ซินหวา - ฮุนเซน ที่อยู่ในอำนาจมาเป็นเวลา 28 ปี ได้เข้าเฝ้าฯ ถวายคำสัตย์ปฏิญาณเพื่อรับตำแหน่งนายกรัฐมนตรีกัมพูชาอีกสมัย ในวันนี้ (24) หลังรัฐสภามีมติเลือกให้ฮุนเซนเป็นผู้นำประเทศ ท่ามกลางการคว่ำบาตรของพรรคฝ่ายค้าน
นายกรัฐมนตรี พร้อมด้วยคณะรัฐบาลชุดใหม่ ได้เข้าเฝ้าฯ พระบาทสมเด็จพระบรมนาถนโรดม สีหมุนี กษัตริย์แห่งกัมพูชา เพื่อถวายสัตย์ปฏิญาณที่พระราชวัง ในกรุงพนมเปญ
รัฐสภา ที่ตั้งขึ้นโดยสมาชิกรัฐสภาของพรรครัฐบาล 68 คน ได้มีมติให้ฮุนเซน ทำหน้าที่นายกรัฐมนตรี ของรัฐบาลชุดใหม่ แม้ว่าฝ่ายค้านจะคว่ำบาตรการประชุมสภานับตั้งแต่ฝ่ายค้านปฏิเสธที่จะยอมรับผลการเลือกตั้งวันที่ 28 ก.ค. และตามรัฐธรรมนูญของกัมพูชาระบุว่า รัฐบาลใหม่ต้องถูกตั้งขึ้นจากเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือสมาชิกรัฐสภาที่อยู่ในรัฐสภาจำนวน 63 คน
ฮุนเซน กล่าวว่า รัฐสภา และรัฐบาลชุดใหม่ถูกตั้งขึ้นสอดคล้องตามรัฐธรรมนูญ แม้สมาชิกรัฐสภาที่ได้รับเลือก 55 คนของฝ่ายค้านจะคว่ำบาตรก็ตาม
“เราทั้งหมดที่นี่ไม่ใช่ตัวประกันของคนกลุ่มใด เราทำหน้าที่ของเราเสร็จสิ้นตามรัฐธรรมนูญของประเทศ” ฮุนเซน กล่าวระหว่างการประชุมรัฐสภา ที่เป็นการตอบโต้ความคิดเห็นของฝ่ายค้านที่ระบุว่ารัฐสภาชุดใหม่นั้นตั้งขึ้นโดยขัดกับรัฐธรรมนูญ
ตามกำหนดอย่างเป็นทางการ การประชุมคณะรัฐมนตรีครั้งแรกจะมีขึ้นในวันพุธนี้ (25) ที่อาคารสันติภาพ
แม้ว่าพรรครัฐบาลของฮุนเซนประสบความสำเร็จในการตั้งรัฐสภา และรัฐบาลชุดใหม่ แต่นักวิเคราะห์ทางการเมืองกล่าวว่า การคว่ำบาตรของฝ่ายค้านจะส่งผลกระทบต่อสถานะของประเทศในประชาคมโลก เพราะความชอบธรรมของรัฐบาลใหม่จะถูกตั้งคำถาม
“การปราศจากการมีส่วนร่วมของฝ่ายค้าน ความชอบธรรมของรัฐบาลชุดใหม่จะถูกตั้งคำถาม บทบาท และภาพลักษณ์ของรัฐบาลบนเวทีโลกจะถูกลดระดับลง” เชียง วันนะริธ นักวิจัยอาวุโสของสถาบันความร่วมมือและสันติภาพกัมพูชา กล่าวกับสำนักข่าวซินหัว พร้อมทั้งเตือนว่า เศรษฐกิจกัมพูชาจะประสบกับความท้าทายใหญ่หลวงหากประเทศไม่มีเสถียรภาพทางการเมืองและความเป็นหนึ่งเดียวกัน
“ในสถานการณ์ทางการเมืองเช่นนี้ นักลงทุนที่มีอยู่เดิม และที่กำลังสนใจอาจไม่เต็มใจ หรือระแวดระวังยิ่งขึ้นที่จะเข้าลงทุนในกัมพูชา หากประเทศไม่มีสันติภาพ และเสถียรภาพทางการเมือง ประเทศก็ไม่มีการพัฒนา” วันนะริธ กล่าว
สหรัฐฯ ญี่ปุ่น ออสเตรเลีย และสหภาพยุโรป ต่างเรียกร้องให้รัฐบาลกัมพูชาทบทวนความโปร่งใสในความผิดปกติที่ถูกกล่าวหาในการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 ก.ค.
“หากประเทศเหล่านี้ไม่สนับสนุนรัฐสภาชุดใหม่ กัมพูชาจะเผชิญกับวิกฤตเศรษฐกิจ เพราะประเทศเหล่านี้เป็นผู้นำเข้ารายใหญ่สินค้าของกัมพูชา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเสื้อผ้าสำเร็จรูป ยิ่งไปกว่านั้น นักลงทุน และนักท่องเที่ยวจากประเทศตะวันตกอาจลังเลที่จะเดินทางมากัมพูชา” ศาสตราจารย์โสก ตุช รองหัวหน้าสถาบันความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ของราชบัณฑิตสภาแห่งกัมพูชา กล่าว
อย่างไรก็ตาม โฆษกคณะกรรมการที่ปรึกษารัฐมนตรีกัมพูชา ได้กล่าวปกป้องความชอบธรรมของรัฐสภา และรัฐบาลชุดใหม่ของประเทศว่า รัฐบาลชุดใหม่ตั้งขึ้นด้วยเสียงเกินกึ่งหนึ่ง หรือสมาชิกรัฐสภา 63 คน ในรัฐสภาชุดใหม่ ตามที่ระบุในรัฐธรรมนูญ และพรรค CPP มีสมาชิกรัฐสภาเพียงพอที่จะตั้งรัฐบาลใหม่ แม้ฝ่ายค้านจะคว่ำบาตร
“การคว่ำบาตรของพวกเขาไม่ทำให้เกิดวิกฤต หรือความไม่มั่นคงทางการเมืองในกัมพูชา” โฆษกคณะกรรมการที่ปรึกษารัฐมนตรีกัมพูชา ระบุ.