“ยิ่งลักษณ์” บินเปิดงาน นิทรรศการ “สร้างอนาคตไทย 2020” ส.ส.ขอนแก่น เพื่อไทย นำชาวบ้านต้อนรับคึกคัก นายกฯ ยันเงินกู้ 2 ล้านล้าน เพื่อลงทุนเพิ่มขีดความสามารถในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยในอนาคต วางเป้า ขอนแก่นเป็นศูนย์กลางการแปรรูปสินค้าเกษตร มหาสารคาม แหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (26 ต.ค. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และ รมว.กลาโหม พร้อมด้วย นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมช.ศึกษาธิการ พล.อ.นิพัทธ์ ทองเล็ก ปลัดกลาโหม พล.ต.อ.พงศพัศ พงศ์เจริญ เลขาธิการป.ป.ส. พล.ต.ต.ธวัช บุญเฟื่อง และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี เดินทางไปร่วมชมงานนิทรรศการ “สร้างอนาคตไทย 2020”ที่หอประชุมอเนกประสงค์กาญจนาภิเษก มหาวิทยาลัยขอนแก่น จ.ขอนแก่น โดยทันทีที่ถึงสนามบินขอนแก่น มีกลุ่มส.ส.ขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และประชาชน รอต้อนรับ ขณะที่บริเวณทางเข้าหอประชุมฯมีประชาชน ข้าราชการ และเจ้าหน้าที่ รอต้อนรับจำนวนมาก พร้อมกับถ่ายรูป
ทั้งนี้นายกฯ ได้เดินชมบูธผลิตภัณฑ์ท้องถิ่นที่นำมาออกร้านบริเวณหอประชุม และนำสินค้าที่จำหน่าย มามอบให้นายกฯอาทิ ผ้าขาวม้า สินค้าโอท็อป เป็นที่ระลึก
จากนั้น น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ “สร้างอนาคตไทย 2020” เพื่อชี้แจงถึงความสำคัญของการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานครั้งใหญ่ของประเทศ (โครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาท) ว่า รัฐบาลได้กำหนดยุทธศาสตร์ในการเพิ่มศักยภาพของประเทศ เพื่อเพิ่มรายได้และลดรายจ่าย ขยายโอกาส จึงตัดสินใจลงทุนตามพ.ร.บ.กู้เงิน2ล้านล้านบาท เพื่อยืนยันและให้ความมั่นใจกับประชาชนว่า แม้ในอนาคตจะมีการเปลี่ยนแปลงรัฐบาลแต่โครงการเหล่านี้ยังคงอยู่ และจะดำเนินการตามแผนที่วางใจซึ่งภาคเอกชนก็จะได้เกิดความมั่นใจในการลงทุนมากขึ้น
“จุดประสงค์ที่สำคัญที่สุดของการจัดนิทรรศการในครั้งนี้ คือ การเปิดโอกาสให้ประชาชน ทุกคนได้มาช่วยกันคิดว่า ในอีก 7 ปีข้างหน้า เราต้องการเห็นประเทศไทยของเราเป็นอย่างไร และจะร่วมกันพัฒนาจังหวัดของเราเองให้ก้าวไปได้อย่างไร ซึ่งรัฐบาลพร้อมที่จะรับฟังข้อมูล ความต้องการ ความคาดหวัง และความคิดเห็นของประชาชนทุกคน พร้อมร่วมกันสร้างอนาคตที่สดใสให้ประเทศไทย สร้างอนาคตที่ดีให้คนรุ่นต่อไป ด้วยโครงสร้างพื้นฐานของประเทศไทย ที่จะไม่เป็นแค่ความฝันแต่เราจะร่วมทำให้เป็นความจริงร่วมกัน”
น.ส.ยิ่งลักษณ์ กล่าวอีกว่า การลงทุนครั้งนี้จะเพิ่มขีดความสามารถให้กับนักลงทุนซึ่งจะส่งผลต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจในอนาคตทั้งการท่องเที่ยวการยกระดับและพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนทั้งประเทศ รวมถึงประโยชน์ที่ชาวจังหวัดขอนแก่นและใกล้เคียงจะได้รับจากการลงทุนครั้งนี้
รัฐบาลจึงวางแนวทางพัฒนากลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตอนกลางให้เป็นศูนย์กลางกระจายสินค้า โลจิกส์ติก การค้าการลงทุน และในอนาคตขอนแก่นจะเป็นศูนย์กลางในการแปรรูปสินค้าเกษตรขนาดใหญ่ จังหวัดมหาสารคามจะเป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ รวมถึงเป็นศูนย์กลางทางการศึกษา และจังหวัดร้อยเอ็ดจะเป็นศูนย์กลางการผลิตข้าวหอมมะลิคุณภาพชั้นดี รวมถึงสินค้า OTOP ของแต่ละท้องถิ่นที่จะมีโอกาสไปวางขายในตลาดโลก อีกทั้งโครงการดังกล่าวนอกจากสร้างความเจริญด้านคมนาคมแล้ว ยังสร้างความอบอุ่นให้แก่ครอบครัว เนื่องจากชาวขอนแก่นไม่ต้องเดินทางไปทำงานต่างจังหวัดหรือต่างถิ่นที่อยู่อาศัยอีกต่อไปอย่างที่ผ่านมา ขณะที่เด็กนักศึกษาจบใหม่ ไม่ต้องดิ้นรนเข้าเมืองหลวงเพื่อหางานทำ เพราะมีช่องทางทำงานในพื้นที่จังหวัดตัวเองได้
จากนั้นนายกฯเยี่ยมชมนิทรรศการส่วนที่ 1 โซน 4 นั่งรถไฟไฮสปีดจำลอง และส่วนที่ 2 โซนที่ 5 ภูมิภาค ชีวิต และอนาคต ต่อจากนั้น ซึ่งตลอดงานได้รับความสนใจจากประชาชนที่มาชมงาน ตะโกนเรียกนายกฯพร้อมถ่ายรูปถ่ายรูปอย่างครึ้กครื้น
สำหรับการจัดงานฯ ดังกล่าวประกอบด้วย 4 ส่วน คือ ส่วนที่ 1 การจัดนิทรรศการ แยกเป็น 2 ส่วน คือ นิทรรศการให้ความรู้เกี่ยวกับโครงการเงินกู้ 2 ล้านล้านบาทของรัฐบาล โครงการรถไฟความเร็วสูง โครงการรถไฟรางคู่ โครงการสร้างโครงข่ายถนน 4 เลน และนิทรรศการที่จังหวัดขอนแก่น และจังหวัดใกล้เคียง จะได้รับประโยชน์จากโครงการของรัฐบาล ส่วนที่ 2 เป็นการจัดเสวนาและรับฟังความคิดเห็นจากคนในพื้นที่ ส่วนที่ 3 เป็นกิจกรรมสาระและบันเทิงมีการแข่งขันประกวดอาหารภูมิภาค เพื่อหาผู้ชนะเลิศไปแข่งขันระดับประเทศ เป็นผู้ประกอบอาหารปิ่นโตบนรถไฟความเร็วสูง และการทดลองนั่งรถไฟความเร็วสูงจำลอง พบกับดารา นักแสดงจากหลายค่าย และรับมอบของแจกของที่ระลึกจำนวนมาก และ ส่วนที่ 4 เป็นการจำหน่ายสินค้าโอท็อป (OTOP) จากทั่วประเทศ และสินค้าธงฟ้าราคาประหยัดจากกระทรวงพาณิชย์
