xs
xsm
sm
md
lg

“อภิสิทธิ์” บี้ พณ.แจงงบจำนำข้าวให้ชัด ชาติเสี่ยงนำทุนสำรองกู้ ฉะ “แม้ว” โม้ใช้หนี้ IMF

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์(แฟ้มภาพ)
“มาร์ค” ดักคอ “นิวัฒน์ธำรง” แจง 2.7 แสนล.จำนำข้าวให้ชัด อย่าเอาแต่จ้อ จี้ ทำตามคำแนะแก้ขาดทุนเงินไม่ถึงชาวนา ย้ำ ธ.ก.ส.ทราบข้อมูลดีอย่าแถ ฟันธงข้าวฤดูกาลนี้หนักกว่าเดิม ดักมีข่าวปล่อยน้ำท่วมล้มจำนำ ย้ำควรยุบโครงการ แต่รัฐห่วงฐานเสียง ติง ล้วงทุนสำรองระหว่างประเทศ ตั้งกองทุนปล่อยกู้เอง ชาติเสี่ยงหนัก ฉะ ขาดทุนยับบุญเก่าใกล้หมด ซัด “นช.แม้ว” โกหกสร้างสุวรรณภูมิ-ใช้หนี้ IMF ย้ำ “ชวน” หยุดเบิกจ่ายเก็บเงินใช้หนี้

วันนี้ (10 ต.ค.) นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาผู้แทนราษฎร กล่าวถึงกรณีที่ นายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์ ยังยืนยันว่ามีเงิน 2.7 แสนล้านรับจำนำข้าวสวนทางกับที่ ธ.ก.ส.ออกมาให้ข้อมูลว่ามีเงินไม่พอว่า นายนิวัฒน์ธำรง จะยืนยันด้วยคำพูดเปล่าๆ ไม่ได้ ต้องมีการกำหนดให้ชัดว่าแหล่งเงินทุนที่จะใช้ในโครงการมาจากไหน เพราะผู้ปฏิบัติมีความกังวลมากว่าไม่มีความชัดเจนและกติกาที่เคยวางว่ากรอบวงเงินใช้ 5 แสนล้านตอนนี้ก็เกินไปแล้วและเปลี่ยนแปลงได้ตามใจชอบตลอดเวลาจึงเป็นปัญหาในเรื่องความมั่นใจ ความแน่นอน อีกทั้งรัฐบาลปฏิเสธไม่ได้ว่าทุกภาคส่วนได้ทักท้วงมาโดยตลอดว่ากำลังมีผลกระทบการขาดทุนมหาศาลขณะที่เงินไปถึงชาวนาไม่ถึงครึ่ง ทำไมไม่แก้ไขและรัฐมนตรีก็ยังไม่แสดงความเข้าใจในเรื่องนี้ กลับมาคอยปฏิเสธหลักฐานจากตัวเลขของราชการเอง จะให้ฟังเฉพาะกระทรวงพาณิชย์กับกระทรวงการคลังไม่ได้ เพราะการบริหารเรื่องนี้ ครม.กรรมการนโยบายข้าวฯ จะต้องเป็นผู้มองเห็นภาพรวม อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์จะถือตัวเองเป็นใหญ่ว่า ไม่ให้ข้อมูลกระทรวงการคลัง ไม่ยอมรับฟัง ก็บริหารไม่ได้ นอกจากนี้คนที่ทราบข้อมูลดีที่สุดก็คือ ธ.ก.ส.ซึ่งรัฐบาลเป็นผู้มอบหมายให้ดำเนินโครงการนี้จึงต้องทราบว่าจะมีเงินขาดเหลืออย่างไร

