xs
xsm
sm
md
lg

ยื่นรื้อคำสั่งทิ้งทวน สั่งไม่ฟ้อง"แม้ว" คดีก่อการร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ASTVผู้จัดการรายวัน-กลุ่มกรีนผนึก คปท. ยื่นอัยการสูงสุด ทบทวนคำสั่ง "จุลสิงห์" สั่งไม่ฟ้อง “ทักษิณ” คดีก่อการร้าย ขู่อย่าให้รู้เซ็นทิ้งทวน แลกนั่งบอร์ดรัฐวิสาหกิจหรือตำแหน่งทางการเมือง ลั่นตามเช็กบิลต่อแน่ ตำรวจหมดมุข หาเหตุจัดการม็อบ ทำโพลอ้างชาวบ้านเดือดร้อน ด้านม็อบอุรุพงษ์ยืนยันชุมนุมต่อเนื่อง "ยะใส"อัด สนนท. เปลี่ยนไป 2 ปี เคยสอบโกงรัฐบาลไหม

วานนี้ (16 ต.ค.) นายจาตุรันต์ บุญเบ็ญจรัตน์ ผู้ช่วยผู้ประสานงานกลุ่มกรีน และนายอุทัย ยอดมณี ตัวแทนเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฎิรูปประเทศไทย (คปท.) เข้ายื่นหนังสือต่ออัยการสูงสุดผ่านนายนันทศักดิ์ พูลสุข อธิบดีอัยการสำนักงานคดีพิเศษ โฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด ขอให้ทบทวนคำสั่งของนายจุลสิงห์ วสันตสิงห์ อดีตอัยการสูงสุด ที่สั่งไม่ฟ้องคดีก่อการร้ายของพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในการชุมนุมเมื่อปี 2553

นายจาตุรันต์ กล่าวว่า การมีคำสั่งดังกล่าวของนายจุลสิงห์ ถือเป็นการช่วยเหลือ และเอื้อประโยชน์ให้กับพ.ต.ท.ทักษิณ ที่เป็นนักโทษหลบหนีคดี เป็นคำสั่งอัปยศ ที่นายจุลสิงห์เซ็นต์ทิ้งท้ายไว้ก่อนเกษียณอายุราชการ ทางเครือข่ายภาคประชาชนจึงอยากให้นายอรรถพล ใหญ่สว่าง อัยการสูงสุดคนใหม่ได้ทบทวนการมีคำสั่งดังกล่าว หรือถ้าเป็นไปได้ ขอให้รื้อฟื้นคดีขึ้นมาใหม่

ทั้งนี้ การอ้างว่าการกระทำความผิดของพ.ต.ท.ทักษิณ จะเป็นการกระทำนอกราชอาณาจักร แต่ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 1 (1/1) บัญญัติให้การกระทำความผิดเกี่ยวกับการก่อการร้ายตามมาตรา 135/1 มาตรา 135/2 มาตรา135/3และ มาตรา 135/4 แม้กระทำนอกราชอาณาจักร ก็จะต้องรับโทษในราชอาณาจักรด้วย อีกทั้งมาตรา 6 ก็บัญญัติว่า ความผิดใดที่ได้กระทำในราชอาณาจักรหรือที่ประมวลกฎหมายอาญานี้ถือว่าได้กระทำในราชอาณาจักร แม้การกระทำของผู้เป็นตัวการด้วยกัน ของผู้สนับสนุน หรือของผู้ใช้ให้กระทำความผิดนั้น จะได้กระทำนอกราชอาณาจักร ก็ให้ถือว่าตัวการ ผู้สนับสนุน หรือผู้ใช้ให้กระทำได้กระทำในราชอาณาจักรด้วย จึงไม่ทราบว่าการใช้ดุลยพินิจสั่งไม่ฟ้องของนายจุลสิงห์ ได้มีการพิจารณาในประเด็นนี้อย่างรอบคอบหรือไม่

