รายงานการเมือง
เมื่อ “นายใหญ่” ลั่นระฆังรบ สั่งให้บรรดาสมุนเดินตามด้วยการสนับสนุน “พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ฉบับ “ทะลุซอย” บรรยากาศการเมืองไทยในช่วงต้นฤดูหนาว ก็ร้อนฉ่าขึ้นมาทันที
โดยเฉพาะปากคำของ “พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เจาะจงออกมาให้สัมภาษณ์ส่งสัญญาณ “Set Zero” หรือเริ่มต้นใหม่ พุ่งตรงไปยังทุกชนชั้นในโครงสร้างการเมืองไทย
ถอดรหัสแล้ว “นช.แม้ว” ต้องการจี้จุดให้ “อำมาตย์” ไม่ต้องลับๆ ล่อๆ อีกต่อไป
แถมยังฝากไปถึง “พรรคประชาธิปัตย์” เป็นนัยๆว่า ขุมเครือข่ายทั้งหมดต้องการ “Set Zero” ก็เหลือแต่ “ประชาธิปัตย์” กับ “แม่ยก” เท่านั้น
งานนี้ว่ากันว่า “นช.แม้ว” เช็กกระแสรอบทิศหมดแล้ว ก่อนจะสั่ง “เกทับ” จนแทบจะ “หมดหน้าตัก”
ทำให้ “ลิ่วล้อ” ที่รู้งานรีบสนองความกระสันของ “นายใหญ่” ทันที ตั้งแต่ชั้นกรรมาธิการ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ที่มีรุ่นใหญ่อย่าง “สามารถ แก้วมีชัย” เป็นประธาน ก็ใช้เสียงข้างมากอุดปากกรรมาธิการเสียงข้างน้อย โหวตผ่านร่างตามกรรมาธิการเสียงข้างมากฉบับ “ทะลุซอย” โดย “ประยุทธ์ ศิริพานิชย์” ที่ขยี้หลักการเดิมไม่นิรโทษกรรม “แกนนำ-ผู้สั่งการ” ตามต้นร่างของ “วรชัย เหมะ” จนป่นปี้
ก่อนร่อนหนังสือถึง “สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์” ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอบรรจุเข้าสู่วาระการประชุม ซึ่งเจ้าของฉายา “ค้อนปลอม” ก็ไม่รอช้า ได้หนังสือตอนเช้า ตกบ่ายก็ร่อนหนังสือเรียกประชุมสภาฯนัดพิเศษ เพื่อทำคลอด “กฎหมายล้างผิดเหมาเข่ง” ใน “วันปล่อยผี” วันที่ 31 ต.ค.นี้ทันที เร็วกว่ากำหนดการเดิมที่กะเกณฑ์ไว้เป็นสัปดาห์
ถึงตอนนี้ต้องถือว่า “นายใหญ่” ทิ้งไพ่ใบสุดท้ายเลือก “ล้างผิด” กันแบบ “เหมาเข่ง-ทะลุซอย” แน่นอนว่า ย่อมถูกใจบรรดาแฟนคลับบางส่วนที่อยากเห็น “ทักษิณกลับบ้านแบบเท่ๆ” แต่ขณะเดียวกันก็ไม่ถูกใจบรรดา “ขาเชียร์” ส่วนใหญ่ของคนเสื้อแดงแน่นอน
เพราะกลุ่มหลังจองเวรจองกรรมหวังลากคอ “อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ - สุเทพ เทือกสุบรรณ” มาลงทัณฑ์ให้ได้
ดังนั้นต้องไล่เช็คพวก “แดงแท้-แดงเทียม-แดงการเมือง-แดงวิชาการ” ว่ามีความเห็นและ “จุดยืน” ที่แตกต่างกันออกไปอย่างไร
“แดงบางกลุ่ม” โดนหลอกหัวขมำเพราะหลงเชื่อน้ำคำว่า “นายใหญ่” จะจริงใจ แต่ถึงขั้นนี้น่าจะรู้ตัวแล้วว่า ถูก “นายใหญ่” เล่นเกม “หลอกใช้” เข้าให้แล้ว จะมีก็ “แดงบางกลุ่ม” ที่เต็มใจให้โดนหลอก เพราะมีผลประโยชน์ ทั้งน้ำเลี้ยงที่ผ่านมือมา หรือตำแหน่งลาภยศที่ได้ อย่างน้อยๆก็ได้พิมพ์นามบัตรแอ๊ดร์ตไม่อายใคร
เมื่อสแกนคนเสื้อแดงกลุ่มต่างๆ ออกมา ก็ยิ่งสะท้อนให้เห็นภาพขบวนการ “ต้มเปื่อย” ได้เป็นอย่างดี
เริ่มที่ “แดงวิชาการ” สายนี้แดงจ๋าทั้งหัวใจ-ความคิด-จิตวิญญาณ มี “สมศักดิ์ เจียมธีรสกุล” แดงตัวพ่อเป็นหัวขบวนใหญ่ ถ่ายทอดความคิดจากรุ่นสู่รุ่น
คนอย่าง “สมศักดิ์” ฉลาดพอที่จะรู้ว่า “นายใหญ่” หลอกใช้แดง แต่ด้วยความหวังที่จะเผยแพร่ลิทธิแดง ที่ผ่านมาจึงต้องแอบอิงในบางจังหวะแบบน้ำพึ่งเรือเสือพึงป่า แต่เมื่อถึงเวลาที่ “นายใหญ่” คิดเอาตัวรอด จึงออกมาด่าทอผ่านเฟซบุ๊คให้รู้เช่นเห็นชาติกันสักหน่อย โดยระบุว่า “ทักษิณ ไม่ได้เห็นว่าการเสียชีวิต พิการบาดเจ็บของประชาชนธรรมดา (บรรดา “เบี้ย” ทั้งหลาย) มีความสำคัญมากมายอะไร”
