xs
xsm
sm
md
lg

“คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ศุกร์ที่ 18 ต.ค. 2556 (ต่อ)...

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


กมลพร - ไม่เคยอายนะคะ ที่ขายเครื่องน้ำด่าง ไม่เคยอายที่ขายน้ำมันมะพร้าว ไม่เคยอายที่ต้องขายของ เพราะเรารู้ว่าอย่างน้อยที่สุด เวลาที่เราเจอทุนอย่างนี้ อย่างนักการเมืองชั่ว เรายืนได้อย่าง 2 บ่า เราไม่ต้องเกรงกลัวมัน

สนธิ - พี่น้องสบายใจได้เลยนะ ไม่มีโฆษณาชิ้นไหนก็ตาม ที่มันลงโฆษณากับเราแล้ว จะมาปิดปากไม่ให้เราพูดความชั่วของมัน ถ้ามันทำความชั่วเราจะเปิดโปง ทุกยี่ห้อ

จินดารัตน์ - วันนี้ก็น่าชื่นใจคุณผู้ชม

กมลพร - ทำไมคะ

จินดารัตน์ - เข้ารายการมีโฆษณาเข้า 1 ตัว

กมลพร - น่ารักเชียว

จินดารัตน์ - ก็ยังมีคนที่เขารู้สึกว่า กลุ่มคนที่ดูเราเขามีสติปัญญา เขายังอยากโฆษณากับเรานะ บางคนก็กล้าๆ กลัวๆ อยู่ ไม่ต้องกลัวค่ะ ยุคนี้แล้ว อยากให้คนมีปัญญา เขามีปัญญาเขาไตร่ตรองได้ว่า อะไรดีไม่ดี อยากลงไม่ต้องมากระมิดกระเมี้ยนมาลงโฆษณาได้เลย

สนธิ - จริงๆ ผมพูดตรงๆ เลยนะ ผมพูดจากใจนิดหนึ่ง ไม่อยากลงก็ไม่ต้องลง ผมจะหาของมาขายอยู่เลยๆ

จินดารัตน์ - พูดกันตรงๆ

สนธิ - พูดกันตรงๆ เลย บ่องตง อ.ปานเทพบอกกำลังทำชุดล้างพิษตับ

จินดารัตน์ - แบบพกพา

กมลพร - ดีจังเลย

จินดารัตน์ - เห็นแล้วเห็นตัวอย่างแล้ว สุดยอดจริงๆ

สนธิ - แบบพกพา และประมาณอีกเดือนหน้า กลางเดือน เราจะมีของบางอย่างออกมา สำหรับพ่อแม่พี่น้องซื้อเป็นของขวัญให้วันปีใหม่ให้กับคนที่เรารัก

จินดารัตน์ - ราคาย่อมเยาว์มีประโยชน์

สนธิ - มีประโยชน์มาก

กมลพร - จองแล้ว 3 อัน บอก อ.ปานเทพไป

สนธิ - พกติดตัวได้ พี่น้องครับทุกอย่าง 1.ของที่เราเข้ามาต้องเป็นประโยชน์ ถ้าเป็นของที่เกี่ยวกับสุขภาพต้องเป็นของที่บริสุทธิ์ ไม่มีอะไรแอบแฝง ถ้าเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับวัตถุดิบที่จะต้องใช้ในชีวิตประจำวัน ต้องเป็นวัตถุดิบที่ดี และดีต่อสุขภาพทุกอย่าง ทั้งหมดนี้เราต้องผ่านเขามา กำไรเล็กๆ น้อยๆ เพียงที่จะให้เงินก้อนนี้ เอามาสนับสนุนเอเอสทีวี ให้เอเอสทีวีเป็นทีวีของประชาชนที่ไม่กลัวหน้าไหนทั้งสิ้น ไม่กลัวหน้าอินทร์หน้าพรหม

จินดารัตน์ - ชัดเจนนะคะ แต่ว่าไอ้ชุดล้างพิษตับแบบพกพาอย่าเพิ่งโทรนะคะ

กมลพร - ยังๆ

สนธิ - ยังไม่มา

จินดารัตน์ - เดี๋ยวช็อปเขางงอีก เผอิญยังไม่มีขายนะคะตอนนี้ เดี๋ยวเร็วๆ นี้แหละค่ะ เราไปต่อกันเรื่อง

กมลพร - เก็บตก 14 ตุลา

จินดารัตน์ - คุณเสกสรรค์ ประเสริฐกุล พี่เสกของหลายๆ คน ปรากฏว่า

กมลพร - ต้องคุณกับคนนั้น หนูได้ยินผู้ใหญ่ที่ไม่เคยเล่าให้ฟัง อยู่ดีๆ วันนี้เขาก็เล่าให้ฟังนะว่า จริงๆ แล้วมีอยู่ช่วงหนึ่ง ผู้ชายคนนี้แหละที่ชื่อเสกสรรค์ ประเสริฐกุล อาจารย์ของคนเดือนตุลา ที่เทิดทูนหลายคน คนที่น่ารักของเสื้อแเดง เขาเขียนคอลัมน์ในเครือเอเอสทีวี ผู้จัดการ และใน 1 สัปดาห์ เขาจะมายืนสูบบุหรี่แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกัน 3 คน 1 ใน 3 นั่งนี่ ที่คุยกันแลกเปลี่ยนความคิด ไหงวันนี้เขาเปลี่ยนไปขนาดนี้คะ

สนธิ - ต้องย้อนกลับไป 14 ตุลาก่อน ผมคิดว่าพวกเราให้ความสำคัญมากกับ 14 ตุลา มากจนเกินไป จริงๆ แล้วการต่อสู้ในยุค 14 ตุลา ผมเรียกว่าวีรชนไร้เดียงสา เพราะคนส่วนใหญ่ รวมทั้งเสกสรรค์ ธีรยุทธด้วย ทุกๆ คนที่สู้ในช่วงนั้น ล้วนแล้วแต่เป็นเด็กหนุ่มทั้งนั้นเรียนมหาวิทยาลัย ไม่รู้เรื่องความลึกซึ้ง สิ่งที่รู้ในเรื่องของการต่อสู้ คือสิ่งที่เรียนรู้จากการอ่านหนังสือ เอาทฤษฎีของคาร์ล มาร์กซ์ เรียนโน่นนี่นั่น แล้วเลยมาสู้ เผอิญๆ สิ่งที่เขาสู้คือ เผด็จการทหาร ยุคถนอม ประภาส เขาสู้พวกนั้น เพราะระหว่างยุคถนอม ประภาส มันเป็นยุคของความขาวและความดำจนเห็นได้ชัด ด้วยเหตุนี้การต่อสู้ของเขาครั้งนั้น ก็เลยสู้เพื่อคำว่า ประชาธิปไตย โดยที่ในอีกทางลึกแล้วคนพวกนั้น Copy เลียนแบบประชาธิปไตยมาจากตะวันตกหมดเลย ในขณะเดียวกันคนพวกนั้นก็กำลังได้รับการบ่มอบรมจากลัทธิเหมา มาร์กซิสต์ หลายคนเป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ แต่ไปอยู่ใต้ดิน ก็มองการต้องชนชั้นต้องไม่มีการแบ่งชนชั้น ด้วยเหตุนี้จะเห็นว่า ประเด็นตรงนี้มันฝังจิตฝังใจลงมาคนที่ต่อสู้ในยุค 14 ตุลา และพอเหตุการณ์ผ่านไปเรื่อยๆ 40 ปีที่ผ่านมา มันเป็น 40 ปีของการเปลี่ยนแปลง ด้านหลังหนึ่ง 40 ปี สร้างแข็งแรงอย่างไร ก็ต้องผุกร่อน นับประสาอะไรกับมนุษย์ ซึ่งมันต้องตื่นตอนเช้าเข้าห้องน้ำขี้ แต่งตัวออกไปทำงาน ไปเจอเจ้านายปากหมา เจอเงินค่าผ่อนรถที่ต้องผ่อน ไปเอาเงินไปจ่ายค่าเรียนลูก โน้นนี่นั่นไปเรื่อยๆ ชีวิตก็กัดกร่อนตัวเองไปเรื่อยๆ

เพราะฉะนั้นแล้ว อุดมการณ์ก็ต้องเปลี่ยนเริ่มเปลี่ยนไปเรื่อยๆ แล้วในขณะเดียวกันหลายคนที่ใช่ทฤษฎี เมื่อ 14 ตุลา เหตุการณ์ที่มาทุกวันนี้ไม่มีสอนในหนังสือ เรามีสอนหรือ คนอย่างเช่น ทักษิณ ชินวัตรอย่างนี้ เสกสรรค์นี้ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ เสกสรรค์เป็นอาจารย์ที่สอนคณะรัฐศาสตร์ ถ้าเขาเป็นอาจารย์รัฐศาสตร์เขาต้องเข้าใจ หลักการแย่งอำนาจระหว่างนิติบัญญัติ บริหารและตุลาการ จนวันนี้เสกสรรค์ยังดูไม่ออกเลยหรือว่า นิติบัญญัติกับบริหารพวกเดียวกัน ถูกไหม ถ้าลำพังมองเรื่องโครงสร้างของวิชารัฐศาสตร์ที่เสกสรรค์สอนอยู่แสดงว่า ทุกวันนี้มันผิด แล้วมันไม่ผิดเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่เคยเป็น พรรคเพื่อไทยที่เสกสรรค์ ภูมิอกภูมิใจนักก็ผิดใช่ไหม ทำไมเสกสรรค์ไม่เข้าใจตรงนี้ไม่พูดตรงนี้ เอาเวลาเพียงแค่นี้ก่อนแล้วกัน เพียงแค่นี้ก็สอบตกละเพียงแต่เสกสรรค์นะพยายามคิดทฤษฎีใหม่ขึ้นมา อาจเพราะเสกสรรค์ ยืนพูดอยู่ท่ามกลางเสื้อแดงคนพวกนั้นคิดอะไรไม่เป็นหมกมุ่นในอดีต ไม่เข้าใจการเปลี่ยนแปลง เชื่ออย่างเดียวว่าทักษิณคือ ตัวแทนประชาธิปไตย แค่พูดบอกทักษิณคือตัวแทนประชาธิปไตย

ผมถือว่าเสกสรรค์ไม่มีราคาแล้ว เขาบอกเสกสรรค์เป็นสิ่งชำรุดทางประวัติศาสตร์ผมกับมองว่า เสกสรรค์นี่เป็นขยะทางประวัติศาสตร์ไปละ ไม่ใช่สิ่งชำรุด เสกสรรค์พูดวันนั้นเปรียบกับว่าเสกสรรค์ไปนอนหลับมา 40 ปี แล้วเพิ่งตื่น เพิ่งตื่นขึ้นมาแล้วนึกถึงทฤษฎีเก่าๆ ขึ้นมา นึกออกไหมที่สำคัญที่สุดคือ ถูกห้อมล้อมด้วยนักวิชาการเสื้อแดง ไม่ว่าจะเป็น จรัล ดิษฐาอภิชัย ธนะศักดิ์ คนพวกนี้ไปหาเสกสรรค์เอาวะ ไปนั้งกินคุยกัน

เพราะฉะนั้นเสกสรรค์เริ่มมีอคติ เหตุผลเพราะสนิทสนมกับคนพวกนี้คุณคิดได้ ยังไง ว่าทักษิณเป็นตัวแทนประชาธิไตย ตัวแทนประชาธิปไตย ถ้าพูดแบบวัยรุ่นสมัยนี้ ก็คือตัวพ่อง ตัวแทนประชาธิปไตยพ่อง ให้น้องสาวเป็นนายกฯ และตัวเองสั่งอยู่ นี่เรียกตัวแทนในสายตาเสกสรรค์หรือ จนวันนี้เสกสรรค์ยังพูดถึงเรื่องชนชั้น พูดถึงอำมาตย์ และพูดถึงกลุ่มอนุรักษ์ แล้วเสกสรรค์พูดถึงการกระจายอำนาจต้องกระจายอำนาจลงไปต้องลดความเลื่อมล้ำ เสกสรรค์ยังก้าวไม่ทันพวกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เราก้าวล้ำไปกว่าเสกสรรค์ตั้งเยอะแล้ว เพราะเป็นฝ่ายที่ไม่เอาอำมาตย์ พรรคประชาธิปัตย์เราไม่เอา อำมาตย์ที่ผูกพันธ์กับพรรคประชาธิปัตย์เราก็ไม่เอา เราเอาคน 65 ล้านคนเป็นตัวตั้ง นั้นคือที่มาของการเปลี่ยนประเทศไทยของเราไง

งั้นเสกสรรค์ล้าสมัยกว่าเราเยอะ ล้าสมัยกว่าเก๋ ล่าสมัยกว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยที่เข้าใจสิ่งที่เราพูด แล้วเสกสรรค์ไปมองว่ากล่มทุนใหม่สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ อย่างนี้ กลุ่มทุนใหม่ ประชา มาลีนนท์ กลุ่มทุนใหม่ ไปร่วมกับพวกชนชั้นกลางใหม่ทั้งหมดที่พูดมา เสกสรรค์ไม่พูดเรื่องจริยะธรรม หรือศีลธรรมเลย โครงสร้างทางการเมืองที่คุณพูดเอาทฤษฎีที่ล้าสมัย เอาทฤษฎีซึ่งคุณนอนหลับไปตอนนั้นมันเปลี่ยนไปตั้งเยอะมาพูด มันปราศจากจริยธรรม และศิลธรรมได้อย่างไร มันไม่ได้ เสกสรรค์ไม่ยอมพูดถึงผู้เสียหายที่ทุนสามานย์มันทำ เสกสรรค์ไปบอกว่าทุนเก่าเป็นทุนซึ่งยึดครองวันนี้ ทุนเก่ามันไม่มีแล้ว มันหมดไปแล้ว ทุกวันนี้ที่อาละวาดอยู่คือทุนสามานย์ทุนใหม่ ทุนของเครือข่ายทักษิณ ทักษิณคือ ตัวพ่อของทุนสามานย์เลย