“เวลานี้เกิดคำถามในสังคมว่าพยานหลักฐานต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นวีดีโอลิงก์ การโฟนอิน ปรากฏชัดทั้งภาพและเสียง อีกทั้งการกระทำของแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ ซึ่งเป็นจำเลยในคดีก่อการร้ายทั้ง 24 คน อยู่ที่ศาลแล้ว แต่ทำไมนายจุลสิงห์ จึงใช้ดุลยพินิจไม่สั่งฟ้องโดยให้เหตุผลว่า เป็นความผิดนอกราชอาณาจักร จึงไม่อยู่ในอำนาจของอัยการสูงสุด ทางเครือข่ายภาคประชาชน จึงอยากให้นายอรรถพล ในฐานะอัยการสูงสุดคนใหม่ ซึ่งท่านน่าจะมีจิตสำนึก มีคุณธรรมมากกว่า อัยการสูงสุดคนก่อน ได้ทบทวนคำสั่งไม่ฟ้องคดีก่อการร้ายของพ.ต.ท.ทักษิณ ทั้งในฐานะตัวการ ผู้สนับสนุนการกระทำผิดว่าเข้าข่ายเป็นการใช้ดุลยพินิจออกำคสั่งไม่ชอบด้วยกฎหมาย งดเว้นการนำความในมาตรา 6 มาตรา 7 ของประมวลกฎหมายอาญามาพิจารณาอย่างรอบคอบหรือไม่ เพื่อกู้ภาพลักษณ์การเป็นทนายแผ่นดินของสำนักงานอัยการสูงสุดให้กลับคืนมา”

ด้านนายอุทัยกล่าวว่า สิ่งที่นายจุลสิงห์ดำเนินการไม่ชอบด้วยกฎหมาย และอย่าให้รู้ว่าการสั่งไม่ฟ้องคดีดังกล่าวก็เพื่อให้พ.ต.ท.ทักษิณเอื้อประโยชน์ให้นายจุลสิงห์ได้เข้าไปมีตำแหน่งเป็นกรรมการในองค์กรรัฐวิสาหกิจต่างๆ หรือได้รับตำแหน่งทางการเมือง รับรองว่าทางเครือข่ายจะไม่ละเว้นในการเอาผิดกับนายจุลสิงห์อย่างแน่นอน กรณีดังกล่าวเป็นอำนาจพิจารณาของอัยการสูงสุดซึ่งขณะนี้ติดภารกิจอยู่ที่นิวยอร์ก สหรัฐฯ และจะเดินทางกลับมาถึงในวันที่ 20 ต.ค.นี้ ซึ่งทางสำนักงานควรจะได้นำเรื่องดังกล่าวเสนอให้พิจารณาทันที

** จ่อตั้งกระทู้สดถามกฎหมายมั่นคง

ที่รัฐสภา นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ ในฐานะประธานคณะกรรมการประสานงานพรรคร่วมฝ่ายค้าน (วิปฝ่ายค้าน) กล่าวว่า การประชุมสภาผู้แทนราษฎร วันนี้ (17 ต.ค.) ฝ่ายค้านได้เตรียมประเด็นกระทู้ถามสด เรื่องการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคง รัฐบาลใช้งบประมาณไปแล้วเท่าไร แล้วจะยกเลิกการประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงเมื่อใด จากเดิมที่ประกาศใช้ตั้งแต่วันที่ 9-18 ต.ค. จะยกเลิกจริงหรือไม่ เพราะเรื่องนี้กระทบสิทธิเสรีภาพประชาชน รัฐบาลควรมีคำตอบในเรื่องนี้ด้วย

**"3เกลอ อปท.รอดเงื่อนไขประกันตัว

อีกด้าน นายไทกร พลสุวรรณ แกนนำกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) นายพิเชฐ พัฒนโชติ และนายสมบูรณ์ ทองบุราณ จำเลยคดีร่วมกันก่อการร้ายและปิดล้อมสนามบินดอนเมืองและสุวรรณภูมิ เดินทางไปที่ศาลอาญาเพื่อฟังคำสั่งคดีที่อัยการขอให้ศาลมีคำสั่งเพิกถอนการปล่อยตัวชั่วคราว หลังเห็นว่าจำเลยมีพฤติการณ์กระทำผิดเงื่อนไขการประกัน กรณีจัดชุมนุมและขึ้นเวทีปราศรัยโจมตีรัฐบาลที่บริเวณลานพระบรมรูป รัชกาลที่ 6 และสวนลุมพินี เมื่อวันที่ 4-5 ส.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งศาลพิเคราะห์เห็นว่า จำเลยทำตามสิทธิ์ของรัฐธรรมนูญ ชุมนุมโดยสงบ ปราศจากอาวุธ ไม่พบการยั่วยุ ปลุกระดม ประกอบกับรัฐบาลยกเลิก พ.ร.ก.ความมั่นคง ก่อนกำหนด ซึ่งแสดงให้เห็นว่าไม่มีความวุ่นวายเกิดขึ้น จึงสั่งยกคำร้องดังกล่าว

