กลุ่มกรีน พ่วง คปท.ยื่นหนังสืออัยการสูงสุด ขอทบทวนคำสั่ง “จุลสิงห์” ไม่ฟ้อง “นช.แม้ว” ชักใยแดงก่อการร้าย ชี้ส่อเอื้อประโยชน์นักโทษหนีคดี ยันกฎหมายระบุชัดเป็นความผิด หวัง “อรรถพล” รื้อคดี กู้ภาพลักษณ์ทนายแผ่นดิน “จาตุรันต์” ปัดอยู่เบื้องหลังม็อบ “อุทัย” ลั่นตามจองเวรแน่
วันนี้ (16 ต.ค.) ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และนายอุทัย ยอดมณี แกนนำเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดผ่านนายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้ทบทวนคำสั่งของนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องคดีก่อการร้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในการชุมนุมเมื่อปี 2553
โดยนายจาตุรันต์เห็นว่าการมีคำสั่งดังกล่าวของนายจุลสิงห์ ถือเป็นการช่วยเหลือ และเอื้อประโยชน์ให้แก่ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นนักโทษหลบหนีคดี เป็นคำสั่งอัปยศที่นายจุลสิงห์ลงนามทิ้งท้ายไว้ก่อนเกษียณอายุราชการ ทางเครือข่ายภาคประชาชนจึงอยากให้นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุดคนใหม่ ได้ทบทวนการมีคำสั่งดังกล่าวหรือถ้าเป็นไปได้ ขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่
ทั้งนี้ นายจาตุรันต์อ้างว่า จากที่ได้ศึกษาข้อกฎหมาย แม้การกระทำความผิดของพ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักร แต่ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 1 (1/1) บัญญัติให้การกระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามมาตรา 135/1 มาตรา 135/2 มาตรา 135/3 และ มาตรา 135/4 แม้กระทำนอกราชอาณาจักรก็จะต้องรับโทษในราชอาณาจักรด้วย
อีกทั้งมาตรา 6 ก็บัญญัติว่า “ความผิดใดที่ได้กระทำในราชอาณาจักร หรือที่ประมวลกฎหมายอาญานี้ ถือว่าได้กระทำในราชอาณาจักร แม้การกระทำของผู้เป็นตัวการด้วยกัน ของผู้สนับสนุน หรือของผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้นจะได้กระทำนอกราชอาณาจักร ก็ให้ถือว่าตัวการ ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำได้กระทำในราชอาณาจักรด้วย” ดังนั้นจึงไม่ทราบว่าการใช้ดุลพินิจสั่งไม่ฟ้องของนายจุลสิงห์ ได้มีการพิจารณาในประเด็นนี้อย่างรอบคอบหรือไม่
“เวลานี้เกิดคำถามในสังคมว่า พยานหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวิดีโอลิงก์ การโฟนอิน ปรากฏชัดทั้งภาพและเสียง อีกทั้งการกระทำของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติซึ่งเป็นจำเลยในคดีก่อการร้ายทั้ง 24 คน อยู่ที่ศาลแล้ว แต่ทำไมนายจุลสิงห์จึงใช้ดุลพินิจไม่สั่งฟ้องโดยให้เหตุผลว่าเป็นความผิดนอกราชอาณาจักร จึงไม่อยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุด ทางเครือข่ายภาคประชาชนจึงอยากให้นายอรรถพล ในฐานะอัยการสูงสุดคนใหม่ ซึ่งท่านน่าจะมีจิตสำนึก มีคุณธรรมมากกว่าอัยการสูงสุดคนก่อน ได้ทบทวนคำสั่งไม่ฟ้องคดีก่อการร้ายของ พ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุนการกระทำผิด ว่าเข้าข่ายเป็นการใช้ดุลพินิจออกคำสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย งดเว้นการนำความในมาตรา 6 มาตรา 7 ของประมวลกฎหมายอาญามาพิจารณาอย่างรอบคอบหรือไม่ เพื่อกู้ภาพลักษณ์การเป็นทนายแผ่นดินของสำนักงานอัยการสูงสุดให้กลับคืนมา” นายจาตุรันต์กล่าว
นายจาตุรันต์ยังกล่าวด้วยว่า ที่มายื่นเรื่องนี้พร้อมกับกลุ่ม คปท. ไม่ได้หมายความว่ากลุ่มกรีนอยู่เบื้องหลังการชุมนุมของ คปท.ที่อุรุพงษ์ แต่เนื่องจากเห็นว่าเป็นภาคประชาชนที่มีแนวความคิดตรงกันเท่ากัน และการไปร่วมชุมนุมที่อุรุพงษ์ กลุ่มกรีนเป็นเพียงแนวร่วม ซึ่งก็จะให้การสนับสนุนในเรื่องของวิทยากรไปให้ความรู้เท่านั้น
ด้านนายอุทัยกล่าวว่า สิ่งที่นายจุลสิงห์ดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอย่าให้รู้ว่าการสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าวก็เพื่อให้ พ.ต.ท.ทักษิณเอื้อประโยชน์ให้นายจุลสิงห์ ได้เข้าไปมีตำแหน่งเป็นกรรมการในองค์กรรัฐวิสาหกิจต่างๆ หรือได้รับตำแหน่งทางการเมือง รับรองว่าทางเครือข่ายจะไม่ละเว้นในการเอาผิดกับนายจุลสิงห์อย่างแน่นอน
ด้านนายนันทศักดิ์กล่าวว่า กรณีดังกล่าวเป็นอำนาจพิจารณาของอัยการสูงสุดซึ่งขณะนี้ติดภารกิจอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา และจะเดินทางกลับมาถึงในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ซึ่งทางสำนักงานก็จะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอให้พิจารณาทันที