ทำไมเสกสรรค์ไม่พูดทำไมเสกสรรค์ไม่พูดแล้วทำไมเสื้อแดงที่เสกสรรค์ภูมิใจนักภูมิใจหนา ทำไมเสื้อแดงต้องการลดความเลื่อมล้ำต่ำสูงของสังคม รัฐบาลของเสื้อแดงมีแล้วทำไมไม่เก็บภาษีมรดก ทำไมไม่ปฏิรูปที่ดิน เพราะว่านักการเมืองมีเงินเยอะเก็บภาษีมรดกไม่ได้ ทักษิณมีทรัพย์สมบัติเยอะ เก็บภาษีมรดกไม่ได้ พจมานมีเงินเยอะ เก็บภาษีมรดกไม่ได้ ปฏิรูปที่ดินก็ไม่กล้า เพราะว่านักการเมืองพรรคเพื่อไทยพวกทักษิณ พวกนี้ที่ดินมันเยอะ ของมันทั้งนั้น

เพราะฉะนั้นประเทศที่เจริญการลดความเหลื่อมล้ำต่ำสูงประการแรกต้องปฏิรูปที่ดิน ประการที่ 2 ต้องเก็บภาษีมรดกเพราะว่าจู่ๆ คนมามีพ่อมีแม่อยู่หมื่นล้านแสนล้าน พ่อก็ส่งแสนล้านทั้งหมดให้กับลูกไอ้ลูกก็มีแสนล้านไปต่อยอดเป็นอีกแสนๆ ล้าน 2 แสนล้าน อุปมาอุปไมยเหมือนเซเว่นอีเลฟเว่น มันควรถูกจำกัดการขยายสาขาแล้ว เพราะถ้าไม่ถูกจำกัดการขยายสาขาอีกหน่อยทุกถนนจะมีเซเว่นอีเลฟเว่นหมด การที่มีเซเว่นอีเลฟเว่นหมดทุกสาขามันเกิด เพราะมีเงิน คนอื่นไม่มีเงิน เซเว่นอีเลฟเว่นจึงไปทำร้ายลำลายชุมชน ทำร้ายทำลายประชาชนที่เขาทำมาหากินอยู่ถูกไหมถูก อุปมาอุปไมยเหมือนกันเหมือนคนมีเงินแสนล้านเอาไปให้ลูก มันก็ทำเงินมันจะต่อเงินต่อเงิน เสกสรรค์ไม่รู้เรื่องนี้เลยแม้แต่นิดเดียว ทั้งๆ ที่กลุ่มทุนใหม่ของเสกสรรค์คือ กลุ่มทุนใหม่ที่กำลังจะทำแบบ แล้วทุนใหม่ที่มันทำไม่ได้ต่างอะไรจากทุนเก่าเลย มันก็ทำอย่างทุนเก่า มันต่างกว่าตรงที่ว่าสมัยก่อนทักษิณ มันเอาเงินจ่ายนักการเมืองทุกพรรคเพื่อช่วยในกิจการมัน แต่วันนี้ทักษิณมันมาเล่นเอง เพื่อมากินรวบทั้งหมด เสกสรรค์ไม่พูดแต่กลับไปเชิดชูเสื้อแดง และเชิดชูทุนอย่างสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ และเชิดชูทักษิณว่าเป็นตัวแทนประชาธิปไตย ผมแค่ฟังแค่นี้ผมก็รู้ว่าเสกสรรค์หมดสภาพแล้ว หมดสภาพจริงๆ ไม่เหลือเลยแม้แต่นิดเดียว น่าเสียดายและน่าสงสารมาก เขายังเป็นคนซึ่งยังไม่ตื่นจากากรนอนหลับ พอตื่นแล้วโลกมันเปลี่ยนไปเขารับไม่ทัน เขาก็เลยคิดไปง่ายๆ ของเขาแบบนี้ เขายังแยกไม่ออกเลยว่า พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย กลุ่มที่จะเปลี่ยนประเทศ และปฏิรูปประเทศจริงๆ และกลุ่มที่จะลดช่องว่างระหว่างชนชั้นแล้วก็ทำให้คนไม่เหลื่อมล้ำต่ำสูงกันมาก มีอยู่กลุ่มเดียวคือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย มีพวกเราเท่านั้นเอง

ถ้าเสกสรรค์ไม่โง่ ไม่อคติ และไม่หลงในวาทกรรม หรือยึดติดกับผลประโยชน์ เหล้า ไวน์ ที่ไอ้ฝ่ายซ้ายเอาไปเลี้ยงดูปูเสื่อ เสกสรรค์ต้องรู้ ว่าสังคมไทยจะไปรอด จะมีกลุ่มเดียวเท่านั้นที่จะสามารถทำให้รอด คือ พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เขาเรียกพวกเราว่า ชนชั้นกลางในเมือง แต่ผมเห็นชนชั้นกลางในเมืองแต่ละคน เป็นคนที่ไม่ทำร้ายประเทศเลยสักคน มีแต่คนสู้เพื่อประเทศ มีปต่คนสู้เพื่อความยุติธรรม พวกเสื้อแดง พูดถึงพวกเขาตายที่ราชประสงค์ และทำไมมึงไม่พูดถึงพวกกูที่ตายที่หน้ารัฐสภาบ้างล่ะ ที่ราชประสงค์ยิงสวนกันไปมา ที่หน้ารัฐสภาพวกกูถูกยิงอยู่คนเดียว ฉะนั้นแล้ว คุณจะอธิบายอะไรก็ตาม สิ่งแรกที่คุณต้องมี คุณต้องมีข้อเท็จจริง ข้อเท็จจริงคุณยังไม่มีเลย แล้วคุณไปคิดทฤษฎีเก่าๆ ที่คุณเลยเรียนมา แล้วที่สำคัญที่สุด คุณเรียนมาทางรัฐศาสตร์ คุณต้องยอมรับวิชารัฐศาสตร์ที่คุณเรียนมันสอนในเมืองไทยไม่ได้ เพราะสิ่งนี้มันเกิดขึ้นในประเทศไทย ในรัฐสภา โดยพวกเพื่อไทย ทักษิณ เสื้อแดง มันเป็นข้อเท็จจริงกับสิ่งตรงกันข้ามที่คุณสอนเด็ก แล้วคุณยังมีหน้ามาเลคเชอร์ให้ฟังอีกเหรอแอน

จินดารัตน์ - บางคนก็บอกกลับไปจำศีลเหมือนเดิม กลับไปนอนเป็นเจ้าชายนิทราเหมือนเดิม

สนธิ - ไม่ใช่มือตกนะ สมองตกด้วยนะ ตกหมดทุกอย่างเลยนะ

จินดารัตน์ - ดูที่เขาบอกว่า คนเสื้อแดงเป็นชนชั้นกลางใหม่อย่างที่คุณสนธิบอก เล่าให้ฟัง ที่สืบทอดเจตนารมณ์ 14 ตุลา และเขาบอกว่า

สนธิ - สืบทอดตรงไหน คุณตอบผมสิ สืบทอดตรงไหน

กมลพร - ต่อต้านรัฐประหาร กันยา 49 มันเป็นความผิดพลาดใหญ่หลวงของประเทศชาติมากๆ

สนธิ - แล้วที่ไอ้พวกสัตว์นรกที่มันอยู่ในสภาฯ พรรคเพื่อไทย ที่มันเอาเสียงข้างมาก แล้วมันจะแก้กฎหมายให้ทักษิณพ้นผิด ไม่ใช่ความผิดพลาดหรอ มันไม่ใช่เผด็จการอีกรูปแบบหนึ่งหรอ เข้าใจไหม

จินดารัตน์ - เขาพูดแล้วเขาก็พูดความจริงแค่ครึ่งเดียว เหลือแค่เสี้ยวเดียว แล้วเขายังบอกอีกด้วยนะคะว่า ชนชั้นกลางเก่าก็คือ พวกพันธมิตรฯ พวกนี้ต่อต้านการเปลี่ยนแปลง

สนธิ - พันธมิตรฯ นี่แหละเป็นคนที่ต้องการจะมีการเปลี่ยนแปลงมากที่สุด คุณเสกสรรค์ ผมว่าคุณกลับไปจำศีลเหมือนเดิมดีกว่า คุณอย่าได้ออกมาเลย หลายคนบอกว่า คุณพูดออกมาแล้วสังคมสะเทือน สำหรับผมแล้วสังคมไม่ได้สะเทือกหรอก สังคมสมเพชคุณ สมเพชที่เขาเคยเชื่อว่าคุณเป็นคนซึ่งเปรียบเสมือนเป็นแสงสว่างของคนรุ่นใหม่ วันนี้คุณได้พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า คุณไม่มีห่าอะไรเลยแม้แต่นิดเดียวในสมองคุณ

จินดารัตน์ - เป็นขยะหรอคะ

สนธิ - เป็นขยะจริงๆ เป็นขยะทางประวัติศาสตร์จริงๆ

จินดารัตน์ - คือมีการพูดถึงนักวิชาการที่ออกจะเกลียดพันธมิตรฯ เราต้องใช้คำนี้ เขาบอกว่า เป็นชนชั้นกลางที่อิจฉา เป็นคนขี้อิจฉาที่ทักษิณ เอาเงินไปปรนเปรอกับคนชั้นล่าง

กมลพร - ชอบอย่างนี้

สนธิ - ทักษิณ ไม่ได้เอาเงินทักษิณไปปรนเปรอคนชั้นล่าง ทักษิณเอาภาษีของกูไปแจก เพื่อให้คนพวกนั้นเลือกทักษิณเข้ามา เพื่อทักษิณก็จะได้เอาเงินภาษีของกูไปสร้างโครงการ แล้วก็โกงกูต่อไป เข้าใจหรือยัง นี่ต้องพูดแบบนักเลง ต้องพูดแบบลูกภาษาพ่อขุนเลย

จินดารัตน์ - ถ้าดูอีกฟากฝั่งหนึ่ง อ.ธีรยุทธ บุญมี แกมีเหตุมีผลมากกว่านะคะ

สนธิ - ธีรยุทธเขามีเหตุมีผล แต่ธีรยุทธก็ยังไม่กล้าฟันธงเต็มๆ แต่ก็ยังอย่างน้อยที่สุดเขาก็มองว่า ทักษิณ

จินดารัตน์ - คือตัวปัญหา

สนธิ - คือตัวปัญหา ใช่ไหม ของเราก้าวข้ามธีรยุทธไปด้วย เรามองว่า ทักษิณเป็นตัวปัญหาจริง แต่เรามองกว้างไกลไปกว่านั้น เรามองว่า ระบบการเมืองปัจจุบันมันเป็นตัวปัญหาที่ใหญ่ เพราะระบอบการเมืองปัจจุบัน มันเป็นระบอบที่สร้างขี้คาตูดอย่างทักษิณ ใช้ภาษาของธีรยุทธ

กมลพร - ขี้ขำ

จินดารัตน์ - ขี้ขำคือ ภาษาเหนือ ใช่เปล่า ขี้ขำแปลว่า ขี้คารูก้น

สนธิ - ก็นี่ไง เข้าใจไหม

จินดารัตน์ - ก้อนใหญ่มาก หน้าเหลี่ยวเชียว

สนธิ - ของพวกเรารู้ว่าทักษิณคือ กบฏนะ ทักษิณคือ กบฏของแผ่นดินนะ และเป็นตัวปัญหา แต่ระบบที่สร้างคนอย่างทักษิณขึ้นมา ก็คือระบบการเมืองปัจจุบัน เราไม่เอาทั้งทักษิณและเราไม่เอาทั้งระบบนี้ด้วย

จินดารัตน์ - เราจะขุดรากถอนโคน

สนธิ - เราจะขุดรากถอนโคน เราไม่เอา

จินดารัตน์ - เราไม่ตัดแค่กิ่งนะคะ

สนธิ - เราไม่ตัด เราต้องขุดเลย ล้มไปหมดเลย เราต้องปลูกต้นไม้ใหม่ขึ้นมา

กมลพร - ไอ้ระบบนี้แหละมันหยั่งรากลึกไปถึงนักการเมืองทุกพรรค

จินดารัตน์ - ชั่วๆ ก็เป็นแบบนี้แหละ

กมลพร - มันเป็นเหมือนกัน

สนธิ - นักการเมืองสัตว์นรก ผมพูดนี่ไม่ผิดหรอก

กมลพร - เต็มๆ จัดเต็ม เมื่อกี้มีเบอร์โทรเพิ่มขึ้นมานะคะ ขออนุญาตแทรกตรงนี้นิดหนึ่ง

สนธิ - โทรไปไหน

กมลพร - โทรไปสั่งจองเสื้อแล้วยังงัย รับไม่ทันจริงๆ ค่ะ 2 เบอร์เมื่อกี้โทรศัพท์จะไหม้นะคะ เพิ่มอีกเบอร์หนึ่งสำหรับใครที่อยากจะได้เสื้อจำนวนจำกัดนะคะ บริจาคบาทละ 250 บาท สำหรับไซส์ใหญ่

จินดารัตน์ - XXL

กมลพร - แล้วยังงัย คติธรรมซึ่งเราจะใส่ร่วมกันนะคะ 081-306-2069 อีกเบอร์หนึ่ง 081-306-2069 แม้จะมี 3 เบอร์ และคาดว่า

จินดารัตน์ - สายไหม้เหมือนเดิม เหมือนตอนแจกพระค่ะ คุณสนธิต้องสร้างความ แบบข้อเท็จจริงนิดหนึ่งเรื่องพระที่ให้แจกเมื่ออาทิตย์ที่แล้ว ให้โทรไปสำหรับคนที่รับข่าวทางมือถือใช่ไหม มี 2 เบอร์ โทรกันตั้งแต่ประมาณ 7 โมง

สนธิ - บางทีไปติดเอาบ่าย 2 โทรตลอดเวลา

จินดารัตน์ - โทรไม่ติดเลย เขาบุกมาที่ออฟฟิตเลย คุณสนธิ บางคนก็ร้องไห้ด้วยนะ

กมลพร - บางคนเป็นเอเอ็มเอสสมาชิกข่าวอยู่แล้ว และรู้สึกว่าต้องสมัครใหม่หรือเปล่าถึงจะได้ เอาโทรศัพท์ขึ้นมาอีกรอบหนึ่ง