** "ไทกร"ปัดแตกคอแกนนำกปท.

นายไทกร กล่าวถึงกระแสเกิดความขัดแย้งภายในกลุ่มแกนนำว่า เป็นการเข้าใจข้อมูลที่คลาดเคลื่อน ยืนยันไม่มีความขัดแย้งเกิดขึ้น และเป็นข่าวลือ ดังนั้น บุคคลออกมาแถลงข่าวของกลุ่ม กปท. นั้น ก็ขึ้นอยู่กับแกนนำที่จะมอบหมายให้ใครเป็นผู้แถลงข่าว แต่หากมีการเปลี่ยนผู้แถลงข่าวก็ไม่เป็นไร เพราะตนมีคดีที่ถูกฟ้องร้อง 13 คดีแล้ว ที่เกิดจากการแถลงข่าว

**"แรมโบ้"เย้ยม็อบกปท.เสียงแตก

นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า นายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่าต้องพิจารณาอยู่บนพื้นฐานความเป็นจริง ไม่ใช่การคาดเดา และจากการประเมินล่าสุด จำนวนผู้ชุมนุมอยู่ที่ 200 คน ส่วนช่วงเย็นจะเพิ่มมากขึ้นประมาณ 500-600 คน เนื่องจากมีนักการเมืองท้องถิ่นนำมวลชนเข้าร่วม และยังเป็นกลุ่มหน้าเดิมๆ ที่ขณะนี้เริ่มเสียงแตกระหว่าง แกนนำกลุ่ม กปท. กับนายไทกร พลสุวรรณ ทำให้เห็นว่ากลุ่มคนเหล่านี้ไม่มีความเป็นเอกภาพ

ส่วนกรณีผู้บริหาร กทม. ออกมายืนยันว่าไม่ได้สองมาตรฐานในการปฏิบัติกับกลุ่มผู้ชุมนุมนั้น นายสุภรณ์ กล่าวว่า กทม.ยังไงก็สองมาตรฐาน ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ บริพัตร ผู้ว่าฯ กทม.ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ ไม่ดำเนินการกับกลุ่มผู้ชุมนุม ตามพ.ร.บ.รักษาความสะอาด พ.ศ.2535 โดยพรรคเพื่อไทยได้ยื่นจดหมายไปยังกระทรวงมหาดไทย เพื่อสอบผู้ว่ากทม.ในกรณีนี้แล้ว

**สมช.พบยอดผู้เข้าร่วมสูงผิดปกติ

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวว่า การชุมนุมยังต้องเฝ้าระวังอย่างใกล้ชิด เพราะจำนวนผู้ชุมนุมเพิ่มมากขึ้นอย่างผิดปกติ เพราะช่วงก่อนการชุมนุมในวันธรรมดาจะมีประมาณแค่หลักร้อย แต่เมื่อวันที่ 15ต.ค.ที่ ผ่านมา เริ่มเพิ่มขึ้นเกือบหลักพันคน ซึ่งปัจจัยที่ตัวเลขเพิ่มขึ้นอาจมาจากการบ่มเพาะชักจูง และการเมืองท้องถิ่นในพื้นที่

ส่วนที่มีการประกาศจะมาเคลื่อนมาชุมนุมหน้าทำเนียบรัฐบาล เราก็ยังรับฟังและสืบสภาพว่า เขามีขีดความสามารถในการเคลื่อนไหวอย่างไร แม้ว่าบริเวณโดยรอบทำเนียบรัฐบาลจะเปิดการจราจรแล้ว แต่เรายังมีเครื่องกีดขวางการชุมนุม และมีกำลังเจ้าหน้าที่ที่พร้อมออกปฏิบัติการ

** ตร.หมดมุก อ้างชาวบ้านเดือดร้อน

พล.ต.ต.วิชาญญ์วัชร์ บริรักษ์กุล ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 1 (ผบก.น.1) กำกับดูแลพื้นที่สน.พญาไท และจุดที่มีการชุมนุม กล่าวว่า ประชาชนที่พักอาศัยในย่านใกล้เคียงและจุดที่มีการชุมนุมที่ได้รับความเดือดร้อน ได้เข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวนสน.พญาไท แล้ว 6 ราย ส่วนใหญ่ให้การว่า ได้รับผลกระทบจากการชุมนุมทั้งเสียงดังรบกวนชีวิตความเป็นอยู่และการทำมาหากิน ไม่สามารถสัญจรไปมาและเข้าออกที่พักอาศัยได้ตามปกติ การเดินทางเป็นไปด้วยความยากลำบาก และเตรียมยื่นหนังสือชี้แจงความเดือดร้อนและผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชนใกล้เคียงโดยเร็ว

