลา ด้วยการขอให้คณะกรรมาธิการถอนรายงาน ออกไปก่อนเนื่องจากมีความบกพร่อง
โดยนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะกรรมาธิการ กล่าวว่า ในรายงานของกรรมาธิการ หน้าที่ 24 ปรากฏว่าในคำแปรญัตติเพื่อแก้ไขถ้อยคำในกฎหมายของนายชาดา ไทยเศรษฐ์ ส.ส.อุทัยธานี พรรคชาติไทยพัฒนา ได้ระบุชื่อ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี และหน้าที่ 80-82 ยังได้มีคำแปรญัตติที่เสนอเป็นกลุ่มบุคคล ซึ่งประธานกรรมาธิการได้มีความเห็นไว้ต่อที่ประชุมแล้วว่าไม่สามารถดำเนินการได้ โดยเฉพาะการเสนอคำแปรญัตติที่ผู้แปรญัตติแต่ละคนจะต้องแยกกันเสนอถ้อยคำ เพื่อให้เจตนารมณ์ของผู้เสนอคำแปรญัตติแต่ละคน
นายสามารถ แก้วมีชัย ประธานกรรมาธิการชี้แจงว่า เรื่องนี้ได้ตรวจสอบแล้วว่าคำแปรญัตติของนายชาดาได้มีการใส่ชื่อบุคคลจริงแต่ได้พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่ได้มีลักษณะเสียดสีหรือเป็นการให้ร้าย เพียงแต่เป็นถ้อยคำเพื่อประกอบการเสนอคำแปรญัตติเท่านั้น ส่วนคำแปรญัตติที่เสนอเป็นกลุ่มนั้นได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบแล้วและให้ดำเนินการแยกคำแปรญัตติเป็นรายบุคคลออกมาต่อไป
สำหรับคำแปรญัตติของนายชาดามีถ้อยคำพอสังเขปว่า “กรณีเหตุทั้งปวงที่เกิดขึ้นจากการชุมนุมทางการเมือง ทำให้มีการรัฐประหารรัฐบาล พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และมีการดำเนินคดีต่างๆ กับ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว ให้ยกความผิดให้ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร และครอบครัว เพื่อมิให้เกิดความขัดแย้งในการแบ่งฝักฝ่าย ความหวาดระแวงขึ้นในสังคมจึงอาจนำมาซึ่งความวุ่นวายโดยให้เพิกถอนสิทธิทางการเมืองกับ พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร โดยมิให้ยุ่งเกี่ยวกับการเมืองโดยเด็ดขาด และให้ดำรงตนเป็นข้ารับใต้ฝ่าละอองธุลีพระบาทโดยมั่นคง”
ด้านนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ผู้นำฝ่ายค้านฯ ในฐานะกรรมาธิการ ได้ท้วงติง ว่าเหตุใดถึงตัดคำแปรญัตติเพื่อแก้ไขชื่อร่าง พ.ร.บ.ของ ส.ส.บางคนออกอย่างนายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส. ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ เพราะการเสนอคำแปรญัตติเป็นสิทธิ์ของ ส.ส. ตามข้อบังคับการประชุมสภาฯ ขณะเดียวกันพบว่ายังบรรจุคำแปรญัตติของกรรมาธิการเสียงข้างมากบางคนที่สนับสนุนคำแปรญัตติของนายประยุทธ์ ศิริพานิชย์ รองประธานกรรมาธิการเอาไว้ในรายงาน
นายสามารถชี้แจงว่า คำแปรญัตติของนายสาธิตมีลักษณะเป็นการเสียดสีบุคคลซึ่งขัดกับข้อบังคับการประชุมสภาฯ ข้อที่ 61 ทำให้ไม่สามารถบรรจุคำแปรญัตติของนายสาธิตเอาไว้ในรายงานได้เพื่อให้เป็นบรรทัดฐานต่อไปในอนาคต ส่วนการบรรจุคำแปรญัตติของกรรมาธิการเสียงข้างมากบางคนที่สนับสนุนคำแปรญัตติของนายประยุทธ์ไว้ในรายงาน นั้นเพราะเห็นว่ากรรมาธิการได้ใช้สิทธิ์เพื่อขอแก้ไขถ้อยคำในร่างกฎหมายซึ่งพิจารณาแล้วเห็นว่าเป็นไปข้อบังคับการประชุมสภาฯที่ได้รับรองสิทธิ์ในการเสนอคำแปรญัตติเอาไว้ ทั้งหมดนี้จึงเห็นว่ารายงานของคณะกรรมาธิการชอบด้วยข้อบังคับการประชุมสภาฯและรัฐธรรมนูญทุกประการ
จากนั้น การประชุมสภาฯ ได้เริ่มเข้าสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ ในมาตราที่ 1 ว่าด้วยชื่อของร่าง พ.ร.บ.โดยนายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย เป็นผู้อภิปรายเป็นคนแรก
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 12.30 น. ระหว่างการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฯ เจ้าหน้าที่พยาบาลประจำรัฐสภา ได้นำนายสมคิด บาลไธสง ส.ส.หนองคาย พรรคเพื่อไทย ส่งโรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า เนื่องจากเกิดอาการโรคกระดูกคอเคลื่อนกำเริบ จึงมีอาการปวดศีรษะ ซึ่งนายสมคิดเข้าพักรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้าอยู่แล้ว แต่เนื่องจากขออนุญาตแพทย์ออกจากโรงพยาบาลเพื่อมาร่วมประชุมสภาฯ
