เกาะกระแส
00 แม้ว่าเมื่อวันเสาร์ 28 กย.ที่ผ่านมา พรรคเพื่อไทยและ สว.สายข้าทาสสวนใหญ่จะขยันขันแข็งแม้กระทั่งวันหยุด ลงมติโหวตร่างแก้ไข รธน.เกี่ยวกับประเด็นที่มา สว.นั่นคือให้ สว.มาจากการเลือกตั้งทั้งหมด 200 คน เป้าหมายเพื่อให้ทันกำหนดการเลือกตั้ง สว.ชุดใหม่ภายในเดือนมีนาคมปีหน้ากันเสียเลย อย่างน้อยเท่าที่เห็นก็จะมี นิคม ไวรัชพานิช ประธาน สว.คนปัจจุบันก็จะได้ลงสมัครเลือกตั้งรับใช้คนแปดริ้วได้ต่อเนื่องแบบไม่ต้อง "เว้นวรรค" ให้เสียจังหวะ และที่สำคัญหากมองจากหน้าตาที่ออกไปทาง "ไข่"เข้าไปทุกทีแล้ว ส่วนจะเป็น"ไข่ข้างซ้าย"หรือ "ไข่ข้างขวา" นาทีนี้ถือว่า สมบ ทบาทหน้าที่หัวหน้า "สภาทาส"ตามที่ชาวบ้านเขาค่อนขอดได้อย่างเต็มตัวแล้ว
00 แน่นอนว่าเมื่อพิจารณาจากประชาธิปไตยตัวเลขมันก็แหงอยู่แล้วที่เมื่อรวมกันระหว่าง สส.พรรคเพื่อไทยและ สว.ต่างตอบแทน เมื่อยกมือคราวใดก็ต้องชนะวันยังค่ำ และคราวนี้ก็ย่อมไม่พลาดชนะเสียงขาดลอยตามเคย แต่นั่นไม่ใช่ปัญหา ปัญหามันจะเกิดตามมาหลังจากนี้มากกว่า ที่ต้องจับตามองอย่ากระพริบตาเป็นอันขาดว่า หลังจากที่มีการลงมติผ่านวาระสามไปแล้ว ทางประธาน"ค้อนเน่า" สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ จะทำอย่างไรต่อไป เพราะเมื่อลงมติวาระสามไปแล้ว ต่อไปนี้ทุกอย่างก็ต้องถูกบังคับเดินเข้าสู่ "กองไฟ"ทันที เพราะตามกฎหมนยบังคับว่าต้องส่งให้นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นำข้นทูลเกล้าฯภายใน 20 วัน แต่ปัญหาก็คือเมื่อ ศาลรธน.รับเรื่องจาก สส.-สว.รวมไปถึงองค์กรภาคประชาชนที่เสนอให้ตีความว่าการแก้ไข รธน.ในประเด็นที่มา สว.นั้นมิชอบส่อไปในทางทำลายการปกครองในระบอบประชาธิปไตยฯ ตามมาตรา 68 รวมไปถึงการที่ศาลรธน.รับเรื่องที่ สส.ปชป.ร้องให้ตีความว่าการลงมติในเรื่องดังกล่าวเป็นโมฆะและขีดกม.เพราะมีการเสียบบัตรลงคะแนนแทนกัน
00 แต่แทนที่ รัฐบาล พรรคเพื่อไทย และสว.ขี้ข้าจะหยุดฟัง "ชะลอ"การลงมติวาระสามเอาไว้ก่อน กลับไม่สนใจ ตรงกันข้ามยังมีเจตนาท้าทายศาล โดยอ้างว่า ศาลไม่มีอำนาจมาขัดขวางการโหวตของสภา เรียกว่า "ท้ารบ"กันเต็มกำลัง เพราะถือดีว่ามีพวกมาก ไม่ต้องสนใจหน้าไหนทั้งสิ้น คิดว่าถ้า "ทักษิณ ชินวัตร" ที่เป็นเจ้านายสั่งให้ทำก็ต้องเชื่อฟัง และยิ่งถ้าแสดงถ่อยเถื่อนต่อศาลได้มากเท่าใดก็ยิ่งได้ใจ แถมยังมีรางวัลในภายหน้าตามมาอีก
00 เมื่อความผิดสำเร็จแล้ว และตามไฟท์บังคับก็ต้องเดินหน้าลูกเดียว ทั้งตัวประธานรัฐสภา คือ สมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานวุฒิสภา นิคม ไวรัขพานิช สมาชิรัฐสภาที่ลงมติทั้งหมด และถัดมาก็เป็นใครไม่ได้นอกจาก นายกฯ ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ที่จะต้องนำร่างแก้ไขรธน.ขึ้นทูลเกล้าฯตามกำหนด ทั้งที่ "มีเรื่องด่างพร้อย" เป็นการกดดันพระเจ้าอยู่หัว และถ้าเปิดกรณีที่ "ไม่โปรดเกล้าฯ"ลงมาละ จะทำอย่างไร จะให้รัฐสภาโหวตยืนยันอีกหรือเปล่า เอาขั้นตอนแค่นี้ก่อน แค่นี้ก็ไม่กล้าหลับตานีกภาพในตอนนั้นแล้ว เพราะมันสยดสยองจริงๆ ก็ยังไม่รู้ว่า "นารีที่ต้องถูกบังคับให้เดินลุยไฟ"ผลจะออกมาเป็นไง อีกไม่กี่วันก็รู้ชะตากรรมกันแล้วพี่น้อง !!
