“สม รังสี” ประกาศชุมนุมต่อแม้ กกต.รับรอง “ฮุนเซน” ชนะเลือกตั้ง

เอเจนซีส์ - คณะกรรมการการเลือกตั้งแห่งชาติของกัมพูชา (NEC) ประกาศอย่างเป็นทางการในวันอาทิตย์ (8 ก.ย.) ว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของนายกรัฐมนตรีฮุนเซน เป็นผู้ชนะในการเลือกตั้งทั่วไป แต่ทางด้าน สม รังสี ผู้นำฝ่ายค้านออกโรงประท้วงทันควัน โดยจะคว่ำบาตรไม่เข้าร่วมการประชุมรัฐสภา อีกทั้งจะเดินหน้าจัดการชุมนุมต่อไปเพื่อเรียกร้องให้มีคนกลางตรวจสอบพิสูจน์ข้อกล่าวหาที่ว่ามีการทุจริตคดโกงการโหวตอย่างกว้างขวาง

ตามประกาศอย่างเป็นทางการของ NEC การเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรกัมพูชา ซึ่งจัดขึ้นตั้งแต่เมื่อวันที่ 28 ก.ค.นั้น พรรค CPP ของฮุนเซน ได้รับเสียงโหวต 3.2 ล้านคะแนน และได้รับที่นั่งในสภารวม 68 ที่นั่ง ส่วนพรรคกู้ชาติกัมพูชา (CNRP) ที่มี สม รังสี เป็นผู้นำพรรค ได้เสียงจากผู้มีสิทธิออกเสียงรวม 2.9 ล้านคะแนน และได้รับที่นั่งในสภา 55 ที่นั่ง

ผลการเลือกตั้งทั่วไปคราวนี้ นับว่าเป็นครั้งเลวร้ายที่สุดของฮุน เซน นับตั้งแต่ปี 2541 เป็นต้นมา โดยพรรค CPP ได้สมาชิกเข้าสภาน้อยกว่าการเลือกตั้งครั้งก่อนเมื่อ 5 ปีที่แล้วถึง 22 ที่นั่ง

นอกจากนี้ แม้มีการประกาศผลการเลือกตั้งขั้นสุดท้ายอย่างเป็นทางการ แต่ไม่มีสัญญาณบ่งชี้ว่า ความตึงเครียดทางการเมืองในกัมพูชาจะสงบลงแต่อย่างใด

ก่อนหน้านี้เมื่อวันเสาร์ (7 ก.ย.) ฝ่ายค้านได้จัดการชุมนุมใหญ่ขึ้นที่กรุงพนมเปญ เพื่อเรียกร้องให้มีหน่วยงานอิสระเข้ามาตรวจสอบผลการเลือกตั้ง การชุมนุมที่มีผู้เข้าร่วมราว 20,000 คน คราวนี้นับว่านานๆ จึงจะเกิดขึ้นสักครั้งในกัมพูชา ทว่า NEC ยังคงเดินหน้าประกาศผลขั้นสุดท้าย และการกระทำเช่นนี้เท่ากับเป็นการปิดหนทางอันถูกต้องตามกฎหมายทั้งปวงที่ฝ่ายค้านจะหยิบยกขึ้นมาคัดค้านผลการเลือกตั้งอีก

กระนั้น สม รังสี ซึ่งเป็นอดีตนายแบงก์ที่จบการศึกษาจากฝรั่งเศส ยังคงเดินหน้าต่อไป โดยเขารีบออกมาในวันอาทิตย์ (8) ปฏิเสธไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งที่ NEC รับรอง แต่พรรคของเขายังจะเดินหน้าใช้ความพยายามพลิกผลการโหวต ซึ่งเขายืนยันว่า ถ้าดำเนินการไปอย่างยุติธรรมแล้ว CNRP คือผู้ชนะ

สม รังสี แถลงกับผู้สื่อข่าวว่า พรรค CNRP จะไม่เข้าร่วมการประชุมนัดแรกของรัฐสภา และก็ไม่มีความสนใจที่จะเจราจาหารือกับพรรค CPP หากไม่มีการตรวจสอบผลการเลือกตั้งอย่างเป็นอิสระเสียก่อน นอกจากนั้น พรรค CNRP วางแผนจะจัดการชุมนุมเดินขบวนอย่างน้อย 3 วัน ตั้งแต่วันอังคาร-พฤหัสบดีหน้า (15-17 ก.ย.)

ตามรัฐธรรมนูญของกัมพูชา รัฐสภาชุดใหม่จะต้องเปิดประชุมครั้งแรกภายใน 60 วัน นับตั้งแต่วันเลือกตั้ง แต่ CPP แถลงว่า ไม่ว่าฝ่ายค้านจะเคลื่อนไหวอย่างไรต่อไป แต่พรรคเห็นว่าผลการเลือกตั้งสุดท้ายที่ประกาศออกมาเช่นนี้ คือ การยุติวิกฤตทางการเมืองที่เกาะกุมกัมพูชาเอาไว้ตั้งแต่วันเลือกตั้งเป็นต้นมา และพรรคจะผลักดันให้มีการเปิดประชุมสภาโดยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประธานเปิด ทั้งนี้ เพราะ CPP ครองที่นั่งอยู่เกิน 50% ของสภา จึงสามารถเดินหน้าเรื่องนี้ได้อย่างชอบธรรม

ถึงแม้ฮุน เซน ที่ปกครองกัมพูชามานาน 28 ปี และประกาศจะเป็นผู้นำประเทศจนถึงอายุ 74 ปีนั้น ขึ้นชื่อเรื่องการปราบปรามฝ่ายตรงข้ามหลังการเลือกตั้งหลายครั้งก่อนหน้านี้ แต่คะแนนเสียงที่เข้มแข็งผิดหูผิดตาของฝ่ายค้านทำให้มีการคาดเดากันว่า ครั้งนี้นายกรัฐมนตรีกัมพูชา อาจเลือกชูนโยบายปฏิรูปเพื่อกลบเสียงวิจารณ์ และกระแสความไม่พอใจของประชาชน

เขียว กันหะฤทธิ์ โฆษกพรรค CPP และรัฐมนตรีสารสนเทศ ให้สัมภาษณ์ว่า พรรคเข้าใจ “สาร” ที่ประชาชนส่งผ่านการลงคะแนนเลือกตั้งว่า ต้องการให้รัฐบาลใหม่ผลักดันการปฏิรูป รวมถึงดำเนินการกับการคอร์รัปชัน และการเล่นพรรคเล่นพวก

ในการเลือกตั้งครั้งก่อนๆ พรรคฝ่ายค้านของกัมพูชาก็ได้เคยคว่ำบาตรไม่เข้าประชุมสภานัดแรกๆ หลังจากนั้น จึงยินยอมเข้าร่วมในเวลาต่อมา อย่างไรก็ดี การคว่ำบาตรเช่นนี้อาจทำให้ฝ่ายค้านเสียโอกาสในการดำรงตำแหน่งสำคัญๆ ในสภา เช่น ประธานคณะกรรมาธิการชุดต่างๆ.