xs
xsm
sm
md
lg

แท็บเล็ตพัง 30% แค่ 295 เครื่อง ใน 80 ร.ร.“จาตุรนต์” ลั่นอย่าเหมารวมทั้งประเทศ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

ศธ.แย้งแท็บเล็ตพัง 30% คิดเป็น 295 เครื่อง จาก 80 ร.ร.ที่ สตง.สำรวจ อย่าเหมารวมว่าเป็น 2.5 แสนเครื่องของทั้งประเทศ “จาตุรนต์” มอบ สพฐ.สั่งเขตพื้นที่ไปสำรวจข้อมูลภาพรวมทั้งประเทศมีเครื่องเสีย-พัง-ส่งซ่อมกี่เครื่องคาดรู้ตัวเลขแท้จริง เร็วๆ นี้

 

นายจาตุรนต์ ฉายแสง
นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (รมว.ศธ.) กล่าวถึงกรณีมีรายงานผลตรวจของสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ที่ตรวจสอบโครงการแท็บเล็ตพีซีเพื่อการศึกษา (OTPC) แล้วพบเครื่องแท็บเล็ตนักเรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ประจำปีการศึกษา 2555 เสียหาย 30% หรือ 2.59 แสนเครื่อง จากทั้งหมด 860,000 เครื่อง ทั้งยับพบกรณีศูนย์ซ่อมแท็บเล็ต ใน จ.สระบุรี ปิดศูนย์โดยไม่แจ้งให้โรงเรียนทราบล่วงหน้า และนำแท็บเล็ตนักเรียนที่ส่งซ่อมไปด้วยนั้น ว่า จากการติดตามรายงานผลตรวจ สตง.ที่ส่งมาให้นายอภิชาติ จีระวุฒิ เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (เลขาธิการ กพฐ.) ทราบว่า สตง.ได้ทำการสุ่มสำรวจและมีข้อเสนอแนะให้ ศธ.ว่ามี 4 เรื่องใหญ่ที่ควรเร่งดำเนินการแก้ไข คือ 1.ปัญหาการจัดส่งเครื่องแท็บเล็ตล่าช้าไม่ครบถ้วน 2.โรงเรียนไม่สามารถนำแท็บเล็ตมาใช้เพื่อการเรียนการสอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ 3.ปัญหาการรับประกันเครื่องแท็บเล็ต และ 4.ปัญหาการควบคุมแท็บเล็ต หรือครุภัณฑ์ โดย สตง.ได้มีทำการสุ่มสำรวจจากกลุ่มตัวอย่างจากโรงเรียน 80 แห่ง 12 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา (สพป.) 11 จังหวัดซึ่งคิดเป็น 0.2% ของโรงเรียนทั้งหมดกว่า 3 หมื่นโรง

อย่างไรก็ตาม กรณีที่มีปรากฏเป็นข่าวว่าพบความเสียหาย 30% หรือ 2.59 แสนเครื่อง จากทั้งหมด 860,000 เครื่องนั้นไม่ใช่ เพราะความจริงแล้วข้อมูลดังกล่าว คือ 30% ของเครื่องแท็บเล็ต จำนวน 295 เครื่อง จากประมาณ 990 เครื่อง ที่ สตง.ทำการสุ่มสำรวจใน 80 โรงเรียนเท่านั้น เพราะฉะนั้นข้อมูลเสียหายดังกล่าวจะมาเทียบความเสียหายภาพรวมทั่วประเทศไม่ได้ ขณะเดียวกันกระทรวงกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร (ไอซีที) ซึ่งเป็นบริษัทคู่สัญญากับบริษัทที่ขายเครื่องแท็บเล็ตในปีงบประมาณ 2555 ได้รายงานสรุปการซ่อมเครื่องแท็บเล็ตระหว่างเดือนสิงหาคม 2555 - สิงหาคม 2556 พบเครื่องแท็บเล็ตเสียหายทั้งสิ้น 5,344 เครื่อง คิดเป็น 0.62% จากทั้งหมด 858,886 เครื่อง ซึ่งแยกเป็นความเสียหายที่ฮาร์ดแวร์มากสุด 3,571 เครื่อง รองมาเป็นความเสียหายที่ซอฟต์แวร์ 1,773 เครื่อง อย่างไรก็ดี ตามเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญาไว้ในส่วนการซ่อมแซมที่อยู่ในประกัน 2 ปี หากเกินระยะเวลาการส่งซ่อม 5 วัน ทางบริษัทคู่สัญญาต้องส่งเครื่องแท็บเล็ตสำรองให้ผู้ใช้ได้ใช้ทดแทน เมื่อซ่อมเรียบร้อยแล้วจะส่งเอสเอ็มเอสให้โรงเรียนมารับภายใน 3 วัน ซึ่งที่ผ่านมายังไม่พบปัญหาเรื่องการส่งเครื่องแท็บเล็ตซ่อมเลย