00 ตอนแรกนึกว่าไม่มีอะไรน่าเลวร้ายมากนักสำหรับน้ำท่วมในปีนี้ เพราะน้ำคงมาน้อย ไม่ค่อยมีพายุลูกใหญ่กระหน่ำเข้ามา แต่ที่ไหนได้กลับเข้ามาแบบเน้นๆในภาคอีสาน และตะวันออก รวมทังภาคเหนือบางส่วน เป็นลักษณะของฝนที่เข้ามาเต็มๆ และในสัปดาห์นี้ยังมีลุ้นพายุใต้ฝุ่นลูกใหญ่จากทะเลจีนใต้ จากเวียดนามเข้ามาทางเส้นทางเดิมมิหนำซ้ำยังแถม "ภาคกลาง"เข้าไปอีก ดูอาการแล้ว"คงอ่วม" น้องๆปี 54 เหมือนกันนะ ทำเป็นเล่นไป แล้วงานนี้ก็ต้องดูฝีมือการบริหารจัดการน้ำของ "พญาปลอด" ปลอดประสพ สุรัสวดี ที่ย้ำว่า "เอาอยู่" นั้นจะเอาอย่างไร หรือแม้แต่การที่ นายกฯเที่ยวเดินสายไปชี้นิ้วสั่งการแบบบูรณาการ ต้นน้ำ-ปลายน้ำ มันจะแก้ปัญหาได้จริงแค่ไหน คราวนี่จะไปโทษอำมาตย์ปล่อยน้ำแกล้งก็คงไม่ได้แล้ว ต้องของจริงกันล้วนๆ แต่ขณะเดียวกันก็ให้ระวัง "ข้ออ้างสร้างเขื่อน"ช่วงน้ำท่วม เพราะมันจะมาแบบนี้ทุกปีสิน่า
00 เรื่องที่ไม่น่าจะเป็นเรื่องมันก็ทำให้เป็นเรื่องขึ้นมาจนได้ กับการที่ช่อง 9 อสมท.สั่นแบบรายการ"ฅนค้นฅน"ตอน "เขื่อนแม่วงก์" อ้างว่าเป็นการให้ข้อมูลที่ไม่สมดุล ก็ไม่รู้ว่าเป็นฝีมือใครที่ "สารแน"ระหว่างการเมืองในรัฐบาลสั่งแบน หรือว่า การเมืองในอสมท.เจ้ากี้เจ้าการอาสาเอาใจนายขยันเกินเหตุ หรือว่าทั้งสองกรณีรวมกัน ก็ไม่รู้ แต่งานนี้มันก็ยิ่งทำให้รัฐบาล "ติดลบ"หนักกว่าเดิม และทำให้นอกจากสร้างเขื่อนแม่วงก์หรือเขื่อนอื่นๆไม่ได้แล้ว ยังทำให้ภาพของรัฐบาล "ปิดหูปิดตาประชาชน" กลายเป็นศัตรูกับชาวบ้านขยายวงมากขึ้น ขยายวงมาจากเรื่อง "ของแพง" และการแก้ปัญหาห่วยแตกทุกเรื่องยิ่งมีอารมณ์ร่วมมากขึ้นเรื่อยๆ แต่เอาเป็นว่ารอลุ้นทีละขั้นตอนก่อนว่า ยิ่งลักษณ์ และพวกจะผ่านด่าน วิกฤติแก้รธน.สร้าง"สภาผัวเมีย"ไปได้อย่างไร รอลุ้นตรงนี้ก่อนดีกว่า !!