“จาตุรนต์” ลั่นแจกคูปองซื้อแท็บเล็ตทำได้ยาก แค่แนวคิดย้ำรัฐไม่ได้ถังแตก

“จาตุรนต์” ชี้แจกคูปองเงินสดซื้อแท็บเล็ตเป็นไปได้ยาก ย้ำเป็นแค่แนวคิดที่เหมาะสมกับเด็กส่วนน้อยที่พ่อแม่มีตังค์ ไม่ใช่กับเด็กส่วนใหญ่และอาจทำให้เด็กเกิดความเปรียบเทียบ ทั้งไม่ใช่เพื่อแก้ปัญหาเงินไม่พอหรือจัดซื้อล่าช้าด้วย ระบุหลังจากจัดซื้อแท็บเล็ตปี 56 เรียบร้อยตั้งวงถอดบทเรียนจุดอ่อน-จุดแข็งของการจัดซื้อ 2 ปีที่ผ่านมาพร้อมทั้งวางแผนยาวถึงคุณสมบัติ สเปกรองรับเทคโนโลยีอีก 2-3 ปีข้างหน้า

นายจาตุรนต์ ฉายแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ให้สัมภาษณ์ระหว่างเดินทางร่วมการประชุมคณะกรรมการบริหารของยูเนสโก ครั้งที่ 129 ณ กรุงปารีส สาธารณรัฐฝรั่งเศส ถึงกรณีที่มีข่าวว่าในปีงบประมาณ 2557 มีแนวคิดจะแจกคูปองเงินสด 3,000 บาทให้กับเด็ก ป.1 และ ม.1 แทนการแจกเครื่องแท็บเล็ต ว่า เป็นเพียงแนวคิดที่เสนอกันแต่ไม่ใช่ข้อสรุป ขณะนี้จะต้องดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างแท็บเล็ต สำหรับนักเรีนชั้น ป.1 และ ม.1 ปีการศึกษา 2556 ตามระเบียบในโครงการคอมพิวเตอร์แท็บเล็ตพกพาต่อหนึ่งนักเรียนให้เรียบร้อยก่อน ซึ่งในส่วนของโซน 3 (ภาคกลางและภาคใต้) อยู่ระหว่างการยกเลิกสัญญาและต้องรอฟังผลการพิจารณาจากคณะกรรมการว่าด้วยการพัสดุด้วยวิธีทางอิเล็กทรอนิกส์ (กวพอ.) ของกรมบัญชีกลาง ซึ่งบริษัท สุพรีม ดิสทิบิวชั่น (ไทยแลนด์) จำกัด ได้ยื่นอุทธรณ์ว่าจะสรุปผลเช่นไรจึงดำเนินการต่อได้หากต้องเปิดประมูลใหม่คาดว่าใช้เวลาไม่นาน

ทั้งนี้ เมื่อการดำเนินการของปีการศึกษา 2556 เรียบร้อย ศธ.จะมีการประชุมสรุปบทเรียนที่ผ่านมาทั้ง 2 ปีงบประมาณ (2555-2556) ว่าการจัดซื้อจัดจ้างที่ผ่านมามีข้อดีข้อเสียและอุปสรรคอย่างไร เพื่อหาแนวทางแก้ไข โดยเฉพาะสิ่งสำคัญคือเรื่องของความล่าช้า ซึ่งยอมรับเป็นเรื่องที่แก้ยาก เพราะตามระเบียบการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ หรือ อีออกชัน มีการกำหนดกฎเกณฑ์ที่รัดกุมเพื่อป้องกันการล็อกสเปกและการสมยอม หากมีการร้องเรียนหรือทักท้วงก็ต้องตรวจสอบและชี้แจงข้อเท็จจริง ซึ่งมักจะใช้ระยะเวลา และส่งผลกระทบต่อนักเรียนที่ทำให้อุปกรณ์ไปถึงเด็กช้ามาก บางครั้งข้ามปีงบประมาณก็ยังดำเนินการไม่เสร็จ อีกประเด็นเป็นเรื่องของคุณสมบัติจะต้องพิจารณาว่าจะสามารถกำหนดมีสเปกที่มีคุณสมบัติสูงขึ้นได้หรือไม่ เพื่อรองรับแอปพลิเคชันต่างๆ ที่จะต้องพัฒนามากขึ้น ซึ่งต้องมองไปถึงความก้าวหน้าในเทคโนโลยีอีก 2-3 ปีข้างหน้าด้วย

“สำหรับข้อเสนอที่จะให้มีการใช้คูปองแทนเป็นเพียงแนวคิดที่คิดว่าเด็กบางส่วนที่ครอบครัวมีฐานะก็อาจจะมีความต้องการแท็บเล็ตที่มีขีดความสามารถสูงขึ้นเพื่อการใช้ประโยชน์ที่มากขึ้น จึงคิดว่าน่าจะให้เป็นคูปองแทนเพื่อนำไปซื้อในสเปกที่ต้องการโดยเพิ่มเงินส่วนต่างเอง แต่ไม่เกี่ยวกับการเปลี่ยนเป็นคูปองเพราะต้องการแก้ปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างที่เกิดปัญหาขึ้นรวมถึงงบประมาณการจัดซื้อที่ไม่เพียงพอ อย่างไรก็ตาม เรื่องนี้ยังไม่มีข้อสรุปเป็นเพียงแนวคิดของผู้เกี่ยวข้องบางส่วนเท่านั้น ซึ่งในแนวคิดที่ดีก็อาจจะยังมีปัญหา โดยเฉพาะความรู้สึกของเด็กที่อาจจะเกิดการเปรียบเทียบ ซึ่งยังมีรายละเอียดต่างๆ ที่ต้องพิจารณาประกอบด้วย คงต้องสำรวจความคิดเห็นของเด็ก ผู้ปกครอง รวมถึงความพร้อมต่างๆ หากจะเปลี่ยนแปลงมาใช้คูปองแทน แต่เชื่อว่าเด็กส่วนใหญ่อาจจะไม่มีความพร้อมหรือฐานะที่จะจัดซื้อเอง แนวคิดดังกล่าวจึงรองรับได้เฉพาะเด็กส่วนน้อย ดังนั้นคิดว่าคงเป็นไปได้ยากที่จะใช้คูปองแทน”นายจาตุรนต์ กล่าว