“ผมมั่นใจว่าการจำนำข้าวฤดูกาลนี้จะมีปัญหาหนักกว่ารอบก่อนๆ ในเรื่องที่ว่าเงินไม่ไป เพราะที่ผ่านมาเงินก็ไปล่าช้าหรือไม่ไปก็มีแต่ว่าจะหนักหน่วงมากขึ้น เพราะความไม่มั่นใจในเรื่องแหล่งเงินทุน แต่ที่มีการตั้งข้อสังเกตว่าปล่อยน้ำท่วมเพื่อจะได้ไม่มีผลผลิตไปจำนำนั้น ผมก็ไม่ทราบว่าจะกล้าคิด กล้าทำ ขนาดนั้นหรือไม่ แต่ตอนนี้น้ำท่วมเกษตรกรเดือดร้อน ประชาชนก็ค่าครองชีพสูง กลับไม่เห็นรัฐบาลกระตือตือร้นที่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ ซึ่งผมเห็นว่าโครงการจำนำข้าวควรถึงจุดจบไปนานแล้วและปรับวิธีการช่วยเกษตรกรใหม่แต่รัฐบาลอาจจะห่วงเรื่องหน้าตา เรื่องการเมืองจึงไม่ยอมทำ ไม่ยอมรับความจริง ไม่บอกความจริงกับประชาชน” นายอภิสิทธิ์ กล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ระหว่างจุดจบจำนำข้าวกับจุดจบประเทศอะไรจะเกิดก่อนกันเพราะสัญญาณทางเศรษฐกิจก็ถดถอยต่อเนื่อง นายอภิสิทธิ์ กล่าวว่า ปัญหาสะสมและรัฐบาลก็พยายามหาแหล่งเงินใหม่ไปล้วงมาใช้ซึ่งอันตรายมาก การนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาใช้เพื่อให้รัฐบาลกู้เงิน 2 ล้านล้าน มาทำโครงการที่รัฐบาลก็รู้ว่าไม่คุ้มทุนจะมีความเสี่ยงอย่างมาก ผิดหลักวินัยการเงินการคลัง และอันตรายมาก ต่อไปจะเกิดความสับสนในการทำหน้าที่ของการบริหารเศรษฐกิจด้วย เพราะจะมีเรื่องของความเป็นเจ้าหนี้ ลูกหนี้เข้ามาเกี่ยวข้อง ซึ่งหากรัฐบาลจะทำจริงๆ ก็ต้องแก้กฎหมาย แต่ตนยังคิดว่ารัฐบาลจะทำไม่สำเร็จ เพราะตนมั่นใจว่าคนในแบ๊งก์ชาติจะบอกความจริงกับรัฐบาลว่าสิ่งที่คิดไม่ใช่สิ่งควรทำ แม้ว่าจะมีการเปลี่ยนชื่อจากกองทุนมั่งคั่งเป็นกองทุนแห่งโอกาสก็ไม่มีผลอะไร เพราะความสำคัญไม่ได้อยู่ที่ชื่อแต่อยู่ที่แหล่งเงินและการใช้เงินคืออะไร

อย่างไรก็ตามหากรัฐบาลนำเงินทุนสำรองระหว่างประเทศมาตั้งกองทุนปล่อยกู้ให้รัฐบาลจริงก็จะทำให้ประเทศชาติเข้าสู่ความเสี่ยงมากขึ้น เพราะบริหารมาสองปีในขณะที่ภาวะเศรษฐกิจไม่มีข้อจำกัด แต่ทำให้หนี้สาธารณะเพิ่มขึ้นและจะกู้อีก 2 ล้านล้าน 3.5 แสนล้านในขณะที่บริหารแล้วไม่ปรากฏว่าทำให้เศรษฐกิจขยายตัวดีขึ้นหรือขีดความสามารถการแข่งขันของประเทศดีขึ้น ดังนั้นการเพิ่มความเสี่ยงเข้าไปเรื่อยๆ จึงอันตราย

“รัฐบาลกินบุญเก่าใกล้หมดแล้ว เพราะสิ่งที่เคยอ้างว่าทุนสำรองเยอะเกินดุลการค้า เกินดุลบัญชีเดินสะพัด หนี้สาธารณะไม่สูง ขณะนี้เงื่อนไขเหล่านี้ก็เริ่มหมดไปแล้ว เพราะหนี้สาธารณะกระโดดขึ้นอย่างชัดเจน การขาดดุลการค้า ขาดดุลบัญชีเดินสะพัดเริ่มมีให้เห็น ซึ่งจะกระทบทุนสำรองระหว่างประเทศต่อไป ส่วนที่ พ.ต.ท.ทักษิณ ขุดเรื่องสร้างสุวรรณภูมิและล้างหนี้ไอเอ็มเอฟมาเป็นผลงานนั้น ก็เป็นการไม่พูดตามข้อเท็จจริง เพราะการใช้หนี้ไอเอ็มเอฟก็เคยยอมรับกันกลางสภาแล้วว่า กู้มาใช้หนี้ แต่ความจริงรัฐบาลชวนคือผู้หยุดการเบิกเงินก่อนกำหนด และเก็บเงินไว้เพื่อใช้หนี้” นายอภิสิทธิ์ กล่าว


กำลังโหลดความคิดเห็น