จินดารัตน์ - ระบบก็จะบอกว่า คุณสมัครแล้ว ก็คนที่ได้ทางเอเอสทีวีจะจัดส่งให้ถึงบ้านเลยนะคะ ไม่ต้องกลัวว่า พวกเราจะคลาดกัน หรือติดต่อกันพลาดตรงไหนอย่างไร เพราะส่วนใหญ่จะค่อนข้างกังวลใจว่า ได้ชื่อที่อยู่เขาไปแล้ว ส่งถึงไหมอย่างไร เขาจะรอรับที่บ้าน

กมลพร - แน่นอนค่ะ แพ็กกันหลังงอกันเป็นแถว โดนกันหมดโปรดิวซง โปรดิวเซอร์ แล้วคอลเซ็นเตอร์ตอนนี้ใช้ได้แล้วนะคะ สามารถที่จะโทรได้แล้ว ทั้งสั่งจองเครื่องทำน้ำด่าง จะถามเรื่องหนังสือ หรืออะไรก็ว่าไปนะคะ เบอร์คอลเซ็นเตอร์ของเราคือ 02-633-5353 คุณสั่งเราส่ง

จินดารัตน์ - งั้นเดี๋ยวเราพักกันก่อนนะคะ คุณสนธิ

สนธิ - ได้ครับ

จินดารัตน์ - ช่วงหน้ากลับมามีเรื่องใหญ่ ที่มันจะเกี่ยวพันเกี่ยวเนื่องไปถึงประเทศยักษ์ใหญ่ที่อยู่เบื้องหลัง ที่มันทำให้เราวุ่นวายจิตใจกันทุกวันนี้ เรื่องข้าวเรื่องอะไรก็แล้วแต่ มันโยงไปถึงประเทศมหาอำนาจทั้งสองฟากฝั่ง คุณสนธิจะวิเคราะห์เรื่องนี้ให้ฟัง พักกันก่อนค่ะ

ช่วงที่ 2

จินดารัตน์ - กลับมาอีกช่วงหนึ่ง คุยทุกเรื่องกับสนธิ เดี๋ยวเราจะคุยกันต่อ โดยเฉพาะเรื่องนี้เรื่องใหญ่ คุณผู้ชมเห็นสัมภาษณ์นายกฯ เรื่องข้าวแล้ว ก็น่าจะ ... เป็นอะไรเหรอ

กมลพร - กลุ้ม ตอนแรกคิดว่าชินแล้วนะ ตอนแรกคิดว่าชินกับนายกรัฐมนตรีคนนี้แล้ว ยังไงก็ไม่ชินกับเธอ เธอสร้างความประหลาดใจได้ตลอดเวลา

สนธิ - เป็นคนที่ ... ถ้าพูดภาษาชาวบ้าน เป็นคนที่ตอแหลลงตับจริงๆ แล้วตอแหลแบบหน้าตาย

จินดารัตน์ - ให้ดูหน่อยมั้ยคะ

สนธิ - ตามสบายเลย

จินดารัตน์ - ไปดูกันค่ะ

(VTR : นายกฯ เรื่องข้าว)

สนธิ - สวดส่งวิญญาณ ไปเถิด ไปเถิด ไปให้พ้นๆ โลกนี้เถิด ... เรื่องของเรื่องก็คือว่า ทั้งหมดนี้ ก่อนที่จะโยงเข้าสู่จีน ทั้งหมดนี้ ข้าว .. การจำนำข้าวมันกำลังจะจุกอกรัฐบาลชุดนี้ตาย แล้วรัฐบาลชุดนี้จะตายเพราะเรื่องจำนำข้าว ผมคิดว่าคุณสุภา อดีตรองปลัดกระทรวงการคลัง ที่ท่านให้สัมภาษณ์ว่าจำนำข้าวขาดทุน 2.5 แสนล้าน ผมคิดว่าท่านพูดอย่างเกรงใจ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร ออกมาคอนเฟิร์มว่า 4 ล้าน 4 แสนล้าน นั่นคือพูดอย่างตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจ นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล ก็ออกมาตอบโต้ บอกว่าขาดทุนอย่างมากก็แสนล้าน กิตติรัตน์ ณ ระนอง ก็บอกสมัยก่อนว่า ถ้าขาดทุนเกิน 75,000 ล้าน จะลาออก เพราะงั้นไอ้คนพวกนี้มันพูด ปากมันเหมือนตูด แล้วก็มีขี้ขำอยู่ ขี้คาตูด ขี้คาปาก คือไอ้พวกนี้พูด มันโกหกเป็นอาจิณ มันตอแหลเป็นธรรมดา เหมือนกับเช้ามันตื่นขึ้นมาแล้วต้องเข้าห้องน้ำ ขี้-เยี่ยว มันทำปกติธรรมดาจนไม่รู้สึกอะไรเลยแม้แต่นิดเดียว พอจีนกลับปั๊บ มันประกาศว่าจีนจะซื้อข้าวปีละล้านตัน 5 ปี จีนก็เลยงงว่าเกิดอะไรขึ้น ก็เหมือนการ์ตูนผู้จัดการ บอก ถ้านายหลี่ เค่อเฉียง ฟังภาษาไทยออก มันคงตกใจ "ซันปา"

จินดารัตน์ - แปลว่าอะไร

สนธิ - ซันปา คือ ติ๊งต๊อง ภาษาจีนกลางคือติ๊งต๊อง เพราะว่า คือทั้งหมดนี้ตอนนี้รัฐบาลชุดนี้มันกำลังจะหายใจไม่ออก เพราะข้าวค้างสต๊อกของมัน ที่สำคัญคือ ข้าวค้างสต๊อกของมันขายไม่ออกเลย 1. ราคาก็แพงกว่าชาวบ้านเขา 2. ลดราคาแล้วก็ต้องแบกขาดทุน นี่ขาดทุน 4 แสนล้าน ยังไม่ได้นับถึงการขายข้าวออกอีกนะ ถ้าขายข้าวออกอีก ขาดทุนอีกเท่าไร ผมว่างานนี้ต้องมีขาดทุนประมาณเกิน 4 แสนกว่าล้าน ชัดๆ เพราะฉะนั้นทำยังไงจะระบายข้าวพวกนี้ เพราะถ้าไม่ระบายข้าวพวกนี้ออกก็จะไม่มีเงินใหม่เข้ามา ที่จะเอามาหมุนจำนองต่อ เพราะว่าไม่มีตังค์แล้วไง แล้วขบวนการมันโกง มันโกงมาตั้งแต่ระดับรัฐมนตรีเลยนะ ลากมาเรื่อย ไปจนถึงข้าราชการระดับล่าง ไปจนถึงพวกเจ้าของโรงสี หัวคะแนน นักการเมืองท้องถิ่น ไปจนถึง ส.ส. ผมคิดว่าถ้ามีการตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางขึ้นมาพิสูจน์การทุจริตจำนำข้าว ผมคิดว่า ข้าราชการกระทรวงพาณิชย์ ติดตะราง ระดับใหญ่ๆ ไม่ต่ำกว่า 4-5 คน ยรรยงนี่ต้องโดนด้วย และอดีตปลัดที่บอกว่าเป็นความรู้สึก ของแพงเป็นแค่ความรู้สึก ก็ต้องโดนด้วย มีส่วนสมรู้ร่วมคิด รวมเบ็ดเสร็จไปจนถึงคณะรัฐมนตรีที่อนุมัติเห็นชอบด้วย จีนนี่ไม่มีวันที่จะซื้อข้าวปีละ 1 ล้านตัน จนกระทั่ง .. จนกว่าข้าวในสต๊อกล็อตนี้หมดไป เขาถึงอาจจะพิจารณาซื้อจริงๆ เหตุผลเพราะว่าทำไม เพราะว่าก่อนที่หลี่ เค่อเฉียง จะมา State Council ก็คือ ครม.ของจีน เขามีมติว่าจะซื้อข้าวจากไทย จะต้องผูกไว้กับเงื่อนไขของรถไฟความเร็วสูงด้วย เขามีมติเลยนะ และยังไม่ซื้อตอนนี้ จนกว่าข้าวสต๊อกไทยหมด คือคนจีนไม่ใช่โง่ เขาไม่โง่เหมือนนายกฯ เรา เขามีข้อมูลหมด พ่อค้าคนจีนที่ค้าขายก็รู้ ทำไมจะไม่รู้ จีนตอนนี้ปัญหาใหญ่ที่สุดของเขาคืออะไร เรื่องคุณภาพอาหารการกินของเขา เขามีมากเลยนะ เขามีน้ำมันพืชปลอม เขามีนมผงปลอม กินแล้วเด็กตาย เขามีอาหารกินแล้วคนไม่สบาย เขาจับพวกพ่อค้าที่ผลิตอาหารที่ไม่มีประโยชน์และเป็นอาหารที่ทำลายสุขภาพ เอามาคดโกงผู้บริโภค เขาจับกันวันต่อวัน เนื่องจากประชากรเขาเยอะ แล้วเขาประหารชีวิตไปหลายคนแล้ว เพราะฉะนั้น แล้วถามว่าเขาจะกล้าซื้อข้าว 2 แสนตันต่อปี เอาตีสัก 5ปี 5ล้านตัน เอาแค่ปีละ 2แสนตัน เขาจะกล้าซื้อไปให้คนเขากินหรือ ไม่มีทาง ประชาชนจีนถล่มตายห่าเลย ทุกวันนี้ขนาดเขาเป็นเผด็จการคุมอำนาจขนาดนี้ เขายังกลัวเลยที่ประชนด่า ที่กินนี้ตาย นั้นตายและเขาตายกันจริงๆ ตายกันเป็นเบือเลยนะ เพราะฉะนั้นไม่มีทางที่เขาจะซื้อข้าวจากประเทศไทยจนกว่าข้าวล็อตนี้หมด เอาหัวสนธิเป็นประกัน ผมถึงบอกยิ่งลักษณ์ตอแหลลงตับ โกหกร่วมกันโกหก ในที่สุดก็มาเป็นความจริงแล้วว่ามันเป็นกรอบไม่ใช่เอ็มโอยู แต่ตอนแรกบอกเอ็มโอยูมึงพูดทำไม จีนเขาสั่งไว้เด็ดขาดในครม.เขาว่า ถ้าจะเจรจาเรื่องซื้อข้างต้องผูกกับรถไฟความเร็วสูง ทำไมจีนต้องการอันนี้ เรามาดูแผนที่กันนิดหนึ่ง ก่อนที่จะไปที่แผนที่ เอาแผนที่ประเทศไทยก่อน รถไฟความเร็วสูงที่จีนต้องการนะ จีนต้องการเชื่อมภูมิภาคนี้ทั้งหมด ต้องการเชื่อมจากหนองคายลงมาที่กรุงเทพฯ จากกรุงเทพฯลงต่อไปทางใต้ เชื่อมต่อมาเลเซีย และเข้าสิงคโปร์ ส่วนสายตะวันตอต้องการเชื่อมต่อไปพม่า ลาวและพม่า ทำไมจีนต้องทำอย่างนั้น จีนต้องทำเพราะว่า จีนกำลังโดนอเมริกาปิดประเทศ ด้วยแสนยานุภาพของอเมริกา อเมริกาประกาศ บารัก โอบามา ประกาศไว้ที่ออสเตรเลียเมื่อประมาณปีกว่า 2 ปีที่แล้ว ว่าถึงงบประมาณอาหารของอเมริกาจะลดลงก็ตาม แต่ว่าบทบาททางทหารอเมริกาในพื้นภูมิภาคแปซิฟิกจะเพิ่ม จะเพิ่มมากว่าเก่า ตอนนี้จีนกำลังติดกับดักตัวเองอยู่ที่ซีเรีย เพราะว่าเขามีกองเรือที่หก หรือกองเรือที่ห้า ซึ่งประจำอยู่ที่แถวเมดิเตอร์เรเนียน กองเรือที่เจ็ดอยู่ที่โอกินาว่า เขาต้องการย้ายกองเรือที่ห้าและหก เจ็ด 3 กองเรือ ซึ่งจะมีเรือบรรทุกเครื่องบินอย่างน้อยที่สุด เกือบ 10 ลำ เข้ามาแล้วก็เรือรบอีกไม่รู้ตั้งกี่ลำ แล้วขบวนเรือบรรทุกเครื่องบินทั้งหมดเป็นร้อยๆ พันๆลำ นี่คือการบล็อกจีน ในขณะเดียวกันจีนก็เร่งพัฒนาอาวุธตัวเองทำไมจีนถึงเร่งสร้างเรือบรรทุกเรื่องบิน เพิ่งเสร็จไปลำหนึ่ง ซื้อเรือเก่ามาจากรัฐเซียมาพัฒนาเป็นเรือบรรทุกเครื่องบินและจีนกำลังสร้างเรือบรรทุกเครื่องบินภายในระยะเวลาไม่เกิน 10 ปีนี้ อีก 8 ลำ เพราะว่าในประวัติศาสตร์ของโลกแล้ว อาณาจักรไหนก็ตามถ้าไม่มี แสนยานุภาพทางทะเลต้องถือว่าไม่ใช่มหาอำนาจ ไปย้อนหลังดูได้เลย สเปน อังกฤษ กรีก หรือมแกระทั่งอาณาจักรศรีวิชัย ศรีวิชัยความยิ่งใหญ่คือกองเรือศรีวิชัย ที่สามารถแล่นไปตลอดเลยแปซิฟิกแล่นไปถึงจีนได้เลย กองทัพเรือเป็นเรื่องที่สำคัญที่สุดเพราะกองทัพเรือมันสามารถมีเรือบรรทุกเครื่องบินแล้วไปจอดตรงไหนก็ได้แล้วใช้เครื่องบิน บินไปถล่มๆ แล้วการรบภาคพื้นดินอนาคตแทบไม่มีความหมาย ที่นี้จีนต้องการคานอเมริกาด้วยการรวมอาเซียน กลุ่มประเทศอาเซียนทั้งหมดมีประชากรทั้งหมดประมาณ 600 ล้านคน จีนมีอยู่ 1,300 บวกอาเซียน 600 เป็น1,900 อินเดียมีอยู่ 1,200 เพิ่งจะเมื่อเร็วๆนี้ อินเดียมาจับมือกับจีนเพราะอินเดียวเริ่มเห็นละว่าจีนจับมืออาเซียน อินเดียขอร่วมด้วย ลำพังแค่อินเดียจีน อาเซียนบวกเข้าไป 1,200+1,300 2,500+600 ก็เป็น 3,100 ประชากรมากว่าครึ่งของโลกนี้อยู่ในกลุ่มนี้หมด หมดอินเดีย จีน อาเซียน เข้าใจยัง ที่นี้พอเป็นเช่นี้แล้วเราจะเห็นได้ชัดเลยว่า อเมริกาตอนนี้อยู่ที่นี้ญี่ปุ่น อยู่ที่โอกินาว่ากองเรือที่เจ็ด เขาจะเอากองเรือที่ห้าและหกพยายามเจรจาเวียดนามอยู่ ถ้าไม่ได้เวียนนามเขาจะอยู่ที่ฟิลิปปินส์ เรือเขาอยู่ตรงนี้ เท่ากับว่าบร็อกจีน และตรงนี้เรียกทะเลจีนใต้ แต่จีนก็ลากเส้นเขาโทษนะ เหี้ยๆเลย มาถึงตรงนี้ว่าของเขาหมด เนื่องจากเขาอ้างอิงหลักฐานทางประวัติศาสตร์ว่าของเขาสมัยก่อนสมัยราชวงศ์ชิง สมัยนู้น นี้ ถ้าเขาอ้างอิงนะในประวัติศาสตร์ สักวันเขาคงอ้างว่าเคยเป็นเจ้าของเมืองไทย เหมือนกับตอนนี้ที่อ้างเป็นเจ้าของทิเบต สมัยก่อนนั้นตั้งแต่สมัยราชวงศ์หมิง หรือราชวงศ์ถังเขาส่งเจ้าหญิงลูกสาวจักรพรรดิ์ไปแต่งงานกับทิเบต เพราะฉะนั้นความผูกพันธ์มันมีอยู่ อันนั้นเป็นเรื่องประวัติศาสตร์ ถามว่าในขณะนี้ที่เรามองดู เขาเรียกว่าภูมิรัฐศาสตร์ เรามองดูคุณรู้ไหมว่า มีประเทศไหนบ้างที่มีชายฝั่งทะเลติด 2 มหาสมุทร มีอยู่ 2 ประเทศ อเมริกา ทางฝั่งตะวันตกติดมหาสมุทรแปซิฟิค ตะวันออกติดมหาสมุทรแอตแลนติก และอีกประเทศ คือ ไทย ฝั่งหนึ่งอยู่แปซิฟิค อีกฝั่งคือมหาสมุทรอินเดีย ฉะนั้นไทยจึงเป็น Position ที่สำคัญที่สุดในอาเซียน ใครๆก็ต้องการไทย จับไทยเอาไว้ เพราะไทยนอกจากจะ Position สำคัญสุดในอาเซียน เขาถึงบอกไง อาหารไทยมันไม่เหมือนชาวบ้านเขา มันเป็นส่วนผสมของจีนกับอินเดีย ทำไมเราถึงมีแกงเขียวหวาน แกงเผ็ดเป็ดย่าง เพราะเราได้แรงเครื่องเทศจากทางนี้ แล้วทำไมเราถึงมีอาหารแบบรสชาติจีนเข้ามาด้วย เพราะเรามีทางนี้มา ประเทศไทยเลยเป็นเบ้าหลอม สมัยก่อนเขาเรียกว่าเป็นประเทศสยาม ของชนทุกเหล่ามาอยู่ด้วยกัน ในประเทศกลุ่มอาเซียนทั้งหมด เป็นมุสลิมกี่ประเทศ 3 ประเทศ เป็นมาเลเซีย อินโดฯ บรูไน อินโดฯ อยู่เกาะไกลห่างออกไปเลย แทบจะไม่มีความหมาย เหลือจริงๆคือมาเลเซีย นอกนั้นแล้วเป็นประเทศพุทธ ซึ่งอยู่บนดินหมดเลย

