xs
xsm
sm
md
lg

พท.อ้าง กม.นิรโทษกรรมล้างผิด “นช.แม้ว” เป็นไปตามเสียงข้างมาก ปัดรื้อ ม.190 เอื้อ “ทักษิณ”

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด (แฟ้มภาพ)
รองโฆษก พท.อ้างร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมล้างผิด “นช.แม้ว” เป็นไปตามเสียงส่วนใหญ่ของ กมธ.ในการลงมติ ยกกติกาประชาธิปไตยต้องเคารพเสียงข้างมาก ปัดชำเรา รธน.มาตรา 190 เอื้อประโยชน์ “ทักษิณ” ทำธุรกิจพลังงานพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา เฉ่ง “มาร์ค” ปล่อยข่าวสลายผู้ชุมนุม คปท.แยกอุรุพงษ์ ถามหาความรับผิดชอบหลังไม่เกิดเหตุการณ์ใดๆ ในม็อบ

นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงถึงกรณีนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ (ปชป.) ระบุคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมแก่ผู้ซึ่งกระทำความผิดเนื่องจากการชุมนุมทางการเมือง การแสดงออกทางการเมืองของประชาชน พ.ศ. ... มีการแก้ไขให้เสนอการนิรโทษกรรมครอบคลุมถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ว่าเรื่องนี้ไม่มีอะไรสลับซับซ้อน ถือเป็นการทำงานปกติ เมื่อ กมธ.เสียงข้างมากมีมติเช่นนี้ ก็ต้องยอมรับในหลักการของชั้นกมธ.นี้ไม่มีใครรู้ล่วงหน้าว่าจะมีการแก้ไขเนื้อหาออกมาเช่นนี้ กติกาประชาธิปไตยต้องเคารพเสียงข้างมาก ซึ่งยังมีโอกาสที่จะได้ไปว่ากันในสภาใหญ่ เหมือนกับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ ที่มา ส.ว.มาตรา 111 กรรมาธิการเสียงข้างมาก ให้คง ส.ว.สรรหาไว้ 3 ปี แต่ในการโหวตของสภาก็เอาตามเสียงข้างน้อยที่สงวนคำแปรญัตติไว้ ที่ให้ ส.ว.สรรหาพ้นหน้าที่หลังจากที่มีการเลือกตั้ง ส.ว.ครบ 200 คน เรื่องนี้ก็เช่นกัน

“แม้แต่นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย เจ้าของร่างยังขอสงวนคำแปรญัตติไว้อภิปรายในสภาฯ วาระ 2 เพื่อยืนยันเนื้อหาในร่างเดิม ที่ให้นิรโทษกรรมเฉพาะผู้ชุมนุมเท่านั้นแล้วนายอภิสิทธิ์ตกใจอะไร ซึ่งตามเกมนี้ของพรรคประชาธิปัตย์ ได้ทั้งขึ้นทั้งล่อง 1. ในชั้นนี้ใช้เรื่องนี้มาเรียกแขก 2. ถ้านิรโทษกรรมกันได้จริงๆ นายอภิสิทธิ์ได้ประโยชน์ด้วย และ 3. นายอภิสิทธิ์จะใช้เรื่องนี้ในการสร้างความหวาดระแวงระหว่างคนเสื้อแดงกับรัฐบาล ซึ่งทุกฝ่ายต้องช่วยกันชี้แจง อย่าให้พวกผ่าความจริงเหลือแต่ความเท็จดำเนินการได้ตามแผน”

นายอนุสรณ์ยังได้กล่าวถึงกรณีนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ ระบุ การแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 190 เป็นการแก้เพื่อให้มีกฎหมายขายชาติ ขายแผ่นดินได้ว่า เป็นเรื่องที่จินตนาการ ไม่มีใครในรัฐบาลนี้คิดจะทำแบบนั้นและกล่าวหาคนอื่นโดยไม่ต้องมีหลักฐาน พยายามเชื่อมโยงว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร สนใจจะลงทุนในธุรกิจพลังงาน การแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 อาจทำให้ พ.ต.ท.ทักษิณได้ประโยชน์ในการลงทุนในธุรกิจพลังงานบนพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นการจับแพะชนแกะ เอาข่าวหนังสือพิมพ์เก่าๆ มาตัดต่อ โดยที่ พ.ต.ท.ทักษิณไม่ได้ลงทุนในธุรกิจพลังงานใดๆ ในพื้นที่ทับซ้อนทางทะเลไทย-กัมพูชา และไม่สนใจที่จะลงทุนในพื้นที่ดังกล่าว

