ครม.เห็นชอบการบินไทยทุ่มเงิน 1,800 ล้านบาท ตั้งบริษัทลูก สายการบินไทยสมายล์แอร์เวย์ มีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ตั้งเป้าเป็นสายการบินภูมิภาค เส้นทางในประเทศ อาเซียน จีน อินเดีย
ร.ท.หญิง สุณิสา เลิศภควัต รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี แถลงว่า ครม.เห็นชอบให้บริษัทการบินไทย จำกัด (มหาชน) ดำเนินโครงการลงทุนจัดตั้งสายการบินไทยสมายล์แอร์เวย์ วงเงินลงทุน 1,800 ล้านบาท โดยให้จดทะเบียนเป็นนิติบุคคล และมีฐานะเป็นรัฐวิสาหกิจ ซึ่งมี บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 100 เป็นหุ้นสามัญ จำนวน 180 ล้านหุ้น มูลค่าหุ้นละ 10 บาท
โดยจะใช้เงินลงทุนของบริษัท การบินไทย ปี 2556 จำนวน 450 ล้านบาท และ ปี 2557 จำนวน 1,350 ล้านบาท แต่ไม่ต้องนำหลักเกณฑ์หรือข้อบังคับที่บังคับใช้กับรัฐวิสาหกิจทั่วไปมาใช้บังคับกับบริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด พร้อมทั้งให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องอำนวยความสะดวกในการขอรับอนุมัติและใบอนุญาตต่างๆ ที่จำเป็นในการประกอบกิจการ ในส่วนของรูปแบบการดำเนินธุรกิจ คือ การขนส่งผู้โดยสารภายในประเทศและระหว่างประเทศในภูมิภาคอาเซียน จีนและอินเดีย มีระยะทางการบินไม่เกิน 4 ชั่วโมงบิน และตั้งเป้าให้เป็นสายการบินภูมิภาคที่ให้บริการอย่างมีคุณภาพ และมีมาตรฐานการให้บริการที่ดีเยี่ยม ใกล้เคียงกับสายการบินไทย มีภาพลักษณ์ที่สดใส ทันสมัย เป็นมิตร คุ้มราคาน่าเชื่อถือด้านความปลอดภัย และตรงต่อเวลา
ทั้งนี้ ร้อยละ 30 ของกลุ่มผู้โดยสารเป้าหมายจะเป็นลูกค้าที่เชื่อมต่อเที่ยวบินจากสายการบินไทย ส่วนราคาค่าโดยสารชั้นประหยัดระหว่างประเทศ จะถูกกว่าสายการบินไทย ร้อยละ 20 แต่เที่ยวบินในประเทศ ชั้นประหยัดราคาเท่ากับ ชั้น Q class ของสายการบินไทย ในส่วนของบุคลากร เบื้องต้นคาดว่าจะมีพนักงานทั้งสิ้น 537 คน ในปี 2556 และเพิ่มขึ้นเป็น 892 คน ในปี 2560 อัตราเงินเดือนเบื้องต้นจะอ้างอิงจาก บริษัท การบินไทย โดยพนักงานรับผิดชอบชำระภาษีเงินได้เอง
สำหรับฝูงบินประกอบด้วย เครื่องบินลำตัวแคบแบบ A320-200 โดยมีแผนรับมอบเครื่องบินจากการบินไทย ระหว่างปี 2555-2560 จำนวน 20 ลำ ในขณะที่แผนเส้นทางบิน ในปี 2557 จะบินทดแทนการบินไทย ในเส้นทาง จ.เชียงราย ขอนแก่น สมุย โคลัมโบ พุทธคยา พาราณสี และจะเปิดจุดบินใหม่ที่หลวงพระบาง เสียมราฐ และเที่ยวบินเชียงใหม่-ฮ่องกง รวม 372 เที่ยวบินต่อสัปดาห์ โดยการบินไทยจะโอนเส้นทางบินในภูมิภาค จำนวน 14 เส้นทางให้ไทยสมายล์แอร์เวย์ ซึ่งคิดเป็นผลตอบแทนเป็นมูลค่าปัจจุบัน (Net Present Value : NPV) ประมาณ 11,179 ล้านบาท และอัตราผลตอบแทนการลงทุน IRR) เท่ากับร้อยละ 24.9 ที่อัตราคิดลด (Discount Rage) ร้อยละ 7.5 และมีจุดคุ้มทุนระยะเวลา 2 ปี โดยคาดว่าจะมีอัตราการบรรทุกผู้โดยสารเฉลี่ย ร้อยละ 75 และจะมีกำไรสุทธิในปี 2560 จำนวน 1,946 ล้านบาท โดยจะเริ่มทำการบินด้วยรหัสเที่ยวบินใหม่ของสายการบินไทยสมายล์แอร์เวย์ ตั้งแต่มกราคม 2557