วันนี้ที่เราชอบพูดตลอดเวลาว่า ไทยจีนพี่น้องกัน สมัยก่อนอาจจะใช่ สมัยนี้ไม่ใช่แล้ว สมัยนี้ไทยกับจีน จีนเวลามาคุยกับไทย ผลประโยชน์เท่านั้น จีน ณ วันนี้เขามีเงินเหลือฝากอยู่ในธนาคารอเมริกันในรูปแบบของพันธบัตรเป็นเงินกว่า 2 ล้านล้านเหรียญสหรัฐฯ 12 ปีที่แล้ว 1 เหรียญสหรัฐฯ แลกเงินหยวนได้ 8.7 วันนี้เหลือ 5.2 แข็งขึ้นมา แปลว่า จีนเจ๊งเพราะเอาเงินไปฝากเป็นดอลลาร์ไปแล้ว 40-50 % อเมริกาวันนี้ถ้าทำแล้วชักดาบจีนได้ ในเรื่องหนี้ที่จีนไปฝากไว้เป็นพันธบัตร มันจะทำ จีนก็กลัวเรื่องนี้ ก็เลยต้องเอาดอลลาร์มาใช้ ใช้ฉิบหายเลย จีนเลยเอาเงินไปแจกที่โน่นทีหนึ่ง ให้เขมร พม่าบ้าง ให้แอฟริกาบ้าง เพื่อที่จะ 1.ขายของจีนออกไป 2 ปักหลักในเรื่องของแหล่งพลังงานต่างๆ เข้าใจหรือยัง ทีนี้ พอเอาเงินไปแจกเสร็จเรียบร้อยแล้ว จีนก็เลยคิดมาว่า จากนี้ไปกูต้องใช้นโยบายการทูตทางการเงิน เขาเรียกว่า Financial Diplomacy คุณก็ไปดูสิเดี๋ยวนี้จีนเอาเงินให้ลาวเต็มเลยนะ ทีนี้ มีประเทศไทยประเทศเดียวที่ไม่ได้เงินจากจีน เพราะว่าประเทศไทยต้องการที่จะทำอะไรด้วยตัวเอง ลงทุนในโครงสร้างต่างๆ เพื่ออะไรรู้มั้ย เพื่อทำมาหารับประทานด้วยตัวเอง เพื่อให้นักการเมืองไทยจะได้กินคอมมิชชั่น นั่นคือว่าทำไมไทยถึงอยากทำรถไฟความเร็วสูงด้วยตัวเอง
จีน วันนี้จีนต้องการจะยึดไทยเป็นหัวหาด วันนี้ทักษิณต้องพึ่งจีน นช.ทักษิณ ไม่มีที่ไปแล้ว มันบินไปอยู่ที่ไหนก็อยู่ไม่ได้ อยู่ 1-2 วันก็กลัวตาย กลัวพวกอัลกออิดะห์มาฆ่า และตอนนี้คนที่จะฆ่าทักษิณอีกคนหนึ่งคืออเมริกา การฆ่าไม่ได้หมายความว่าจู่ๆ เดินเข้าไปยิงเขาตายนะ อาจจะทำให้เครื่องบินตกบ้าง อาจจะใส่ยาพิษบ้าง เหมือนกับที่เขาฆ่ากันในหนัง ยังไงอย่างนั้นเลย เหตุผลเพราะว่าอเมริกาไม่ไว้ใจทักษิณแล้ว เพราะทักษิณไปทำตัวเป็นนายหน้าให้จีน ไปเจรจากับฟิลิปปินส์ ไปเจรจากับมาเลเซีย ไปเจรจากับพม่า เพื่ออะไรรู้มั้ย เพื่อให้จีนมีอำนาจเหนือทะเลจีนตอนใต้ตรงนี้ เข้าใจหรือยัง

อำนาจตรงนี้ เส้นแบ่งที่จีนขีดออกมาในเรื่องของอาณาเขตของจีนทางทะเล มันไปกระทบมาเลเซีย กระทบเวียดนาม กระทบบรูไน กระทบฟิลิปปินส์ด้วย ซึ่งเป็นกลุ่มประเทศอาเซียน ด้วยเหตุนี้อเมริกาถึงแสดงอำนาจออกมา โดยผ่านนางฮิลลารี คลินตัน ตอนที่ยังเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอยู่ ก่อนที่จะลาออกไป ทีนี้คลินตันบอกว่า ทะเลจีนตอนใต้เป็นของทุกคน ไม่ใช่เป็นของประเทศใดประเทศหนึ่ง ก็คือมุ่งหมายไปที่จีน ฝรั่งมันก็เลยพยายามที่จะบังคับ ไม่ใช่บังคับ เชิญชวนให้กลุ่มในประเทศอาเซียน เวลาประชุมสมาชิกอาเซียน ให้เอาเรื่องทะเลจีนตอนใต้ขึ้นเป็นประเด็นในการถกเถียงกัน ว่าควรจะเป็นของใครบ้าง จีนควรจะมีสิทธิ์คนเดียว หรือทุกคนควรจะมีสิทธิ์ ถ้าทุกคนควรจะมีสิทธิ์ หมายความว่าข้ออ้างที่จีนต้องการที่จะเป็นเจ้าของตรงนี้ย่อมหมดไป หรือจะต้องมีความขัดแย้งกับกลุ่มประเทศอาเซียน จีนก็บอกว่า ไม่ได้ เรื่องนี้มันเป็นเรื่องที่จีนต้องคุยกับประเทศแต่ละประเทศในลักษณะเป็นทวิภาคี ตัวต่อตัว ถ้าประเทศไทยมีส่วนเกี่ยวข้องกับทะเลจีนตอนใต้ เขาจะมาคุยกับไทย เขาจะคุยกับฟิลิปปินส์ เขาจะคุยกับเวียดนาม การคุยกันตัวต่อตัวก็คือว่า อย่างนี้นะ มึงเอานี่ไป ตรงนี้มึงอย่ายุ่งได้มั้ย อะไรทำนองนี้ ซึ่งอเมริกาไม่ต้องการ เพราะว่าแหล่งน้ำมันทะเลจีนตอนใต้ยังมีอีกเยอะที่ยังค้นหาอยู่ และอาจจะมี

จีนวันนี้ที่กังวลที่สุดคือเรื่องของแหล่งพลังงาน พลังงานสำหรับจีนนี่สำคัญมาก เพราะว่าประเทศจีนกำลังเจริญเติบโต ถ้าแหล่งพลังงานไม่ถาวร ไม่เสถียร ไม่มั่นคง จีนจะลำบาก จีนเปลี่ยนไปยังไง เรามาเล่าประวัติศาสตร์ มาย้อนประวัติศาสตร์กันดู แล้วผมจะโยงมาถึงประวัติศาสตร์ปัจจุบัน จะได้เห็นชัดๆ เลยว่าจีนเดี๋ยวนี้ ไม่ใช่ไทย-จีนพี่น้องกัน ไม่ใช่พี่น้องกันเลี้ยว มึงเผลอนิดนึงมึงโดนกระทืบแน่ เพราะฉะนั้นแล้วคนไทยต้องไม่เผลอให้จีนมันกระทืบ

เริ่มมาตั้งแต่สมัยปฏิวัติประเทศจีน ปี 1949 (2492) ปีที่ทักษิณเพิ่งเกิด เหมา เจ๋อ ตุง ขึ้นมาเป็นผู้นำจีน ช่วงนั้นจีนกำลังลำบาก ช่วงนั้นจีนถูกรังแกจากต่างชาติ ช่วงนั้นต่างชาติเข้าไปสนับสนุนพรรคก๊กมินตั๋ง ซึ่งตอนนี้อยู่ที่ไต้หวัน สนับสนุนจอมพลเจียง ไค เช็ก ออกมาต่อสู้ เหตุผลเดียวที่เจียง ไค เช็ก จำเป็นต้องมาจับมือกับเหมา เจ๋อ ตุง สู้ ก็เพราะว่าญี่ปุ่นมายึดครองจีน มันก็เลยเกิดสงครามจีนกับญี่ปุ่นเป็นระยะยาว พอสมครามใกล้จบ ประเทศจีนซึ่งบุกเข้าไปตามชุมชนต่างๆ หมู่บ้านต่างๆ มาเดินทางไกลที่เขาเรียกลองมาร์ชของประธานเหมา ระหว่างเดินไปก็ชวนชาวบ้าน บอกว่าโดนนายทุนกดขี่ขูดรีดใช่มั้ย มาร่วมกัน เราต้องเท่าเทียมกัน ชนชั้นกรรมกร ชนชั้นเกษตรต้องเหมือนกัน และนี่คือทฤษฎีที่เสกสรรค์เอามาไง เพราะเรียนรู้มาจากทางพวกนี้ แล้วก็ยังฝังจิตฝังใจอยู่ แล้วเอามาคิดทฤษฎีใหม่ ต่อยอดตรงนั้น เป็นชนชั้นกลางใหม่ เข้าใจหรือยังล่ะตอนนี้

ที่เหมา ช่วงเหมาสร้างประเทศขึ้นมา จีนปิดประเทศเลย จีนถูกปิดล้อมหมดเลย ถูกปิดล้อมหมดเลยนะ เพราะว่าประเทศทางเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ก็อยู่ภายใต้สนธิสัญญาที่อเมริกาเป็นคนสร้างขึ้นมา คนสร้างชื่อนายจอห์น ฟอสเตอร์ ดัลเลส ก็คือสนธิสัญญาซีโต้ หรือภาษาอังกฤษเรียกว่า Southeast Asia Treaty Organization (SEATO) ก็คือสนธิสัญญาที่มาบอกว่า ใครโจมตีประเทศใดประเทศหนึ่ง ก็เหมือนกับโจมตีทุกประเทศ อเมริกาเซ็นสัญญาด้วย เพราะฉะนั้นอเมริกาก็จะใช้สิทธิอันชอบธรรมนี้เข้ามาช่วยทันที แต่เผอิญช่วงหลังจีนกับรัสเซียแตกกัน เมื่อจีนกับรัสเซียแตกกันแล้ว จีนก็เลยถูกโดดเดี่ยวด้วยตัวของจีนเอง รัสเซียก็มีอิทธิพลอยู่ในเวียดนาม นั่นคือที่มาว่าทำไมรัสเซียถึงช่วยเวียดนามตลอดเวลา แล้วทำไมเวียดนามกับจีนถึงเปรียบเสมือนลิ้นกับฟัน เพราะว่าคอมมิวนิสต์คนละสายกัน