นายจาตุรนต์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีศูนย์ซ่อมที่ จ.สระบุรี นั้น พบว่าจังหวัดดังกล่าวมีศูนย์ซ่อม 2 ศูนย์ ทั้งที่อยู่ในห้างสรรพสินค้าสุขอนันต์ และห้างสรรพสินค้าทวีกิจ แต่ขณะนี้สาขาทวีกิจปิดทำการไปแล้ว แต่ลูกค้าของสาขาทวีกิจ สามารถมารับเครื่องที่ส่งซ่อมได้ที่สาขาสุขอนันต์ได้ อย่างไรก็ดี จากการสอบถามบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ไซแอนทิฟิก ดีเวลลอปเมนต์ จำกัด หรือบริษัทคู่สัญญา พบว่าบริษัทยังไม่ได้รับรายงานการปิดศูนย์ซ่อม มีเพียงการย้ายสถานที่ไปอยู่บริเวณใกล้เคียง จำนวน 3 ศูนย์เท่านั้น และบริษัท แอดไวซ์ โฮลดิงส์ กรุ๊ป จำกัด ที่เป็นศูนย์ซ่อมแท็บเล็ต จากบริษัท เสิ่นเจิ้น สโคป ถือว่ายังซ่อมได้ อีกทั้งในทีโออาร์ได้กำหนดให้ต้องมีศูนย์ซ่อมครบทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ แต่บริษัท แอดไวซ์ฯ มีศูนย์ซ่อมทั้งหมด 114 ศูนย์ ถือว่าไม่ขัดกับเงื่อนไขที่ได้ทำสัญญาไว้กับกระทรวงไอซีที

ขณะนี้ยังไม่ทราบว่าเครื่องแท็บเล็ตเสียหายโดยรวมเท่าไร ยังไม่มีการสำรวจโดยตรงครบถ้วน ซี่ง สพฐ.และเขตพื้นที่กำลังรวมข้อมูลแต่ยังไม่แล้วเสร็จ เพราะมีการปิดภาคการศึกษา แต่เร็วๆ นี้ จะได้ข้อมูลว่าที่มีการบันทึกเครื่องแท็บเล็ตเสีย ส่งซ่อม ไม่ส่งซ่อม ทั้งประเทศเป็นจำนวนเท่าไร ขณะเดียวกัน ได้มอบให้ สพฐ.ไปประสานกับสำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา (สกอ.) มหาวิทยาลัยที่เปิดสอนในคณะวิศวกรรมศาสตร์ สาขาทางด้านเทคโนโลยี และคอมพิวเตอร์ ให้ร่วมกันทำการสุ่มสำรวจตรวจแท็บเล็ตโดยให้มีการสำรวจในวงกว้าง ซึ่งการสำรวจครั้งนี้ไม่ได้หมายความว่าไม่เชื่อถือในข้อมูลของใคร แต่เพื่อเป็นการดูความพร้อมและอาศัยความสามารถของผู้ที่มีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีเข้าไปตรวจสอบ เพราะเวลานี้ยังไม่ทราบว่าเครื่องแท็บเล็ตที่เสียหายนั้นเสียหายเพราะอะไร” นายจาตุรนต์ กล่าวและว่า อย่างไรก็ตาม ตนเน้นย้ำในที่ประชุมคณะกรรมการบริหารนโยบาย 1 คอมพิวเตอร์พกพา (แท็บเล็ต) ต่อ 1 นักเรียนว่าให้ สพฐ.ดำเนินการสรุปบทเรียนของการจัดซื้อแท็บเล็ตในปีงบประมาณ 2555-2556 เพื่อเป็นแนวทางดำเนินการจัดซื้อในปีงบประมาณ 2557 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะเดียวกัน ยืนยันว่าในปีงบประมาณ 2557 รัฐบาลจะซื้อเครื่องแท็บเล็ตแจกนักเรียนเช่นเดิมไม่ใช่วิธีการอื่น
 


กำลังโหลดความคิดเห็น