ส.ส.ปทุมฯ ปชป.ตั้งกระทู้ถามแท็ปเล็ตพัง 2 แสนกว่าเครื่อง “อนุดิษฐ์” โชว์รายงาน สตง.ยันแค่ข้อเสนอให้ใช้เงินอย่างมีประสิทธิภาพ อ้างซ่อมจริง 5,344 เครื่อง แค่ 0.62% เย้ยจินตนาการ ด้าน “จาตุรนต์” โอ่มีประกันดูแลอยู่ โวเด็กเรียนดีขึ้น 50%
วันนี้ (10 ต.ค.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร นายเกียรติศักดิ์ ส่องแสง ส.ส.ปทุมธานี พรรคประชาธิปัตย์ ตั้งกระทู้ถามสดนายกรัฐมนตรีเรื่องนโยบายแจก คอมพิวเตอร์แบบพกพาล้มเหลว (แท็บเล็ต) สูญเสียงบประมาณแผ่นดินไม่คุ้มค่ากับการลงทุน นักเรียนเสียโอกาสมากกว่าได้โอกาส ทำให้อ่านหนังสือไม่ได้ คิดเลขไม่ออก มีขยะอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มขึ้น ขอถามว่าสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ตรวจพบว่าในปีแรกมีการใช้งบในการจัดซื้อแท็บเล็ต จำนวน 8.6 แสนเครื่อง มูลค่า 2,600 ล้านบาท แต่ขณะนี้ชำรุดถึง 2 แสนกว่าเครื่อง หรือคิดเป็นร้อยละ 30 เปอร์เซ็นต์ เป็นเงิน 800 ล้านบาท นายกรัฐมนตรีจะทำอย่างไรต่อความเสียหายที่เกิดขึ้น และจะดำเนินการเอาความผิดกับบริษัทผู้ขายอย่างไร และรัฐมนตรีทราบหรือไม่ว่ามีการชำรุดเสียหายจากจุดใดบ้าง
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.เทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ชี้แจงโดยโชว์รายงานการตรวจสอบแท็บเล็ตของ สตง.ว่ากระทรวงไอซีทีได้รับรายงานนี้เมื่อวันที่ 4 ต.ค.ที่ผ่านมา ข่าวที่ออกมาเป็นเพียงการเสนอข่าวหนังสือพิมพ์บางฉบับหนึ่งเท่านั้น ซึ่งในรายงานเป็นการตรวจสอบการใช้เงินแผ่นดินเพื่อให้เพิ่มประสิทธิภาพ เพื่อบริหารโครงการที่จะต้องมีต่อไป มีข้อตรวจพบเพียง 4 ข้อ และ 1 ข้อสังเกต ไมได้พูดถึงการทุจริตในโครงการนี้ เพราะมีการเขียนว่าสนับสนุนเรื่องนี้และเป็นโครงการที่ดี เพียงแค่เป็นข้อเสนอแนะให้กับผู้บริหารในการดำเนินโครงการต่อเพื่อใช้เงินแผ่นดินให้มีประสิทธิภาพ ทางไอซีที และศึกษาธิการ ก็น้อมรับ ส่วนตัวเลขตนไม่อยากให้มีการจินตนาการในลักษณะนี้ ตัวเลขการซ่อม ส.ค.55-ส.ค.56 มีเพียง5,344 เครื่อง คิดเป็น 0.62% เท่านั้น โดย นายพิเชษฐ์ ตระกูลกาญจน์ ผอ.สำนักตรวจสอบการดำเนินงานที่ 3 สำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน ขอให้เอาคำมายืนยันในสภาว่าไม่เคยทำรายงาน หรือทำตัวเลขเรื่องการชำรุดของแท็ปเล็ตมหาศาลตามที่จินตนาการแต่อย่างใด
ด้าน นายจาตุรนต์ ฉายแสง รมว.ศึกษาฯ กล่าวว่า ในรายงานของ สตง.ไม่มีการรายงานว่ามีเครื่องแท็บเล็ตเสีย ถึงร้อยละ 30 ซึ่งตัวเลขดังกล่าวไปคำนวนกันอย่างไรก็ไม่ทราบ แต่มีการตรวจสอบแบบสุ่มตรวจ 80 โรงเรียน พบว่ามีความเสียหาย 295 เครื่อง แต่ไม่ได้มีการระบุว่าเสียอย่างไร เมื่อเกิดการชำรุดเราก็มีระบบประกันดูแลอยู่ นอกจากนี้ยังยืนยันว่าการมีแท็บเล็ต ส่งผลให้นักเรียนมีผลการเรียนดีขึ้นกว่าร้อยละ 50 เปอร์เซ็นต์ ส่วนเรื่องปัญหาขยะเทคโนโลยีนั้นก็จะมีระบบที่ดูแลในเรื่องของสิ่งแวดล้อมอยู่แล้ว นอกจากนี้การพัฒนาเด็กต้องใช้เครื่องมือหลายอย่าง แท็บเล็ตก็เป็นเพียงเครื่องมือหนึ่ง ไม่ได้หมายความว่าใช้แท็บเล็ตแล้วจะไม่ทำอย่างอื่นเลย