เอาล่ะ พอหมดช่วงสงครามเย็นไป ช่วงที่บรรดาฝ่ายซ้ายที่อยู่ในป่า ช็อกกุ ภาษาญี่ปุ่น คือช่วงที่ประธานาธิบดีนิกสัน ไปจับมือกับเหมา เจ๋อ ตุง โดยคนกลางเป็นคนติดก็คือ เฮนรี คิสซินเจอร์ ช่วงนั้นฝ่ายซ้ายที่อยู่ใต้ดิน ที่อยู่ป่า ฟังวิทยุเสียงประชาชน ช็อกกุหมดเลย แล้วจู่ๆ วิทยุเสียงประชาชนก็ถูกปิด นั้นคือวิทยุเสียงประชาชนภาคภาษาไทยถูกปิด พวกนี้ออกจากป่ามา เผอิญเรามีนโยบาย 66/23 ที่จะให้อภัย พวกนี้เรากลับมา นั่นคือที่มาของกองทัพประชาชนไง พวกนั้นแหละ แล้วก็เป็นที่มาของคนอย่างเช่น หมอเหวง น.พ.พรหมินทร์ ภูมิธรรม เวชยชัย คนพวกนี้อยู่ป่าทั้งสิ้น เชื่อมั่นในหลักลัทธิคอมมิวนิสต์ และเชื่อมั่นในเรื่องของการขจัดความเหลื่อมล้ำ แต่วันนี้ไม่เชื่อมั่นอีกต่อไปแล้ว วันนี้เชื่อมั่นในเงินตรา ศฤงคารทุกอย่าง พอเหมา เจ๋ง ตุงปกครองไป ปกครองไปซักพักหนึ่ง ในที่สุดแล้วมีการล้มเหลวหลายประการ และมีเมียของเหมา เจียน ชิง มาสร้างปฏิวัติ ทำวุ่นวาย จนในที่สุดเจียน ชิง , เหมา เจ๋อ ตุง ก็เลยกลายเป็นคนพ่ายแพ้ แต่ว่าสัญลักษณ์การเป็นผู้นำยังอยู่ เติ้ง เสี่ยวผิงก็ขึ้นมา ทีนี้พอเติ้ง เสี่ยวผิง ขึ้นมา เติ้ง เสี่ยวผิง เป็นคนใช้นโยบายว่า จะเป็นแมวดำ หรือ แมวขาว ขอให้จับหนูได้ไม่เป็นไร นั่นคือการที่เติ้ง ยอมเปิดประตูให้ทุนเข้ามาภายในประเทศจีน ว่าประเทศจีนถึงเป็นสังคมนิยม แต่ก็สามารถจะอิงทุนนิยมได้ เติ้ง เสี่ยวผิงคือคนซึ่งเปิดพื้นที่อย่างเช่น เซินเจิ้น เซินเจิ้นนี่เป็นไอเดียของ เติ้ง เสี่ยวผิงเลย คือจะพัฒนาจากกวางตุ้ง ทางใต้ ประเทศจีนทุกครั้งที่มีการปฏิวัติการเปลี่ยนแปลงประเทศ เกิดจากทางใต้ของจีนหมด ทางกวางตุ้ง การที่ล้มราชวงศ์ชิง แล้วเกิดระบบสาธารณรัฐเป็นครั้งแรก ล้มจักรพรรดิองค์สุดท้าย ล้มพระนางซูสีไทเฮา นั่นคือเกิดจากกวางตุ้งหมดเลย ดร.ซุนยัดเซ็น เป็นคนเริ่ม หรือที่เขาเรียกภาษาจีนกลางคือ ซุนจงซาน

ในที่สุดแล้ว เติ้งก็เปิด พอเติ้งเปิดเขาเรียกว่า ศูนย์เศรษฐกิจพิเศษ ตรงนี้เปิด ตรงนั้นเปิด ทุนก็เริ่มไหลเข้าไปหาจีน จีนก็เริ่มแก้กฎหมาย ให้โอกาสทุนได้เจริญเติบโตในประเทศจีน แต่ก็ยังจำกัดอยู่นะ จำกัดสิทธิเสรีภาพเหมือนเดิม และก็พวกทุนเล็กๆ น้อยๆ จีนก็ยังโตไม่ได้ ทุนที่เข้ามาร่วมกับต่างชาติคือ ทุนของประเทศ รัฐวิสาหกิจประกอบรถยนต์ ทำโรงงานไฟฟ้า แต่เป็นของรัฐบาลหมด เอาเงินเข้ามาทำเองบ้าง เรียนรู้บ้าง ร่วมทุนบ้าง พอยุคเติ้งจะหมดไป เติ้งก็วางตัวคนเอาไว้ 2 คน คนแรกคือ เจียงเจ๋อหมิน คนที่สองคือ หู จิ่นเทา ทำไมต้องวางเจียงเจ๋อหมิน เพราะว่าเติ้งกำลังมองว่า ประเทศจีนตอนนี้มันกำลังก้าวไปสู่ยุคเจียงเจ๋อหมิน และข้างๆ เจียงเจ๋อหมินในรูปคือ จูหรงจี นายกรัฐมนตรี เจียงเจ๋อหมินคือ ประธานาธิบดี เจียงเจ๋อหมิน เติ้งมองว่า ประเทศจีนเมื่อเริ่มกำลังโต กำลังจัดระบบ จำเป็นต้องเอาเทคโนแครต หรือเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า อำมาตยาธิปไตยได้เหมือนกัน เพราะเจียงเจ๋อหมินคือ อดีตผู้จัดการโรงงานใหญ่ รู้ระบบ รู้ว่าสายพานต้องวางอย่างนี้ คือเขามองประเทศจีนว่า ต้องจัดระบบเป็นแบบนี้ เจียงเจ๋อหมินก็เข้ามา

จูหรงจีก็เป็นคนซึ่งขยันขันแข็ง และเป็นคนซึ่งซื่อตรงมาก จูหรงจี เป็นนายกรัฐมนตรีที่ซื่อตรงที่สุด ซื่อสัตย์ที่สุด และเป็นคนขวานผ่าซากไม่กลัวใครทั้งสิ้น จูหรงจีก็มาจัดระบบกับเจียงเจ๋อหมิน เจียงเจ๋อหมิน เขาโตมาจากเซี่ยงไฮ้ เขาเรียกว่า เจียงเจ๋อหมินว่า แก๊งเซี่ยงไฮ้ เขาเรียกว่า ซั่งไห่ปัง ปังคือแก๊ง เพราะฉะนั้นเจียงเจ๋อหมิน จะมีพรรคพวก เจียงเจ๋อหมินก็เสวยอำนาจเป็นประธานาธิบดี ก็มี กรมการการเมืองคุมประเทศจีนหมด เติ้งเห็นว่า ต่อจากเจียงแล้ว พอหมดยุคเจียงต้องเป็นผู้นำอีกคนหนึ่ง ที่เข้าใจความยากลำบากประชาชน เจียงเจ๋อหมิน ไม่เข้าใจ เพราะว่าเจียงเจ๋อหมินมาจากเซี่ยงไฮ้ แต่ว่าเจียงเจ๋อหมินมีความเก่งในเรื่องการบริหาร ก็เลยให้เจียงเจ๋อหมินบริหารไป ระหว่างบริหารจะมีคนรวยเกิดขึ้นมา มีข้าราชการเกิดขึ้นมา คนจนจะถูกละเลย เพราะมันต้องเน้นพื้นที่ที่ต้องเจริญเติบโตก่อน ยังดีที่มีจูหรงจียังค้ำประกันอยู่ ที่ยังให้ความซื่อสัตย์ยังมีอยู่

แต่พอยุคเจียงเจ๋อหมินหมดไป หู จิ่นเทาขึ้นมา หู จิ่นเทา นี่เขาวางตัวเอาไว้เลยนะ เขาวางเลยนะ ถ้าหมดจากเจียงเจ๋อหมิน ต้องหู จิ่นเทาอย่างนี้เลย เพราะฉะนั้นหู จิ่นเทา เขามาจากมณฑลที่ยากจน เขามาจากมณฑลอันฮุย เขามาจากทิเบต หู จิ่นเทา เคยเป็นผู้ว่าทิเบต รู้จักชนกลุ่มน้อย หู จิ่นเทา ก็มีผู้บริหารคนหนึ่ง นายกรัฐมนตรีชื่อ เวิน เจียเป่า ซึ่งมาคู่กัน ในที่สุดก็บริหารจนกระทั่งจีนผ่านวิกฤตไป และจีนเริ่มเจริญเติบโต หู จิ่นเทาก็เข้ามาพยายามเบรกความร้อนของเศรษฐกิจจีนไม่ให้มันร้อนจนเกิดไป เพราะจีนมันเจริญเติบโตปีละ 12% เก๋ประเทศไหนมีโตปีละ 12% ทุกปีมันบ้าแล้ว ในที่สุดยุคหู จิ่นเทา เป็นยุคซึ่งจีนเป็นเครื่องจักรในการขับเคลื่อนเสรษฐกิจโลก อเมริกาเจ๊ง ยุโรปเจ๊ง แต่จีนไม่เจ๊ง และจีนก็แบกทั้งโลกไว้หมดเลย นั่นคือที่มาของว่า ทำไมจีนจึงเริ่มสะสมเงินตราต่างประเทศเข้ามาเยอะแยะมหาศาล

พอหมดยุคหู จิ่นเทา ก็มายุคสี จิ้นผิง สี จิ้นผิงไม่ได้เป็นคน และก็หลี เค่อ เฉียง สี จิ้นผิงไม่ได้เป็นคนเติ้ง เสี่ยวผิงวาง แต่สี จิ้นผิงเป็นคนที่กลุ่มอำนาจต่างๆ ในจีน ประนีประนอมกัน เพื่อเอาสี จิ้นผิงขึ้นมา และในการประนีประนอมนั้น ก็จำเป็นต้อง คนที่เคยเป็นกลุ่มหัวโบราณอนุรักษ์นิยม ต้องเสียสละดาราเข้าไปคนหนึ่งคือ ป๋อ ซีไหล เข้าใจหรือยัง ป๋อ ซีไหลคือ ฝ่ายอนุรักษ์นิยม ฝ่ายเหมา อยากให้เมืองจีนกลับไปเหมือนยุคเหมา แต่เนื่องจากประนีประนอม คล้ายๆ ว่าแลกม้ากัน Horse Trading มึงเอานี่มาให้กู กูเอานี่ให้มึง กูดันคนนี้ขึ้นมาเป็นคณะกรรมการการพรรค มึงสนับสนุนสี จิ้นผิง แต่มึงต้องให้กูจัดการกับ ป๋อ ซีไหล เพื่อไม่ให้เกิดเหตุการณ์นี้ขึ้นมา

ที่ผมต้องอธิบายเรื่องนี้ให้เข้าใจก็คือว่า จีนได้ผ่านการพัฒนาการมา 3 รุ่นแล้ว เติ้ง เสี่ยวผิง เจียงเจ๋อหมิน หู จิ้นเทา มารุ่นที่ 4 มันต่างกว่ารุ่นที่ 1 2 3 อย่างไร รุ่นที่ 1 คือรุ่นของ เติ้ง เสี่ยวผิง รุ่นที่ 1 เป็นรุ่นของพี่น้องกัน ตอนนั้นจีนเพิ่งเปิดประเทศ จีนยังยากจนอยู่ คนไทยเชื้อจีนยังต้องส่งเงินกลับไปให้คนจีน ญาติของตัวเองที่ประเทศ ตำบล หมู่บ้าน อำเภอ สุดแล้วแต่ยังต้องอย่างนั้นอยู่เหมือนเดิม เพราะฉะนั้นแล้วเมื่อจีนเริ่มโตขึ้น ความผูกพันมันก็ยังมี จีนในยุคแรกเป็นยุคของการที่ต้องการจะสร้างความแข็งแกร่งทางการทูตของตัวเอง เพราะจีนกำลังจะเข้าไปสู่ World Trade Organization จีนกำลังอยู่ในสหประชาชาติ แล้วจีนเพิ่งจะเตะไต้หวันออกจากสหประชาชาติได้แล้วตัวเองเข้าไป ฉะนั้นจีนต้องการเพื่อนหมด เมื่อจีนต้องการเพื่อนหมด โดยเฉพาะอย่างยิ่งลูกจีน หรือคนเชื้อสายจีนที่อยู่ในเมืองไทย หรือเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ จีนจะเอาใจเป็นพิเศษ สมัยก่อนจีนยังไม่มีสัมพันธ์ทางการทูตเพราะจีนปิดประเทศ จีนก็เลยตั้งสัมพันธการทูตระหว่างประชาชนกับประชาชน นั่นคือที่มาของเหล่าสมาคมทั้งหลาย เช่น สมาคมมิตรภาพไทย - จีน สมาคมนี้จริงๆแล้วก็คือกระทรวงการต่างประเทศที่ไม่เป็นทางการนั่นเอง ตัวนายกสมาคม โดยพื้นฐานก็คือรัฐมนตรีนั่นเอง แต่มันไม่ได้อยู่ใน Portfolio ที่ปรากฏอย่างเป็นทางการ มันก็จะมีตัวแทน เช่น คนนี้เป็นเลขาฯ คนนี้เป็นหัวหน้ากองเอเชีย คนนี้เป็นหัวหน้ากองยุโรป คนนี้เป็นหัวหน้ากองอเมริกา คนพวกนี้กองพวกนี้จะมีหน้าที่คอยติดต่อคนจีนโพ้นทะเลในประเทศต่างๆ ถ้าเป็นกองอเมริกาก็ Keep contact สายสัมพันธ์กับคนจีนที่อยู่ในอเมริกา ในซานฟรานซิสโก ในนิวยอร์ก ในซีแอตเทิล สร้างสายสัมพันธ์ไว้ ถ้าเป็นเซาท์ อีสท์ เอเชีย มีแม้กระทั่งโต๊ะไทย ก็ติดต่อคนจีนในประเทศไทย เพราะคนจีนในประเทศไทยสมัยก่อนที่เป็นสมาชิกพรรคคอมมิวนิสต์ก็เยอะ ก็ใช้สายสัมพันธ์ต่างๆอันนี้เชื่อมโยงกันไปนี่คือที่มาของมัน พอช่วงหลังนี้ จีนเริ่มเข้มแข็งขึ้นมา ทั่วโลกยอมรับ เศรษฐกิจจีนเริ่มแข็งขึ้นมา เงินจีนเริ่มเยอะ เทคโนโลยีจีนเริ่มพัฒนาก้าวกระโดด บทบาทของสมาคมพวกนี้ก็เริ่มหมดไป ไม่ต้องง้อแล้ว เขาแทบจะไม่ให้ความสำคัญตรงนี้เลย ก็กลายเป็นบทบาททางการทูตอย่างเป็นทางการ