เวลา 15.00 น.พล.ต.ต.อดุลย์ ณรงค์ศักดิ์ รองผบช.น. และในฐานะหัวหน้าชุดเจรจาต่อรองพร้อมคณะทำงานจะเข้าพบแกนนำผู้ชุมนุมครั้งครั้งที่ 2 เพื่อเจรจาขอร้องให้กลุ่มผู้ชุมนุมเคลื่อนย้ายออกจากแยกอุรุพงษ์ไปชุมนุมที่สนามกีฬาใต้ทางด่วน

เวลา 16.00 น. ภายหลังเจรจา ทางกลุ่มเครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) ปฏิเสธคืนผิวถนนและยังคงปักหลักอยู่ที่เดิม

มีรายงานว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมออกมาสำรวจความคิดเห็นของประชาชนที่อาศัยอยู่ในย่านนี้ เพื่อหาฉันทามติ ว่าเห็นด้วยหรือไม่กับการชุมนุมของ คปท. ที่บริเวณแยกอุรุพงษ์

**ม๊อบอุรุพงษ์ยันชุมนุมต่อเนื่อง

สำหรับบรรยากาศการชุมนุม หลังจากฝนตกตลอดทั้งวันท่ามกลางการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยของเจ้าหน้าที่ตำรวจโดยรอบรวมถึงบริเวณหน้าทำเนียบรัฐบาล รัฐสภาและพื้นที่ประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง

นายนัสเซอร์ ยีหมะ คณะทำงาน คปท. กล่าวยืนยันว่า จะชุมนุมโดยใช้สิทธิตามรัฐธรรมนูญอย่างเปิดเผยและปราศจากอาวุธ ซึ่งทาง คปท. ได้มีการเรียกร้องว่า รัฐจะต้องไม่ลิดรอนสิทธิ์ประชาชนโดยการใช้อำนาจ ส่วนเรื่องจะกลับไปหน้าทำเนียบ ยังไม่ได้มีการหารือกัน

"คปท. ยังยืนยันที่จะอยู่แยกอุรุพงษ์ เพราะเป็นพื้นที่นอกเขต พ.ร.บ.มั่นคง โดยมองว่า การที่รัฐประกาศใช้ พ.ร.บ.มั่นคงนั้น เป็นการใช้อำนาจเพื่อปิดกั้นการชุมนุมของประชาชนมากเกินไป ส่วนเรื่องของการเข้าร่วมจากกลุ่มต่างๆ ไม่มีการปิดกั้น หากมีเป้าหมายเดียวกัน ส่วนกรณีที่มีสหพันธ์นิสิตนักศึกษาแห่งประเทศไทย (สนนท.) ออกมาต่อต้านนั้น ให้นักศึกษาเป็นคนให้ความคิดเห็นเอง ซึ่งการเข้าร่วมเป็นสิทธิ์ของแต่ละบุคคล"

**"ยะใส"ซัด สนนท. บทบาทเปลี่ยน

ด้านนายสุริยะใส กตะศิลา ผู้ประสานงานกลุ่มกรีน โพสต์เฟซบุ๊ค แสดงความคิดเห็นกรณีที่ สนนท. ออกมาเคลื่อนไหว พร้อมแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการชุมนุมของกลุ่มต่างๆ ซึ่งตนมองว่า การทำหน้าที่ของ สนนท. แตกต่างจากอดีตมาก โดยเฉพาะการตรวจสอบอำนาจรัฐบาล ที่ระยะหลังมานี้ส่วนใหญ่ทาง สนนท. มักจะออกมาวิพากวิจารณ์

“สิ่งหนึ่งที่ สนนท. ทุกยุคสมัยในอดีตถือเป็นหน้าที่ คือ การวิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบอำนาจรัฐ แต่ 2 ปีกว่าของรัฐบาลยิ่งลักษณ์ ผมไม่เห็นบทบาทนี้ของ สนนท. เลย เห็นแต่การออกมาวิพากษ์ วิจารณ์ ฝ่ายประชาชนที่เห็นต่างจาก สนนท.เท่านั้น”