ทั้งนี้ ในทางกลับกัน องค์การปิโตรเลียมแห่งชาติกัมพูชา ภายใต้การกำกับของนายสก อาน รองนายกรัฐมนตรีกัมพูชา มีแถลงการณ์ชัดเจนว่ารัฐบาลนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ สมัยเป็นรัฐบาลได้พยายามติดต่อกับรัฐบาลกัมพูชาเพื่อเจรจาปัญหาพื้นที่อ้างสิทธิ์ทับซ้อนทางทะเลหลายครั้ง รวมทั้งมีการพบกันอย่างลับๆ ระหว่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ในสมัยที่เป็นรองนายกรัฐมนตรี โดยไปพบนายสก อาน ที่ฮ่องกง เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม 2552 และที่คุนหมิง ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน วันที่ 16 กรกฎาคม 2553

“การเจรจาลับเกิดขึ้นตามการร้องขอของนายสุเทพ ที่ยืนยันว่าได้รับการแต่งตั้งจากนายอภิสิทธิ์ ซึ่งกัมพูชาไม่เห็นว่า เหตุใดต้องมีการเจรจาเป็นการลับในช่วงของรัฐบาลก่อนๆ ทุกการเจรจาทำขึ้นอย่างเปิดเผย แต่เหตุใดรัฐบาลอภิสิทธิ์จึงมีความจำเป็นต้องทำการเจรจาลับ ด้านหนึ่งเปิดศึกรบกับเขา อีกด้านแอบไปเจรจาลับ ก่อนกล่าวหาคนอื่น ช่วยเคลียร์ตัวเองด้วย ทั้งนี้ ยืนยันว่า รัฐบาลนี้ไม่คิดขายชาติ แต่มีคนอื่นตัดหน้าขายไปก่อนแล้ว รวมถึงคำตัดสินคดีข้อพิพาทไทยกัมพูชาเกี่ยวกับปราสาทพระวิหารของศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) ที่กรุงเฮก ประเทศเนเธอร์แลนด์ วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ก็จะมีการหารือถึงการถ่ายทอดสดการอ่านคำพิพากษา เพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสาร”

นายอนุสรณ์กล่าวถึงกรณีที่นายอภิสิทธิ์ออกมาตั้งข้อสังเกตในลักษณะเชิญแขกว่า เมื่อคืนวันที่ 18 ต.ค. ที่ผ่านมา รัฐบาลจะสั่งสลายการชุมนุมกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์ แต่ปรากฏว่าไม่มีการสลายการชุมนุมตามที่ตั้งข้อสังเกตไว้ จึงอยากถามนายอภิสิทธิ์ ว่าจะรับผิดชอบกับคำพูดอย่างไร หรืออยากจะเป็นเด็กเลี้ยงแกะแบบนี้ตลอดไป

ส่วนที่ ครม.ชุดเล็ก มีมติต่ออายุการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง ก็ถือเป็นการดำเนินการที่สมเหตุสมผลแล้ว เพราะยังมีการชุมนุมของ 2 กลุ่ม และทราบมาว่าในวันอาทิตย์นี้จะมีม็อบสวนยางจากภาคใต้มาเพิ่มเติม และในวันที่ 11 พ.ย.นี้ ศาลโลกจะมีคำตัดสินคดีปราสาทพระวิหาร ซึ่งกลุ่มที่จ้องล้มรัฐบาลก็ได้ประกาศจะนำเรื่องนี้มาใช้ในการเคลื่อนไหว จึงจำเป็นต้องใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง เพื่อดูแลความสงบเรียบร้อยต่อไป พร้อมขอยืนยันว่ารัฐบาลจะไม่มีการสั่งสลายการชุมนุมอย่างแน่นอน เพราะลำพังฟ้าดินลงโทษเกิดพายุนารีฝนตกหนัก ก็กระทบต่อการชุมนุมมากแล้ว หากคิดว่าอยู่ต่อได้ก็นั่งตากฝนต่อไป แต่ถ้ามีพรรคการเมืองช่วยนำม็อบมาเพิ่ม ปั่นไฟปั่นน้ำให้ใช้ฟรี ก็ชุมนุมต่อไป เพราะสุดท้ายสังคมจะตัดสินได้เองว่าพวกไหนที่ทำร้ายประเทศ

ส่วนที่ นพ.นิรันดร์ พิทักษ์วัชระ กรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) เดินทางไปเยี่ยม และรับฟังข้อคิดเห็นของกลุ่มผู้ชุมนุม คปท.นั้น อยากถามว่าทำไม กสม.ไม่ไปรับฟังปัญหาจากประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากการชุมนุม การกระทำของ กสม.เป็นเหมือนการนำดาบที่กลุ่ม คปท.ยื่นให้มาแทงรัฐบาล และนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่องค์กรนี้ทำงานฝืนกระแสสังคม แต่ถือเป็นพวกขาประจำ ถ้า กสม.เลือกข้างแบบนี้ ขอแนะนำให้ไปสมัครเป็นสมาชิกพรรคประชาธิปัตย์ ให้รู้แล้วรู้รอดไป ประชาชนจะได้เลิกคาดหวังว่าความเป็นธรรมและโอกาสที่จะได้รับการพิทักษ์สิทธิจาก กสม.คณะนี้อีกต่อไป


กำลังโหลดความคิดเห็น