ทีนี้จีนในยุคสี จิ้นผิง เป็นจีนรุ่นใหม่แล้ว รู้สึกอายุเพิ่งจะ 60 เกือบ 60 ถือว่าเป็นรุ่นน้องผม สมัยที่หู จิ่นเทา เรียนหนังสือ สมัยที่เจียง เจ๋อหมินเรียนหนังสือ ประเทศที่ตัวเองไปคือรัสเซีย พูดรัสเซียได้ แต่พอมารุ่นสี จิ้นผิง พวกผู้หลักผู้ใหญ่ที่เป็นระดับรองมาจากสี จิ้นผิง ถ้าไม่จบ MBA จากฮาร์เวิร์ด ก็ต้องมาจากโคลัมเบีย เมืองนอก ส่วนใหญ่จะรับการศึกษาจากตะวันตกหมด เพียงแต่มาทำงานรับใช้รัฐบาลที่มีระบบสังคมนิยมแต่วิธีคิด วิธีมอง ใช้หลักตะวันตกมอง แล้วจีนต้องทะเลาะกับอเมริกาตลอดเวลา เมื่อทะเลาะกับอเมริกาตลอดเวลา ก็เลยทำให้จีนเริ่มเคี่ยว ต้องเคี่ยวไว้ เพราะจีนไปดีลกับอเมริกา ดีลกับยุโรป เจอเคี่ยวไง จีนก็ต้องลับเขี้ยวตัวเอง เพราะธรรมดาโดยพื้นฐานการคนจีนเคี่ยวอยู่แล้ว จีนก็เลยลับเขี้ยวเล็บต่างๆ ตรงนี้เลยเกิดตรงที่ว่าจีนเหลือเงินเยอะ ตัวเองต้องใช้เงิน เดินเข้าไปสู่ปต่ละประเทศให้เขาเพื่อขอเฟเวอร์คืนมาเพื่อบรรลุวัตถุประสงค์ทางการทูตที่ตัวเองต้องการ และประเทศไทยเผอิญก็เป็นเหยื่อหรือเป็นประเทศหนึ่งซึ่งจีนกำลังจะใช้นโยบายทางการเงิน นดยบายทางการช่วยเหลือ ด้วยเหตุนี้ จีนก็เลยมักจะมา เรายินดีซื้อข้าวล้านตัน เรายินดีซื้อมันสำปะหลัง แต่ไม่มีการยินดีโดยไม่มีผลตอบแทน ถามว่าจีนเคยช่วยไทยไหม เคย สมัยเติ้ง เสี่ยวผิง สมัยที่เขมรแดง เวียดนาม กำลังจะส่งกองทัพรถถังบุกข้ามเขมรเข้ามาเพื่อมาทางชายฝั่งตะวันอกของไทย จันทบุรีพวกนี้ สระแก้ว เตรียมรุกประเทศไทยแล้วนะตอนนั้น ยุคนั้น แต่ปรากฏว่า คุณงามความดีของ พล.อ.ชวลิต ก็มีอยู่บ้างหลังจากที่ป้ำๆเป๋อๆไป ชวลิตไปเจอเติ้ง เสี่ยวผิง เลยประกาศให้จีน กองทัพจีนที่อยู่มณฑลกวางสี ที่อยู่ติดกับเวียดนามยิงปืนใหญ่รบกับเวียดนามตอนนั้น ก็เลยเกิดสงครามจีนกับเวียดนามที่กวางสีทำให้กองกำลังของเวียดนามที่กำลังรุกมาที่เขมรเพื่อมาทางไทยต้องถอยกลับไปหมด นั่นคือการช่วยครั้งที่ยิ่งใหญ่ที่สุด แต่หมดจากนั้นไปก็ไม่มีแล้ว

พอหมดคนโบราณเหมือนยุคผม ผมมีเพื่อนฝูง ผมมีลูกน้อง ถ้าผมตายไปแล้ว สายสัมพันธ์ตรงนี้กับลูกชายผมไม่มีแล้ว เขาก็ต้องมีสายสัมพันธ์ใหม่ สายสัมพันธ์ใหม่ของเขาก็เป็นคนรุ่นใหม่ที่เจรจากันด้วยผลประโยชน์ ไม่ได้เจรจากันด้วยน้ำใจ ไม่เหมือนสมัยนี้ ถ้าผมตายไปใครจะมาแทนผมเขาก็ต้องเจรจากับแอน แอนเจรจากับเขาหรือเก๋เจรจาเขาก็ไม่เหมือนเอ๋กับแอนคุยกับผม เอ๋กับแอนบอก อ้าว แล้วแต่นาย แบบไหนก็ได้ แต่กับคนใหม่เอ๋บอกไม่ได้นะ จะดูแลเก๋อย่างไร มันไม่เหมือนกันแล้ว ฉันใดฉันนั้น ด้วยเหตุนี้ ยุคตั้งแต่ปลายยุคหูจิ่นเทาเป็นต้นมา จนสู่ยุคสี จิ้นผิง จีนเปลี่ยนไปหมดละ จีนไม่มีการเพื่อพี่เพื่อน้องอีกต่อไป กลายเป็นว่าทุนจีนเริ่มรุกเข้ามาในประเทศทุกประทศเลยนะ มันเลยกล่ายเป็นคนซึ่งมีบทบาทอยู่ที่สมาคมมิตรภาพไทย-จีน รวมทั้งคนจีนที่พูดภาษาไทยได้ที่อยู่สมาคมเพื่อนจีนที่อยู่ในปักกิ่ง ซึ่งเป็นเหมือนกับกระทรวงการต่างประเทศอย่างไม่เป็นทางการ มันก็มาทำมาหากินกันละ ทำอย่างไรก็เอานักลงทุนจีนมาก็มาหลอกคนไทย ไอ้นี่ก้ไปหลอกคนจีน คือหลอกกันไปหลอกกันมา ผลประโยชน์ทั้งสิ้นเหมือนกับการตั้งโรงงานทำถ่านโค้กที่ระยอง ก็นำมาโดนคนจีนซึ่งเคยอยู่สมาคมที่ปักกิ่ง เอามาเจรจาตั้งโรงงานกัน ก็ทะเลาะเบาะแว้งฉิบหายไปเลยเพราะว่า ต่างฝ่ายต่างหลอกซึ่งกันและกัน เป็นลักษณะธุรกิจทุกวันนี้ ไม่เหมือนแต่ก่อน พอมาถึงขั้นนี้แล้วสิ่งที่จีนต้องการที่สุดประการแรกประเทศไทย เอื้อกับจันทุกเรื่องดดยเแพาะเรื่องนโยบายต่างประเทศ เพราะจีนถูกปิดล้อมผมยังจำได้ ทุกๆครั้ง ทุกปี อเมริกาจะใช้ปัญหาเรื่องสิทธิมนุษยชนโจมตีจีน มีคณะกรรมการอยู่ จีนจะมาล็อบบี้ตลอดว่างวดนี้อย่ายกมือให้อเมริกาได้ไหมถ้ายกเท่ากับประณามจีน ถ้าไม่ยกอเมริกาไม่มีเสียงหรือเสียงน้อยกว่าก็ไม่ออกมาเป็นมติที่ประณามได้ จีนวันนี้เลยห่วงอย่างแรก ทำอย่างไรไม่ให้อเมริกามาปิดล้อม 2คณะเดียวกันมีประชากร 1,300 ล้านคน ไม่ได้สบาย เพราะจีนเองธุรกิจเองก็เริ่มSlowdown ช้าลง เพราะจีดีพีจีนไม่โตเหมือนแต่ก่อน สมัยก่อนปีละ 12 เปอร์เซ็นต์ ตอนนี้ 6.5 เปอร์เซ็นต์ 7 เปอร์เซ็นต์หายไป การจ้างงานเขาน้อยลง แต่คนจีนเป็นคนมีเงินจากการไม่เคยใช้มาตลอด ชั้นปู่ย่าตายายก็เก็บเงินเอาไว้เยอะเพราะฉะนั้นคนจีน เนื่องจากประชากรเยอะ เก๋ทำอะไรธุรกิจในจีน ทำแล้วรวยทุกคน รวยหมด เฮงซวยก็รวย จีนเลยเริ่มออกนอกประเทศแล้ว ทุนจีนสามานย์ไม่ต่างจากอเมริกา เผลอๆสามานย์กว่า เพราะว่าทุนจีนไม่มีวัฒนธรรม ทุนอเมริกาอยู่ในโลกมานานแล้ว เจอปัญหาสิ่งแวดล้อมเจอเรื่องคนประท้วง เจอเรื่องค่าแรงงาน มันเจอเรื่องของการใช้แรงงานเด็ก มันก็เลยระวังหมดเลย แต่ทุนจีนไม่สนใจ แล้วคนจีนจะเป็นคนที่ลักษณะ ... นี่จีนแผ่นดินใหญ่นะ ไม่ใช่จีนในเมืองไทย แต่จีนในเมืองไทยบางคนก็เป็นอย่างนี้นะ มีสันดานเสียอย่าง ถ้ากูมีเงิน กูถือว่ากูมีสิทธิ คล้ายๆ ว่ากูมีเงินซะอย่าง กูจะทำอะไรก็ได้ นี่จะเป็นลักษณะ ไปเจอได้บ่อย ที่นักท่องเที่ยวที่ไปทางเชียงใหม่ คนจีนจะเป็นอย่างนี้จริงๆ กูถือว่ากูจ่ายแล้ว กูจะเอาอย่างนี้

จินดารัตน์ - บางโรงแรมไม่รับแล้วค่ะตอนนี้

สนธิ - ก็นี่ไง นี่กำลังเล่าให้ฟัง เพราะฉะนั้นลักษณะทุนจีนก็จะเหมือนกัน เคยมีคนเล่าให้ฟังว่า มีทุนจีนจากเซี่ยงไฮ้ หรือจากปักกิ่ง จะมาสร้างศูนย์รวมสินค้าจีนอยู่แถวๆ ปทุมธานี ใหญ่มโหฬารเลย เป็นร้อยไร่พันไร่ อาคารจะมี 5-6 อาคาร รวมสินค้าจีนทุกประเภท ถามว่าไอ้คนที่งี่เง่า คนไทยที่งี่เง่า บอกดี เอามาลงทุนในเมืองไทย มึงมาเมื่อไหร่คนไทยเจ๊งกันเป็นแถวเลยนะ

กมลพร - พวกสำเพ็งลุกออกมาต่อต้านตั้งเยอะเลยนะ

สนธิ - ก็นี่ไง กำลังยกตัวอย่างให้ฟัง แล้ววันนี้อินังตอแหลลงตับ อย่าให้เอ่ยชื่อว่าใคร "ดีใจจังว่าประเทศไทยกับประเทศจีนจะไม่ต้องใช้วีซ่าแล้ว" ฉิบหายสิ ไม่ฉิบหายได้ยังไง ขนาดที่มันต้องขอวีซ่ามา แล้วเข้ามาเมืองมา แล้วมีระยะเวลาที่ต้องอยู่ตายตัวนี่นะ แอนไปดูแถวรัชดาสิ เมืองจีนทั้งนั้น คนจีนอยู่ที่นั่น ไม่ยอมไปไหน วีซ่าหมดอายุแล้วก็ยังอยู่ที่นั่น ร้านมันเดี๋ยวนี้ต้องติดภาษาจีนหมด มีร้านอาหารจีน มีคอนโดฯ พวกจีนทั้งนั้น จีนเอาทุนมาซื้อคอนโดฯ ทิ้งไว้สักพักหนึ่ง ย่านรัชดาทั้งหมดจะเป็นย่านเมืองจีนหมดเลย เสฉวน มณฑลเดียว ประชากรเท่าไร แอนรู้มั้ย 120 ล้านคน มณฑลเดียว

จินดารัตน์ - เยอะกว่าเราอีก

สนธิ - 10 เปอร์เซ็นต์ของมัน 12 ล้านคน ถ้าไม่ต้องใช้วีซ่า แล้วมาทำมาหากินในประเทศไทย ประเทศไทยตายมั้ย