**"ตู่-นปช." ขู่รุ่นพี่รามเบื้องหลังม๊อบ

นายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. กล่าวว่า กลุ่มผู้ชุมนุมที่แยกอุรุพงษ์ ไม่มาก แต่มีคนมาเติมให้มากขึ้น ม็อบนี้จะยังทำอะไรรัฐบาลไม่ได้ แต่จะคอยเปิดประตูให้เหมือนกับในสมัยนายสมัคร สุนทรเวช และนายสมชาย วงศ์สวัสดิ์ อดีตนายกรัฐมนตรี ถ้าโค่นล้มรัฐบาลได้ คราวนี้ตนเชื่อว่าจะไม่มีการเลือกตั้ง คนเสื้อแดงต้องเตรียมพร้อมเพื่อความไม่ประมาท ส่วนกรณีการชูภาพนักศึกษา ม.รามคำแหง เป็นการจัดขบวนทัพให้มีภาพนักศึกษา ตนรู้ว่ารุ่นพี่ที่อยู่เบื้องหลังนั่งอยู่ที่ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร จึงทำให้มีเครื่องปั่นไฟ มีรถสุขามาทันที ม็อบนี้ รถสุขามาก่อน เพื่อให้สอดคล้องกับปาฐกถาของนายธีรยุทธ บุญมี ส่วนมวลสมาชิกของพรรคประชาธิปัตย์ก็ไปแอบอิงว่าม็อบใดจะล้มรัฐบาลได้ คนที่เติมม็อบไม่ใช่นักศึกษา แต่เป็นกลไกที่พรรคประชาธิปัตย์รู้ดีที่สุด ถ้ารัฐบาลจะใช้วิธีอายัดทรัพย์เหมือนรัฐบาลที่ผ่านมา ตนก็ชี้ตัวได้ทั้งหมด

"ลานประหารจริงไม่ได้อยู่ที่แยกอุรุพงษ์ แต่ยังอยู่ที่องค์กรอิสระเหมือนเดิม เราจะไม่พูดถึงมหาวิทยาลัยรามคำแหง เพราะรู้ว่าโรงงานผลิตอยู่ที่ไหน พี่รู้ว่าน้องเป็นใคร แต่เราจะไม่ยุ่งกับเขา คนเสื้อแดงต้องเตรียมพร้อมในหมู่ประชาชน อยู่ในที่มั่นอย่างสงบแต่ไม่กระพริบตา ถ้ามีการนัดหมายวันเดียวเราก็พร้อมทันที"

***"นิชา"โพสต์บทสัมภาษณ์ ศ.สตีเฟ่น ยัง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม ภรรยาพล.อ.ร่มเกล้า ธุวธรรม นายทหารที่เข้าช่วยระงับเหตุการณ์ชุมนุมทางการเมืองเมื่อเดือน เม.ย.2553 ได้โพสต์ข้อความลงเฟซบุ๊ก โดยนำบทสัมภาษณ์พิเศษที่นายสุทธิชัย หยุ่น บรรณาธิการอำนวยการเครือ เนชั่น กับศาสตราจารย์สตีเฟ่น ยัง (Prof.Stephen Young) ผู้ค้นพบแหล่งโบราณคดีบ้านเชียงในปี 2509 มาเผยแพร่

โดยบทสัมภาษณ์พิเศษของ ศ.สตีเฟ่น ยัง ระบุถึงความแตกแยกในประเทศไทยว่า เป็นเรื่องเศร้าใจ เนื่องจากเป็นผลพวงมาจากความมักใหญ่ใฝ่สูงแบบระบบจักรพรรดิของ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร รัฐบาลเอื้อระบบผูกขาดให้แก่พ.ต.ท.ทักษิณ รัฐบาลที่เป็นตัวแทนประชาชน ยกความเป็นบุคคลอภิสิทธิ์ให้กับคุณทักษิณ นี่คือ การปกครองโดยชนชั้นสูง เป็นการปกครองโดยคนรวยที่มีอภิสิทธิ์ ไม่ใช่คนๆ หนึ่งที่เริ่มต้นจากความยากจน และทำมาหากินจนได้ลืมตาอ้าปาก
กำลังโหลดความคิดเห็น