xs
xsm
sm
md
lg

อนาคตม็อบอุรุพงษ์เป็นอย่างไรไม่รู้ แต่ระบอบแม้วเริ่มยวบแล้ว !!

เผยแพร่:   โดย: MGR Online


ผ่าประเด็นร้อน

ผ่านมาร่วมสัปดาห์แล้วสำหรับม็อบที่แยกอุรุพงษ์ หรือในชื่อเต็มว่า "เครือข่ายนักศึกษาและประชาชนปฏิรูปประเทศไทย(คปท.)" และกำลังท้าทายรัฐบาลของระบอบทักษิณว่าจะทนทานหรือต้านทานอำนาจ"รัฐตำรวจ"ไปได้นานแค่ไหน หรือในทางตรงกันข้ามสามารถขยายแนวร่วมทุกทิศทางเพิ่มพลังปริมาณจนเปิดเกมรุกจนโค่นล้มรัฐบาลชุดนี้ลงได้ ในอนาคตอย่างน้อยก็ภายในสัปดาห์นี้ก็คงเห็นแนวโน้มอย่างใดอย่างหนึ่งแน่นอน

อย่างไรก็ดีสิ่งที่เห็นได้ชัดเจนก็คือไม่ว่าผลจะเป็นอย่างไร เวลานี้เราได้เห็นอาการตื่นตระหนกหวาดผวากันแบบเก็บอาการไม่อยู่ แต่ก็นั่นแหละยิ่งมีอาการแบบนี้มากเท่าไรก็ยิ่งทำให้เป็นตัวเร่งให้รัฐบาลมีความอ่อนแอ เพราะกลายเป็นว่ายิ่งสร้างเงื่อนไข เพิ่มแนวร่วมให้ฝ่ายต่อต้านมากขึ้นทุกวัน

สิ่งแรกที่เห็นได้ชัดเจนก็น่าจะเป็นการประกาศใช้พระราชบัญญัติความมั่นคงฯอย่างพร่ำเพรื่อ ลักษณะไม่ต่างจากการ "ลุแก่อำนาจ" เป็นการใช้กฎหมายพิเศษจนเกินกว่าเหตุ เพราะมีการระดมกำลังตำรวจนับหมื่นนายเข้ามา"เตรียมจัดการ"กับผู้ชุมนุมที่ชุมนุมกันอย่างสงบ และไม่มีทีท่าก่อเหตุรุนแรงแต่อย่างใด อีกทั้งยังมีการกระทำการที่ส่อไปในทางละเมิดสิทธิ์ของประชาชนที่ชุมนุมกันตามรัฐธรรมนูญ แต่กลับถูก "ตัดข้าวตัดน้ำ" รวมไปถึงห้ามใช้รถสุขา แม้จะอ้างว่าเป็นพื้นที่ควบคุมพิเศษ เป็นการกดดันทางอ้อมไม่ให้เกิดการชุมนุม แต่คำถามในเรื่องของความเหมาะสม เป็นการใช้อำนาจที่เกินกว่าเหตุ

นี่ยังไม่นับกรณีที่มีการจงใจใส่ร้ายให้ข้อมูลบิดเบือนเพื่อให้สังคมเข้าใจเจตนาของผู้ชุมนุมในทางลบ เช่นการ ป้ายสีว่าผู้ชุมนุมมีการปิดถนนในหลายเส้นทางตั้งแต่แรกเพื่อให้สังคมมองว่าสร้างความเดือดร้อนด้านจราจร ทั้งที่เป็นฝีมือของตำรวจ เพื่อมีเจตนาในการประกาศใช้กฎหมายพิเศษดังกล่าวภายหลัง

อย่างไรก็ดีถึงอย่างไรมันก็ไม่อาจปิดบังซ่อนเร้นเจตนาและความเคลื่อนไหวเพื่อนำไปสู่เป้าหมายสำคัญที่รออยู่ข้างหน้า ความจริงและความเห็นแก่ตัวของคนพวกนี้ก็ย่อมเปิดเผยออกมาให้เห็นวันยังค่ำ อย่างการปิดถนนของเครือข่าย "รัฐตำรวจ" ที่แม้ว่ากลุ่มผู้ชุมนุมย้ายไปปักหลักอยู่ที่แยกอุรุพงษ์ แต่รัฐบาลก็ยังอ้างล่วงหน้าว่าจะมีการบุกเข้ามายึดทำเนียบรัฐบาลจึงต้องมีการปิดถนนในรัศมีโดยรอบถึง 14 เส้นทาง ต้องย้ำว่าการปิดถนนคราวนี้ก็เป็นฝีมือของตำรวจนครบาลที่นำโดย พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง และ ภายใต้การกำกับของ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติในฐานะผู้อำนวยการศูนย์อำนวยการรักษาความสงบเรียบร้อย (ศอ.รส.) พล.ต.อ.อดุลย์ แสงสิงแก้ว เพียงเพื่อรักษาอำนาจให้กับ ทักษิณ ชินวัตร เท่านั้น แต่เชื่อว่าเมื่อทนชาวบ้านที่ได้รับความเดือดร้อนรุมด่าไม่ไหวล่าสุดก็ยอมเปิดถนนในทางเส้นทางจนเหลือ 10 เส้นทาง ที่ไม่ให้ใครเฉียดเข้าใกล้ทั้งทำเนียบรัฐบาลและรัฐสภาเป็นอันขาด