จินดารัตน์ - เหลือแต่กระดูกแล้วค่ะ

สนธิ - เหลือแต่กระดูก แล้วเงินเราก็ไม่มากเท่าเขา แล้วทุนจีนที่มันเป็นทุน ทุนใหญ่จริงๆ ไอ้พวกนี้พอมันมาสร้างปั๊บ มันจะสร้างใหญ่จริงๆ เลย เพราะในเมืองจีนไม่เห็นเหรอ มันสร้างอะไรมันต้องสร้างใหญ่ไว้ก่อน แล้วมันมีเงินใหญ่ แล้วมันก็จะมีนักธุรกิจที่งกเงิน เห็นแก่เงิน ที่เอาทุนจีนเข้ามา แล้วก็มากระทืบคนไทย ผมถึงบอกว่าตอนนี้ประเทศไทยกำลังอยู่ในสภาวะที่ลำบาก ลักษณะจีนแบบนี้คือลักษณะจักรวรรดินิยมทางเศรษฐกิจ ไม่ได้ต่างจากอเมริกาเลย เลวกว่าเสียด้วยซ้ำ เพราะว่าทุนจีนไม่มีวัฒนธรรม ไม่รู้จักผิดชอบชั่วดี เข้าใจหรือยังแอน แอนพอเห็นภาพหรือยัง ผมเล่าให้แอนฟังเนี่ย เอาแค่นักท่องเที่ยวแอนก็ดูออกแล้วไม่ใช่เหรอ ถูกมั้ย เอาแค่นักท่องเที่ยวเราก็ดูออกแล้ว แบงก์จีน ที่ใหญ่ที่สุดในโลก ไอซีบีซี มันก็มาตั้งสาขาในประเทศไทยแล้ว มันเริ่มปล่อยเงินกู้ให้คนจีนด้วยกันแล้ว แล้วยังมีทางเหนืออีก เชียงราย เชียงของ เชียงแสน ทางยูนนาน ทางตะวันตก คือจีนทางตะวันตก ตรงนี้ นี่คือคุนหมิง ด้านนี้คือด้านตะวันตกของจีนที่กำลังพัฒนา ตะวันออกของจีน ปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ กวางโจว พวกนี้มันเจริญแล้ว ค่าแรงมันแพงแล้ว อุตสาหกรรมต่างๆ มันร่นเข้ามาข้างในแล้ว อีกหน่อยพอรถไฟความเร็วสูงมันเสร็จ มันมาเชื่อมกับรถไฟรางคู่ ถ้ารถไฟความเร็วสูงมันวิ่งทะลุได้ อีกหน่อยรถไฟรางคู่มันก็จะวิ่งทะลุมาทางทุกประเทศได้เหมือนกัน สินค้าจีนที่อยู่ตรงนี้ก็จะออกมาทางนี้ได้ แล้วไปพม่า ไปพม่าแล้วก็ต่อบังกลาเทศ และอินเดียไปเลย นี่คือทางจีนไป ทางนี้จีนก็ลงมานี่ ลงมาเรื่อย กวางโจว มาถึงตรงฮานอย ฮานอยลงมา ตัดตรงนี้ ผ่านเข้ามาลาว ลาว-ไทย ไทยปั๊บ ลงมาที่มาเลเซีย มาเลเซีย มาสิงคโปร์ เพราะฉะนั้นเส้นทางมันจะเป็นอย่างนี้ นี่ขึ้นไปรัสเซีย เข้าใจหรือยัง เพราะฉะนั้นจีนก็เตรียมตัวที่จะ ... นี่ก็ตำหนิเขาไม่ได้ เพราะเขาต้องเอาประเทศเขารอดก่อน คำถามคือว่า แล้วประเทศไทย จะเอาประเทศเรารอดหรือเปล่า แล้วควรจะทำอย่างไรบ้าง ผมคิดว่าเราพักก่อนมั้ย แล้วเบรกสุดท้ายถึงจะมาบอกว่า solution ของเรา ระหว่างเรา ไทย กับจีน และอเมริกา เราควรจะวางตัวยังไง

จินดารัตน์ - ค่ะ เพราะทุกวันนี้ ถ้าไปดูคนที่อยู่ในแวดวงไอที ไม่ว่าจะเป็นที่ตึกรัชดาบ้าง พันธ์ทิพย์บ้าง เขาบอกร้านมีแต่ของคนจีน พูดไทยเริ่มเก่งแล้วนะคะ เขาบอกว่าพ่อแม่เขาส่งมาเปิดร้านที่นี่ แล้วตอนนี้ร้านคนไทยเหลือน้อย แล้วสู้เขาไม่ได้ เพราะเขาขายถูก

สนธิ - มันไม่ขายถูกได้ยังไง ก็ในเมื่อมันมาจากเสิ่นเจิ้น มันมาจากศูนย์อุตสาหกรรมที่ผลิตสินค้าไอที และเขาเป็นคนจีน เขารู้ข้าวของ เขารู้เขาก็สั่งเข้ามา เผลอๆ พวกร้านใหญ่ๆ ที่ในเสิ่นเจิ้นมันก็มาตั้งสาขาที่นี่

กมลพร - เดี๋ยวเราพักกันก่อนสักครู่จะได้รู้ว่าจะรับมือยังไง แต่ตอนนี้ที่เราต้องรับมืออยู่คือ เสื้อ "แล้ว-ยัง-งัย?" ที่เราจะต้องรับมือให้ได้แน่ๆ เนื่องจากว่าเราบอกเบอร์ไปแล้วหลายเบอร์ ก็รับไม่ไหวนะคะ เอาไปอีกเบอร์ก็แล้วกันค่ะ 083-0081212 พยายามโทรกันนิดหนึ่งนะคะ เพราะทุกเบอร์ที่เราให้ไปก่อนหน้านี้สายไหม้

จินดารัตน์ - ตกลงมีสองสีนะคะ พื้นขาวตัวหนังสือดำ และพื้นดำตัวหนังสือขาว มีแค่สองสีเท่านั้น ราคา 200 บาท ถ้าคุณผู้ชมบริจาคให้มูลนิธิยามฯ รับเสื้อไปเลย 1 ตัว

สนธิ - 250 ไม่ใช่เหรอ

จินดารัตน์ - 200 ค่ะ ถ้าไซส์ใหญ่ XXL 250

สนธิ - ก็บอกเขาหน่อยสิ XXL 250

กมลพร - จองไซส์ S สองตัว บอกผ่านรายการเลย

จินดารัตน์ - พักกันก่อน ช่วงหน้าค่ะ

ช่วงที่ 3

กมลพร - กลับมาอีกช่วงหนึ่งนะคะ ช่วงสุดท้ายสำหรับคุยทุกเรื่องกับสนธิ

จินดารัตน์ - ทางออกของประเทศจากทุนใหญ่

สนธิ - ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุด ขอประทานโทษเก๋ กับแอน แล้วก็ท่านผู้ชมที่ต้องใช้ภาษาลูกพ่อขุน เราต้องไม่ทำตัวเป็นดอกทอง เราต้องรู้ว่าคุณค่าของเราอยู่ที่ไหน เหมือนอย่างที่ผมบอก คุณค่าของเราถ้ามองในแง่ภูมิรัฐศาสตร์ เราสำคัญที่สุดในอาเซียน สำคัญที่สุด ถ้ามองให้ดีๆ พอพ้นจากเราไปก็คือจุดเชื่อมต่ออินเดีย พม่า จีนถ้าลงมาทางพม่า เข้าอินเดีย กับระหว่างที่อินเดียเข้ามาไทย แล้วไทยไปอินเดีย อินเดียจะชอบไทยมากกว่า ไทยจะชอบอินเดียมากกว่า ในขณะนี้กุญแจสำคัญที่สุดของประเทศไทย คือว่าทำอย่างไรที่เราต้องรักษาอัตลักษณ์ของเราให้ได้ เราต้องรู้จักการเจรจา ผลประโยชน์ของประเทศชาติส่วนใหญ่ ต้องมาก่อน อย่าไปคิดว่าเขามีเงิน เอาเงินเขามาลงทุน เขาไม่มาด้วยตัวเขา เขามาด้วยคน วิธีหนึ่งที่จีนจัดการกับพื้นที่ที่เป็นชนกลุ่มน้อยเขาแล้วมีปัญหาอย่างเช่นทิเบตหรือซินเจียง เขาใช้ประชาชนชาวจีนชาวฮั่นบุกเข้าไปตั้งรกรากที่นั่น เหมืองหลวงชื่ออุรุมชี.คนซินเจียงซึ่งเป็นชาวมุสลิม จากสมัยก่อยมีอยู่ 80 % วันนี้เหลือ 46 % คนจีนจากสมัยก่อนมี 5 % วันนี้ 34 % โดนกลืนหมด ผมถึงบอกว่า ถ้าเราไม่ะวังให้ดี ทุนใหญ่จีนจะมาครอบงำทุนประเทศไทย แล้วเรามีพวกสายล่อฟ้าเชื่อมทุนใหญ่จีนเยอะแยะไปหมดเลย ซีพีก็ตัวหนึ่ง จีนบริษัทยักษ์ใหญ่จีน เช่น บริษัทไห่เอ๋อ ผลิตเครื่อซักผ้า ตู้เย็น โทรทัศน์ ดูเหมือนอันดับใหญ่ที่สุดในโลกนะ มันเริ่มมาตั้งในเมืองไทยแล้ว ญี่ปุ่นพานาโซนิกโดนตีกระจุยหมด ฉะนั้นเราต้องระวังให้ดี รัฐบาลต้องมีนโยบายที่ชัดเจน

อันแรกสุด ต้องไม่ฟรีวีซ่า อันที่ 2 คนจีนคนไหนที่อยู่เกินกำหนดที่ตรวจคนเข้าเมืองให้ต้องออกจากประเทศไทยให้หมด อันที่ 3 ต้องไม่ให้เกิดชุมชนจีนเบ้อเร้อเลย เพราะนั่นคือที่สั่งสมของความชั่วร้าย เพราะคนจีนบทอีบันเทิงอีบันเทิงฉิบหายเลยนะ ทั้งคาราโอเกะ ผับ บาร์ แล้วตำรวจไทยต้องหยุดรับเงินจากพวกมาเฟียจีน ตอนนี้มาเฟียจีนเริ่มมีมาแล้ว มาพร้อมกันหมดทุกอย่าง แล้วเดีค๋ยวนี้กะหรี่ ผู้หญิงหากินจีนแถวรัชดาเต็มไปหมดเลย ผมถามหน่อยสิว่า ถ้าเราดำเนินนโยบายเขาไม่เป็นไม่ระวังตัวเรา เหมือนกับรถไฟความเร็วสูง ถ้าจีนจำเป็นต้องมี บีบไทยนัก เราไม่ต้องสร้างเอง เราต้องเจรจาเป็น เราก็บอกเอาไปเลยสัญญาสัมปทาน 30 ปี คุณลงทุนเอง ซื้อหัวจักรเอง บริหารเอง แต่มีเงื่อนไข 15 ปีแรก คุณบริหาร 15 ปี 2 คุณต้องเอาคนของเราเข้าไปครึ่งหนึ่ง พอครบ 30 ปี เราเทคโอเวอร์ต่อ 30 ปี ที่สำคัญเราต้องเลิกทำตัวเป็นขอทาน ไม่ใช่ว่าพอเขามาแล้วต้องให้เขาซื้อข้าวเรา ไม่เอา ไม่ต้องพินอบพิเทา เราต้องให้เขาเคารพเรา ให้เขารู้ว่าเราไม่ใช่เซียมตือ หมูสยาม เราต้องไม่ใช่หมูสยามให้เขามาจับทำหมูพะโล้ สามชั้น หมูกรอบ เราต้องให้เขาเคารพเรา เราไม่ต้องก้าวร้าวเขา เราต้องรู้ เราต้องคบกับอเมริกา ในขณะเดียวกันเราต้องรักษาระยะห่างระหว่างอเมริกาเอาไว้เพื่อไม่ให้เขาเข้าใจผิดว่าเราเข้าข้างอเมริกา ในกรณีของทะเลจีนตอนใต้แก้ปัญหาได้ง่ายนิดเดียว เราต้องเป็นหัวหอกในการบอกกับกลุ่มประเทศอาเซียน ว่าประเทศไทยมีจุดยืนด้านทะเลจีนใต้ต่อไปนี้ 1. เรื่องนี้เป็นเรื่องระหว่างมหาอำนาจระหว่างจีนกับอเมริกา เพราะฉะนั้นสมควรจะให้จีนและอเมริกาคุยกันเอง เราอย่าไปเสือก เพราะว่าจีนต้องการที่จะให้เราเข้าไปรับรองจีน แต่ละประเทศ อเมริกาต้องการอาเซียนทั้งหมดต่อต้านจีน บอกว่า ทะเลจีนตอนใต้เป็นของนานาชาติ ใครก็ได้ มีสิทธิ์ เราต้องบอกว่า เรื่องนี้มึงทะเลาะกันเองได้ไหม อย่าเอากูเข้าไปยุ่ง มึงตัวใหญ่เหลือเกิน เรามันตัวเล็กๆ จีดีพีเราก็น้อยกว่าคุณเราก็ต้องบอกเขา ตรงนี้จะสวยที่สุด จีนก็ไม่เกลียดเรา ไม่ขัดข้อเรา ที่สำคัญที่สุด เราต้องให้จีนรู้เหมือนกันว่า เราไม่ใช่ยอมเขา การที่จะให้เขารู้ว่าเราไม่ยอมเขา สิ่งแรกที่ต้องเริ่มทำคือต้องหยุดทำตัวเป็นขอทาน เพราะเวลาผู้นำจีนมาเมืองไทยเขาจะรู้ทันทีเลย เดี๋ยวแม่งลูกอีช่างขอ โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลชุดนี้แม่งขอฉิบหายเลย ถ้าวันหลังผู้นำจีนเข้ามาเมืองไทย เขามาแล้วเราไม่ขอ มันจะช็อกเอานะ ตกใจเลยนะ เกิดอะไรขึ้นทำไมคนไทยไม่ขอ กลับไปสู่จุดเดิม กลับไปสู่ธรรมของพระพุทธเจ้า อัตตาหิ อัตตโนนาโถ อยู่ด้วยตัวเอง แล้วกลับมาสู่ธรรมของพระเจ้าอยู่หัวฯ มีแค่ไหนใช้แค่นั้น แล้วเราจะอยู่รอด ลักษณะการรุกของจีนอย่างนี้ก็รุกได้ไม่นาน เพราะเขาก็มีปัญหา เขาจะเลี้ยงคน 1,300 ล้านคนให้เท่าเทียมกันได้อย่างไรทั่วประเทศ จีนยังไม่สามารถสร้างความเท่าเทียมได้เลย แล้วเสกสรรค์จะให้ประเทศไทยเท่าเทียมกันได้อย่างไร 65 ล้านคน

จินดารัตน์ - แต่ด้วยสิ่งที่คุณสนธิพูดนะคะ มันเป็นวิธีป้องกัน และแก้ปัญหาได้ แต่ด้วยสติปัญญาของผู้นำประเทศ และสันดานของนักการเมืองมันจะพาเรา....

