ส.ว.นนท์แนะรัฐฯ แพ้คดีพระวิหารอย่ารีบใช้มติ ครม.ยกแผ่นดินแก่เขมร ให้ประชามติ ปชช. หากไม่รับถือว่าฝืนคำสั่งศาลโลก สหประชาชาติต้องเจรจาเพื่อประโยชน์ร่วม ชี้เป็นแนวทางตาม รธน.ไม่ขยายผลการเมือง
วันนี้ (28 ต.ค.) ที่รัฐสภา นายดิเรก ถึงฝั่ง ส.ว.นนทบุรี แถลงข่าวเสนอแนวทางต่อรัฐบาลในการปฏิบัติถ้าศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ตัดสินให้ไทยแพ้คดีพิพาทปราสาทพระวิหารว่า 1. รัฐบาลอย่างเร่งรีบและอย่าใช้มติคณะรัฐมนตรี (ครม.) หรือมติรัฐสภาตามรัฐสภา มาตรา 190 ยกที่ดิน 4.6 ตารางกิโลเมตรให้ประเทศกัมพูชา ตามคำพิพากษาศาลโลก 2. ควรใช้มติรัฐสภาทำประชามติ เพื่อให้ประชาชนทั้งประเทศร่วมพิจารณาว่าจะยอมยกดินแดนหรือไม่ 3.หากผลการทำประชามติออกมาว่าไม่ยอมยกที่ดินดังกล่าวให้กัมพูชา ไทยจะขัดต่อคำพิพากษาศาลโลกและจะมีปัญหาตามมาหรือไม่นั้น เห็นว่าเรื่องลักษณะนี้เคยเกิดขึ้นแล้ว และมีการฝ่าฝืนคำตัดสินศาลโลก เนื่องจากกฎหมายระหว่างประเทศไม่สามารถบังคับใช้ถึงกิจการภายในประเทศได้ และไม่ได้ให้อำนาจศาลโลกลงโทษ
ดังนั้น ไทยหรือกัมพูชาสามารถร้องไปยังคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ให้เป็นตัวกลางในการเจรจาเพื่อให้ใช้ประโยชน์ร่วมกันและรักษาดินแดนไว้ได้ ไทยและกัมพูชาต้องเจรจากัน ทั้งระดับรัฐต่อรัฐ คณะกรรมการชายแดน และคณะกรรมการปักปันเขตแดน ซึ่งหากศาลโลกตัดสินแล้วก็ให้รัฐบาลนำเข้ารัฐสภา และตนจะเสนอญัตติให้ทำประชามติเอง ซึ่งได้หารือกับนายกรัฐมนตรี และจะเสนอแนวทางนี้ต่อนายกรัฐมนตรีด้วย เพราะเป็นแนวทางที่จะทำให้ไม่เกิดการขยายผลทางการเมือง และเป็นแนวทางตามรัฐธรรมนูญ