สาเหตุก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าภายในส้ปดาห์นี้รัฐบาล "หุ่นเชิด" ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร กำลังเดินหน้าแก้ไขรัฐธรรมนูญในกระเด็นที่เหลือ นั่นคือเริ่มจากการแก้ไขมาตรา 190 สาระสำคัญก็ไม่มีอะไรมากไปกว่าเจตนาลดการรับรู้จากรัฐสภา แม้ว่าจะว่าไปแล้วมันก็เป็น "สภาทาส" แต่ก็ยังไม่ต่องการให้ความลับรั่วไหล เพราะหากแก้ไขสำเร็จการเจรจาการค้าในนามของรัฐบาลที่พ่วงเอาผลประโยชน์ทับซ้อนที่เอื้อต่อธุรกิจข้ามชาติของครอบครัวทำได้สะดวก รวมทั้งยังมีการผลในทางการทำสัญญาผูกพันระหว่างรัฐ "แบบไม่มีนัยสำคัญ"ต่อไปก็หวานหมู

ถัดมาก็มีประเด็นแก้ไขมาตรา 68 ที่กำลังจ่อรออยู่ ซึ่งมาตรานี้ถือว่าสำคัญ อาจจะสำคัญที่สุดก็ว่าได้สำหรับ ทักษิณ ชินวัตร เพราะมาตรานี้อาจถือว่ามีความหมาย "สุดซอย"ก็ว่าได้ เพราะมีเจตนา"ปิดปาก"ไม่ให้ประชาชน รวมทั้งองค์กรภาคประชาชนใช้สิทธิ์ในการ"พิทักษ์รัฐธรรมนูญ"ในข้อหา "ล้มล้างการปกครองฯ"จากเดิมที่สามารถใช้ช่องทางตรงไปร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ แต่พวก "ข้าทาสทักษิณ"กำลังพยายามให้ใช้ได้แค่ช่องทางเดียวคือต้องผ่าน"ดุลพินิจของอัยการสูงสุด"เพียงเท่านั้น ก็ลองหลับตานึกภาพเอาไว้ล่วงหน้าเอาก็แล้วกันว่าในอนาคตจะเป็นอย่างไร เพราะถ้ามาตรานี้ผ่านต่อไปก็จะ "ชำเรา"รัฐธรรมนูญแบบไหนก็ได้ เพราะไม่มีใครร้องคัดค้านได้ ต้องผ่านอัยการสูงสุดอย่างเดียว

เมื่อในสภาและที่ทำเนียบรัฐบาลกำลังมีงานสำคัญยิ่งยวด นี่ก็เป็นคำตอบว่าทำไมต้องระดมเครือข่ายรัฐตำรวจมานับหมื่นนาย แต่ใช้งบประมาณของชาวบ้านหลายร้อยล้านบาท ปิดถนนห้ามใครที่ไม่เกี่ยวข้องเข้าออกอย่างเด็ดขาด ในช่วงเข้าด้ายเข้าเข็มแบบนี้ ก็ต้องหน้ามืดทำทุกทาง อย่างไรก็ดีหากมองอีกมุมหนึ่งหากชาวบ้านรับรู้ข้อมูล เจตนาซ่อนเร้นดังกล่าว มันก็น่าจะยิ่งเพิ่มความเกลียดชัง สะสมอารมณ์โกรธได้มากกว่าเดิม เป็นการเพิ่มพลังม็อบที่แยกอุรุพงษ์ได้ดีอีกทางหนึ่ง ขณะเดียวกันอีกมุมหนึ่งการประกาศเขตควบคุมพิเศษ บังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวดมากเท่าใดก็ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความหวาดผวา ความอ่อนยวบของรัฐบาลมากขึ้นทุกวัน

แม้ว่าผลสรุปในอนาคตของการชุมนุมของนักศึกษาและประชาชนที่รวมกลุ่มกันที่แยกอุรุพงษ์จะสามารถโค่นล้มระบอบทักษิณ ได้หรือไม่ก็ตาม แต่อย่างน้อยก็ได้เห็นความหลากหลายของมวลชนที่ต่อต้านมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ฝ่ายตรงข้ามกำลังถดถอยลงเรื่อยๆ บรรยากาศไม่เหมือนเดิม !!
กำลังโหลดความคิดเห็น