สนธิ - ถึงบอกว่า ต้องเริ่มด้วยการไม่ดอกทองก่อน ให้หยุดดอกทอง อีกประการ ประชาชนคนไทยต้องส่งเสียงให้คนจีนรู้ ต้องถาม ต้องถามประเทศจีนว่า ทำไมประเทศจีนถึงให้ นช.ทักษิณ ไปพำนัก แล้วใช้ประเทศจีนเป็นฐานในการปฏิบัติการมาล้มล้างประเทศไทย

จินดารัตน์ - แล้วไปต่อรอง

สนธิ - คนไทยต้องส่งเสียงให้ดังกว่านี้ อาจจะต้องรวมตัวกันทำจดหมายเซ็นกันเป็นหมื่นๆ แสนๆ คนเลย และส่งไปให้สถานทูตจีน ส่งไปให้ผู้นำจีนรับทราบ เข้าใจหรือยัง นั่นคือวิธีการส่วนหนึ่งที่ต้องทำ แต่ที่สำคัญที่สุดคนไทยจะต้องแสดงสิทธิของตัวเองออกมา เดี๋ยวนี้คนไทยทำมาหากินยิ่งยาก ไปดูแถวคลองถมที่วางขายริมถนน เดี๋ยวนี้คนจีนบุกเข้ามาถึงขนาดเรียกว่า แบกับดินขายแล้วนะ

จินดารัตน์ - มีความเห็นหนึ่งนะคะ จากแฟนรายการเรา เขาบอกว่า ตอนนี้ที่เสือป่ามีแต่พ่อค้าคนจีน พ่อค้าไทยตายเกลี้ยง เขาบอก คือน่ากลัวมาก แต่กว่าจะถึงวันนั้นที่คนไทยรู้สึกเดือดร้อนจากการรุกล้ำเข้ามา

สนธิ - สิ่งแรกสุดเลยจะต้องหยุดให้ได้คือ ฟรีวีซ่า ต้องหยุด

จินดารัตน์ - ดูเป็นเรื่องภูมิอกภูมิใจของรัฐบาลชุดนี้มากนะคะ

สนธิ - ไม่ได้เลย นั่นคือเปิดประตูให้ซาตานเข้าเลยงานนี้

จินดารัตน์ - ความฉิบหายจะมาเยือน

สนธิ - ความฉิบหายมาเยือนแน่นอน แล้วคนที่ฉิบหายคือใครรู้ไหม พวกเสื้อแดง

กมลพร - ชนชั้นกลางใหม่

สนธิ - ชนชั้นกลางใหม่จะฉิบหาย

กมลพร - ชนชั้นล่างในเมืองไง

สนธิ - ไม่ได้แอน เรื่องที่ 2 ที่จะต้องทำให้ได้เลยคือว่า พลังงานของบ้านเราเป็นสิ่งที่จีนต้องการ เราต้องรู้จักการต่อรองเจรจา จริงๆ แล้วยุคนี้ไม่ได้ต่างกับสมัยรัชกาลที่ 5 เลยแม้แต่นิดเดียว ให้จำเอาไว้ ต่างกันแต่ว่า สมัยโน้นมันใช้เรือปืนเข้ามา สมัยนี้มันใช้อำนาจทางเศรษฐกิจเข้ามา ถ้าเรารู้จักพอเพียง ไม่มีอะไรมายั่วยวนเราได้ เข้าใจหรือยัง เหตุผลที่เราไม่รู้จักพอเพียงเลยทำให้เรามีความโลภ มีกิเลส เราเลยขอโน่นขอนี่ขอนั่น ใช่ไหม เราจัดระเบียบพืชผลทางการเกษตรเราให้ดี เราเปลี่ยนประเทศเราให้เป็นประเทศออร์แกนิกส์ เข้าใจหรือยัง แล้วจะทำให้มูลค่าสินค้าเราเพิ่มขึ้น มูลค่าสินค้าทางเกษตรเพิ่มขึ้น เราต้องอย่าให้ที่นาของเรา พื้นที่การเกษตรตกไปอยู่ในมือของต่างชาติ ไม่เหมือนกับที่ทักษิณ และบรรหารร่วมมือกัน ให้พวกแขกตะวันออกกลางมาซื้อที่นาแถวสุพรรณ แล้วไปรับประกันเขาว่า น้ำไม่ท่วม นี่คือเหตุผลว่าน้ำไม่ท่วมสุพรรณฯ แต่ไปท่วมที่อื่นแทน สรุปคือว่าเราต้องหัดให้คนไทยรักชาติมากกว่านี้ ซึ่งเป็นเรื่องที่ยากฉิบหาย แต่ต้องพยายามทำ เก๋ แอน รู้ไหม ผมไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตัวผม ผมมีชีวิตอยู่เพื่อพวกคุณ เพื่อพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เพื่อพวกคุณ ผมมีชีวิตอยู่อย่างไร ผมต้องทำมาหากินสู้ทุกเม็ด หยาดเหงื่อทุกหยด เพื่อเอเอสทีวีอยู่ได้ ให้คุณอยู่ได้ อย่างมีศักดิ์ศรี ถ้าผมทรยศ ผมรับเงินทักษิณ ผมจะได้เงินมาซื้อความสุข ซึ่งเป็นของจอมปลอม แต่สิ่งที่ผมทำลายคือชีวิตพวกคุณ เพราะคุณจะประสบความข่มขื่นในชีวิต เพราะคุณเจอใครก็ไม่ได้เขาบอกไงล่ะ นายเธอทรยศแล้วเห็นไหม เพราะงั้นแอนจะใช้ชีวิตส่วนที่เหลืออย่างขมขื่นที่สุด เก๋เช่นกัน ผมจะยอมให้เรื่องนี้เกิดขึ้นกับคุณไม่ได้ ผมต้องให้คุณอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี ถึงผมลำบากแค่ไหน ทรมานอย่างไรก็ต้องอดทน เพราะงั้นชีวิตวันนี้ผมไม่ได้อยู่เพื่อตัวเองใช่ไหม จะว่าผมเห็นแก่ตัวอย่างไร ทำไมคุณสนธิไม่ออก สิ่งที่ผมทำสิ่งใหญ่กว่าการออกเยอะ แล้วทำไมผมถึงพูดตลอดเวลา ถ้าศาลฎีกาพิพากษาว่าผมต้องติดคุก ทำไมผมยอม เพราะผมจะทนไม่ได้กับการให้พันธมิตรฯ หรือคุณเองที่บอกว่าคุณสนธิสู้เพื่อหลักนิติรัฐ แล้วคุณโดนคนอื่นเขาตบหน้า พูดจากใจวันนี้เพราะไม่อยากพูดเรื่องนี้ คนอื่นเขาว่าผมสบาย มันไม่รู้ ผมแบกภาระหนักขนาดไหน เพราะคำว่าผมไม่ได้มีชีวิตอยู่เพื่อตัวผมเอง คำอธิบายมันกว้างใหญ่ไพศาลเหลือเกิน ผมมีชีวิตอยู่อย่างขมขื่น ผมต้องระวังการลอบสังหาร ผมต้องนั่งคิดกับ อ.ปานเทพ ต้องช่วยกันขายของ เพื่อให้พวกเราอยู่อย่างมีศักดิ์ศรี เพื่อให้ลูกผมทำงานต่อไปได้ เพื่อให้เอเอสทีวีมันเป็นหลักการ เป็นอุดมการณ์ เป็นปรัชญาของสังคมไทย คนที่ทำที่นี่ก็ภูมิใจ คนที่สนับสนุนพวกเราก็ภูมิใจ พันธมิตรฯ ที่เชื่อและศรัทธาพวกเราก็ภูมิใจ และเขารู้ ว่าเราไม่ใช่เหมือนเจ้าอื่น กลุ่มอื่น ที่วันนี้เป็นอย่างนี้ พรุ่งนี้เป็นอย่างนั้น มะรืนเป็นอย่างนี้ ของเราๆ บอกเราเส้นตรง เราตรงนี้ไปที่เป้าหมายนี้ เราไม่เคยเดินเป๋ เราไม่เคยเดินตกถนน แต่คนซึ่งนำทาง และปูถนนไปเรื่อยๆ จะต้องเป็นคนที่เจ็บปวดที่สุด แล้วต้องทนเจ็บปวด นี่คือความในใจของผม ผมก็หวังว่า เราจะเอาความเจ็บปวดของผม รวมทั้งพันธมิตรฯ ทุกคน เอาสิ่งที่ผมทำ เป็นพลานุภาพ เป็นพลัง ที่สร้างให้ตัวเองเข้มแข็ง จิตใจเข้มแข็ง ภูมิใจ ดีใจ และเต็มใจ และสบายใจ ที่จะได้ทำงานที่ตัวเองคิดว่าเมื่อทำแล้ว มองหน้ามองตาได้ทุกคนในวงการ ไม่ต้องหลบตาเขา เล่าเรื่องราวต่างๆ ของเราให้ลูกหลานเราฟังอย่างภูมิอกภูมิใจแล้วก็มีความสุข จบข่าว นั่นล่ะคือสิ่งที่ผมอยากจะพูด

จินดารัตน์ - เป็นสื่อชั่วๆ ง่ายนะคะ

สนธิ - เขาบอกตลอดเวลาว่า สนธิทำหนังสือพิมพ์ ทำสื่อมวลชน เจ๊งทุกราย คือถ้ากูจะทำชั่วแบบมึง กูทำเก่งกว่ามึงอีก แล้วกูจะรวยกว่ามึงด้วย แต่ถ้าผมทำอย่างนั้นแล้ว ผมเอาจินดารัตน์ทิ้งไว้ที่ไหน ผมเอาเติมศักดิ์ทิ้งไว้ที่ไหน ผมเอาปานเทพทิ้งไว้ที่ไหน ผมเอาชัชวาลย์ทิ้งไว้ที่ไหน ผมเอานุกทิ้งไว้ที่ไหน ผมเอาลูกชายผมทิ้งไว้ที่ไหน ผมจะเห็นแก่ตัวอย่างนั้นไม่ได้ เพราะเมื่อเกิดมาแล้ว สิ่งศักดิ์สิทธิ์สั่งให้ผมต้องมาแบกภาระอย่างนี้ ผมก็ต้องทำไป ทำไปจนสุดๆ ไม่ตัดพ้อต่อว่า ไม่บ่น ไม่ถอย เดินหน้าอย่างเดียว ไอ้พวกนี้มันชอบเยาะเย้ย ดูสิหนังสือพิมพ์ผมกำไร ขนาดนั้น มึงจะไม่กำไรได้ยังไงล่ะ วันๆ มึงเลียไข่เขาอย่างเดียว แล้วมึงเอาเรื่องน้ำเน่า มาประโลมโลก มาหลอกลวงเขา ให้เขาซื้อหนังสือพิมพ์มึง แล้วมึงก็เลียไข่เขา เพียงเขาให้เงินมึง มึงก็ทำทุกอย่าง ภูมิใจนักเหรอ ถ้าเป็นนักข่าวช่อง 3 ที่เจ้านายหนีคุก ภูมิใจนักเหรอ ใช่ไหม ยกตัวอย่างให้ฟังง่ายๆ

จินดารัตน์ - แอนว่า คนดูเอเอสทีวีเขาภูมิใจกับเรา และแอนว่าเขาภูมิใจในความเป็นพันธมิตรฯ

สนธิ - โธ่แอน น้ำมันมะพร้าวขวดหนึ่งกำไร 50 บาท

จินดารัตน์ - ถึงเหรอคะ

สนธิ - 40-50 เดือนหนึ่งก็ขายตั้งแสนขวดกว่าจะได้ 4 ล้านบาท เอามาสะสมเป็นการจ่ายเงินเดือนพนักงานใช่ไหม แล้วเผอิญเป็นของดีด้วย แล้วชอบนะ ไอ้คนกระแนะกระแหนเรา กลับไปขายน้ำด่างเถอะ กลับไปกินน้ำมันมะพร้าวเถอะ

จินดารัตน์ - อย่าว่าพูดอย่างนี้เลยนะคะ มึงก็ขายเหมือนกูแหละ

สนธิ - วันนี้ได้ความรู้เต็มที่ สมบูรณ์แบบ

จินดารัตน์ - สร้างความกลัวอีกเรื่องหนึ่งให้คนไทย และสร้างความตื่นรู้ให้พันธมิตรฯ นะคะ เรารู้ก่อนเราต้องระมัดระวังตัวกันก่อน

สนธิ - ต้องระมัดระวัง ถึงผมจะเป็นลูกจีนก็ตาม แต่ผมเป็นลูกจีนที่รักชาติไทย จริงๆ ผมเกิดเมืองไทย พ่อผมก็เกิดเมืองไทย แต่เผอิญปู่เป็นคนจีน

จินดารัตน์ - จริงที่นั่งกันอยู่ก็มีเชื้อสายจีน

สนธิ - มีหมดแหละ

จินดารัตน์ - ถ้าพูดต่อนี่จบรายการไม่ได้ งั้นลาไปเท่านี้ วันนี้ขอบคุณนะคะ สำหรับการติดตามชม ขอบคุณสำหรับบอกว่าไงนะ

กมลพร - ขอบคุณสำหรับกำลังใจ ความภูมิใจ แรงใจ การสนับสนุนทุกอย่าง 50 บาท แล้ว-ยัง-งัย ? ได้ 50 บาท แล้วก็เงินบริสุทธิ์ไม่ใช่เหรอ เอาล่ะค่ะ วันนี้หมดเวลาของคุยทุกเรื่องกับสนธิแล้วนะคะ ขอบคุณคุณสนธินะคะ งั้นเราลากันไปเลย สวัสดีค่ะ/ครับ


กำลังโหลดความคิดเห็น