ยิงแม่ค้าขายพวงมาลัยเมืองอ่างทองดับ

อ่างทอง - สุดโหด คนร้ายควงลูกซองบุกยิงแม่ค้าขายพวงมาลัยวัย 54 ปี เสียชีวิตคาหน้าบ้าน ลูกเชื่อปมขัดแย้งเรื่องเงิน ตำรวจเรียกผู้ต้องสงสัยสอบเครียด

เมื่อเวลา 06.00 น. วันนี้ (7 ต.ค.) ร.ต.ท.สัญญากร ภาชนะพูล ร้อยเวร สภ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง ได้รับแจ้งเกิดเหตุคนร้ายใช้อาวุธปืนยิงแม่ค้าขายพวงมาลัยได้รับบาดเจ็บที่บริเวณบ้านเลขที่ 115/3 หมู่ 4 ต.ไผ่จำศีล อ.วิเศษชัยชาญ จ.อ่างทอง จึงพร้อมด้วย พ.ต.อ.คณธัช ชูตระกูล ผกก.สภ.วิเศษชัยชาญ พ.ต.ท.อำนาจ จอมประเสริฐ สว.สส.สภ.วิเศษชัยชาญ พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจสายสืบ สภ.วิเศษชัยชาญ และเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานจังหวัดอ่างทอง เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ

ที่เกิดเหตุบริเวณบริเวณทาวน์เฮาส์เลขที่ 115/3 หมู่ 4 ต.ไผ่จำศีล มีรอยเลือดไหลเป็นทางอยู่ข้างถุงพวงมาลัยบริเวณริมรั้วหน้าบ้าน ด้านผู้บาดเจ็บมีพลเมืองดีนำส่งโรงพยาบาลวิเศษชัยชาญและเสียชีวิตในเวลาต่อมา ทราบชื่อคือ นางประยูร โกนามา อายุ 54 ปี โดนคนร้ายได้ใช้อาวุธปืนลูกซองเบอร์ 12 ยิงใต้ราวนมซ้ายตัดขั้วหัวใจทะลุหลัง 4 รู

จากการสอบสวนเบื้องต้น นางวิไลพร ขันงาม อายุ 35 ปี ลูกสะใภ้ให้การว่า นางประยูร เป็นแม่ค้าขายพวงมาลัยอยู่ที่บริเวณสี่แยกไฟแดงเลี่ยงเมืองจังหวัดอ่างทอง จะออกจากบ้านในตอนเช้าของทุกวัน และเมื่อเช้าที่ผ่านมา ตนได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัดบริเวณหน้าบ้านจึงลุกจากห้องออกมาดูพบว่า นางประยูร ถูกยิงเข้าที่บริเวณหน้าอกทะลุหลังนอนร้องครวญครางอยู่บริเวณหน้าบ้านโดยมีเพื่อนบ้านได้พาส่งโรงพยาบาล และเสียชีวิตในเวลาต่อมา

ทั้งนี้ เมื่อ 2 วันก่อน นางประยูร ได้มีปัญหาทะเลาะกับนายศุภชัย วงษ์แสงทอง อายุ 46 ปี เพื่อนบ้านเรื่องเงิน 40,000 บาท ที่นางประยูร ได้ซื้อบ้านต่อ และผ่อนส่งธนาคารไปแล้ว จำนวน 40,000 บาท แต่ไม่สามารถเปลี่ยนชื่อในทะเบียนบ้านเป็นของนางประยูร ได้ จึงมีปากเสียงกับนายศุภชัย คนที่ขายบ้านพร้อมทวงเงินคืน โดยนายศุภชัย ได้คืนมาให้ จำนวน 15,000 บาท ทำให้นางประยูร ไม่พอใจอยากจะได้ครบจำนวนที่จ่ายธนาคารไปจึงทำให้เกิดมีปากเสียงกันอย่างรุนแรง และเมื่อเช้าที่ผ่านมาก็ถูกยิงเสียชีวิต โดยยังไม่สามารถจับคนร้ายได้

ด้านเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.วิเศษชัยชาญ ได้เชิญตัวนายศุภชัย วงษ์แสงทอง คู่กรณีที่ลูกสะใภ้ให้การว่าเคยทะเลาะกัน พร้อมลูกน้องอีก 2 คนมาสอบสวน และตรวจคราบขเม่าดินปืนที่ห้องสืบสวน สภ.วิเศษชัยชาญ

เบื้องต้น นายศุภชัย ให้การปฏิเสธ และยังกล่าวว่าตนเป็นคนที่ช่วยนำตัวนางประยูร ส่งโรงพยาบาล และไม่เคยคิดทำร้ายแต่อย่างใด และนำศพนางประยูร ส่งสถาบันนิติเวชเพื่อหาชันสูตรการเสียชีวิต และหาหลักฐานในที่เกิดเหตุเพื่อนำตัวคนร้ายที่ก่อเหตุมาดำเนินคดีต่อไป