พระนครศรีอยุธยา - ตำรวจพระนครศรีอยุธยา เร่งคลี่คลายคดีคนร้ายบุกทำร้ายร่างกายพระเฉลียว ธัมวโร อายุ 92 ปี พระลูกวัดตาลเอนเสียชีวิต พร้อมชิงพระเครื่องหายไปหลายองค์ เรียกสอบพยานทั้งพระ และเณรหมดวัด พร้อมสอบเครียดสามเณรวัย 17 ปี หลังตกเป็นผู้ต้องสงสัย
จากกรณีคนร้ายไม่ทราบจำนวน ก่อเหตุบุกเข้าไปทำร้ายร่างกายพระเฉลียว ธัมวโร อายุ 92 ปี พระลูกวัดตาลเอน หมู่ 1 ต.ตาลเอน อ.บ้านขล้อ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุธยา แล้วจับโยนลงมาจากกุฏิที่มีความสูง 5 เมตร เสียชีวิตแล้วรื้อค้นค้นกุฏิชิงเอาพระเครื่องล้ำค่าก่อนที่จะหลบหนีไป เหตุเกิดเมื่อวันที่ 11 ก.ย.ที่ผ่านมานั้น
ความคืบหน้าวันนี้ (12 ก.ย.) พ.ต.อ.สุเทพ ชนะสิทธิ์ ผกก.กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา พ.ต.ท.ยศนันท์ วิชัยกุล สว.สภ.บ้านขล้อ อ.บางปะหัน จ.พระนครศรีอยุะยา ได้เชิญตัวสามเณรรูปหนึ่งอายุ 17 ปี ที่อยู่กับพระเฉลียว ก่อนที่จะเสียชีวิตมาสอบสวน พร้อมกับพิมพ์ลายนิ้วมือเพื่อนำไปประกอบกับลายนิ้วมือที่พบในบริเวณที่เกิดเหตุ
นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังได้สอบพยานซึ่งเป็นพระอีก 53 รูป ชาวบ้าน และคนงานที่ทำงานอยู่ในวัดมาสอบปากคำด้วย พบว่าช่วงเวลาก่อนที่จะพบศพพระเฉลียว พระ และสามเณรทั้งหมดได้ออกมาสวดมนต์ และฉันเพลที่สำนักปฏิบัติธรรมฝั่งตรงข้ามกับวัดทั้งหมด แต่พระเฉลียว ไม่ได้ออกไป จึงเป็นช่วงจังหวะที่คนร้ายเข้ามาก่อเหตุ ปกติพระเฉลียว จะไม่ยอมเปิดกุฏิให้คนแปลกหน้าเข้าไปภายในกุฏิต้องเคาะเรียก หรือกดกริ่ง เนื่องจากหูไม่ค่อยได้ยิน
เจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานพระนครศรีอยุธยา พร้อมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน กก.สส.ภ.จว.พระนครศรีอยุธยา ได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง จากการตรวจสอบเก็บลายนิ้วมือแฝงที่บริเวณกรอบพระ ที่ห้อยอยู่กับประคำ พบลายนิ้วมือแฝงของคนร้ายที่แกะเอาพระเครื่องเนื้อดินเผาหลวงพ่อจุก จ.ลพบุรีไปด้วย
สำหรับทรัพย์สินที่หายไป ประกอบด้วย พระยอดธงโบราณสมัยกรุงศรีอยุธยา มูลค่ากว่าแสนบาท พระยอดธงเนื้อเงิน พระพุทธรูปเนื้อทองเหลือง 3 องค์ พระสมเด็จวัดเกษไชโย รุ่นสร้างเขื่อน พระสมเด็จวัดบางขุนพรหม 1 องค์ พระเนื้อผงหลวงพ่อจุก ที่ห้อยอยู่ที่คอพระเฉลียว 1 องค์ พระเครื่องไม่ทราบรุ่นอีก 1 องค์ และเงินสดไม่ทราบจำนวน
พ.ต.ต.ยศนันท์ กล่าวว่า ผลการผ่าพิสูจน์ศพพระเฉลียว พบกระดูกคอแตกหัก ม้ามแตก กระดูกเชิงกรานด้านซ้ายหัก ซี่โครงด้านหน้า และด้านหลังหัก ไหปลาร้าหัก ข้อมือขวาหัก มีร่องรอยเกิดจากการกระแทกตามลำตัว
“จากการสอบสวนพยานแวดล้อมต่างๆ พบว่า ช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ได้ยินเสียงคล้ายมีการต่อสู้ หรือดิ้นโครมคราม ซึ่งน่าเชื่อได้ว่าคนร้ายน่าจะเข้ามาในช่วงเวลานั้น ประกอบกับสภาพศพที่พบพระเฉลียว มีมดขึ้นที่ตัวแล้ว และน่าจะเสียชีวิตมาแล้วหลายชั่วโมง อีกทั้งจุดที่พระเฉลียวตกลงไปเสียชีวิตก็เป็นมุมอับไม่มีใครสังเกตเห็น ซึ่งจากคำให้การของสามเณร ที่บอกว่าได้นำอาหารเข้าไปถวายพระเฉลียว เมื่อช่วงเวลาประมาณ 06.00 น. แต่จากการเข้าไปตรวจสอบไม่พบว่ามีถุงอาหาร หรือภาชนะที่ใช้ใส่อาหารแต่อย่างใด และก่อนหน้านี้ มีผู้ต้องสงสัยรายหนึ่งเป็นเซียนพระใน จ.อ่างทอง ที่นำพระเครื่องมาให้พระเฉลียว เช่า และมาดูพระที่กุฏิพระเฉลียวอยู่เป็นประจำ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่จะดำเนินการสืบสวนสอบสวนต่อไป”