สรุปภาพรวม “แดงวิชาการ” ส่วนใหญ่ไม่เอา “ทักษิณ”
“แดงสายญาติวีรชน” นำโดย “พะเยาว์ ฮัคฮาด” แม่ “น.ส.กมนเกด ฮัคฮาด” อาสาสมัครพยาบาลที่เสียชีวิตจากการชุมนุมของกลุ่ม นปช. แดงสายนี้ถูก “นายใหญ่” หลอกใช้อย่างชัดเจนมากที่สุด แม้จะได้เงิน 7 ล้านกว่าแลกกับชีวิตที่เสียไป แต่ก็ยังอุดไม่อยู่ ระยะหลังจึงเห็นภาพ “พะเยาว์” กับพวก เริ่มออกมาเคลื่อนไหวด้วยตัวเอง ด้วยการยื่น “พ.ร.บ.นิรโทษกรรม” ฉบับประชาชน เพื่อเข้าไปคัดทานกับฉบับของ “วรชัย เหมะ” แต่ก็ถูกสมุนนายใหญ่ปฏิเสธที่จะรับอย่างไม่ใยดี
ทำให้ “พะเยาว์” กับพวก เริ่มปันใจตีตัวออกห่าง “นายใหญ่-พรรคเพื่อไทย” ออกไปตั้งกลุ่มก้อน และเคลื่อนไหวต่อรองด้วยตัวเอง
“แดงสายแกนนอน” นำโดย “หนูหริ่ง-สมบัติ บุญงามอนงค์” เจ้าของสมญา บก.ลายจุด ที่มักมีกิจกรรมเคลื่อนไหวโดยอิสระ นำมวลชนเข้าร่วมกิจกรรมคู่ขนานกับแดง นปช.บ้างในบางครั้ง กลุ่มนี้แม้มวลชนไม่มาก แต่ก็ประกาศไม่เห็นด้วยกับการนิรโทษกรรม “เหมาเข่ง”
โดย “สมบัติ” ออกมาด่าสวนว่า “เป็นวิธีที่บัดซบ” ทันทีที่แปลงร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมให้ล้างผิดกับทุกฝ่าย จึงยิ่งชัดเจนว่า “แดงสายแกนนอน” ถูกผลักให้จงเกลียดจงชัง “นายใหญ่-เพื่อไทย” ไปโดยปริยาย
มาถึง “แดง นปช.” นำโดย “ธิดา ถาวรเศรษฐ” ประธาน นปช. พ่วงด้วย “จตุพร พรหมพันธุ์-ณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ” พ่วงด้วยบรรดา ส.ส.ราว 20 ชีวิตในสภาฯ แม้จะออกแอ็กชันหัวฟัดหัวเหวี่ยงไม่เห็นด้วยกับ สูตร “เหมาเข่ง-ทะลุซอย” แต่ก็ไม่เนียน เพราะใครก็รู้ว่า “แดง นปช.” แค่เล่นละครตบตามวลชน เพราะบรรดา “แกนนำ” พวกนี้มีคดียาวเป็นหางว่าว หากได้รับนิรโทษกรรม ก็ไม่ต้องขึ้นศาลให้เสียเวลา
แม้ปากจะบอกว่า “ไม่เอา” แต่ข้างในใจถวิลหาสูตรนี้มานาน
เหตุที่ “แดง นปช.” จำต้องพลิกลิ้นไปมา เพราะต้องเลี้ยงมวลชนไม่ให้เสียขบวน เพราะอย่างน้อยเมื่อเข้าโหมด “ต่อสู้” ก็ต้องกองทัพไว้ห้ำหั่นกับฝ่ายตรงข้าม และ “ตายแทน” เหมือนที่ผ่านมา ดังนั้นจะหาความจริงใจจาก “แดง นปช.” แทบไม่ได้
“แดงนิติราษฎร์” นำโดย “วรเจตน์ ภาคีรัตน์” เหมือนจะหายไปจากสารบบ เพราะเป็นที่รู้กันว่า “แดงเฉพาะกิจ” ออกมาเคลื่อนไหวกฎหมายที่ล่อแหลม เขี่ยลูกให้กับพรรคเพื่อไทยเท่านั้น แต่เมื่อเข้าสู้สนามรบไม่มีทางที่จะเห็น “แดงนิติราษฎร์” ออกมาเคลื่อนไหวแน่นอน
ว่ากันว่า “แดงนิติราษฎร์” แค่รับจ็อบจาก “จาตุรนต์ ฉายแสง” ออกมาเคลื่อนไหวชั่วคราวเท่านั้น
ทั้งหมดคือภาพรวมของคนเสื้อแดงที่ต่างกลุ่มต่างก็มี “จุดยืน” กันคนละทิศคนละทาง เพียงแต่กลุ่มไหนจะมีผลประโยชน์แอบแฝงอยู่อย่างไรเท่านั้น
สรุปแล้วไม่ว่าจะ “แดงแท้-แดงเทียม-แดงการเมือง-แดงวิชาการ” ก็ตกเป็นเครื่องมือของ “นายใหญ่” ที่หลอกกินอุดมการณ์กันทั้งหมด เมื่อเดินเข้าสู่โหมดสมประโยชน์ “ทักษิณ” คงไม่ลังเลที่จะถีบส่ง “คนเสื้อแดง” เพราะผลประโยชน์ของตัวเองย่อมสำคัญกว่า
อาจจะถึงเวลาที่ “นายใหญ่” ต้องผลัก “มิตร” เป็น “ศัตรู” แล้ว