“บรรหาร” ถึงบ้านพระอาทิตย์ อ้างมาประสานเพราะรู้จักคนมาก ไม่ถือเอเอสทีวีด่า ยันไม่ได้เป็นปลาไหล “จำลอง” ซัดพรรครัฐบาลตัวเริ่มปมขัดแย้ง แนะยกเลิกสร้างปัญหา “สนธิ” ถาม “ทักษิณ” หนีคดีควรกลับมาติดคุกมั้ย สงสัยพี่ต้นตอปัญหาหรือเปล่า แนะทำเพื่อชาติก่อนตายให้ลือลั่นไม่ใช่เครื่องมือนักโทษ เจ้าตัวป้อง “แม้ว” ไม่ได้ทำผิดเลยไม่กลับไทย การันตี “ปู” ปฏิเสธชักใยบางเรื่อง ยันนิรโทษไม่ทำเพื่อแม้วแน่ แต่ไม่ตอบถ้าสภาโหวตช่วย
วันนี้ (11 ก.ย.) เมื่อเวลา 10.54 น. ที่บ้านพระอาทิตย์ นายบรรหาร ศิลปอาชา อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาถึงที่ทำการ นสพ.ASTVผู้จัดการ โดยมีนายสนธิ ลิ้มทองกุล และ พล.ต.จำลอง ศรีเมือง อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ให้การต้อนรับ โดยเป็นการสนทนาแบบเปิดเผยให้ผู้สื่อข่าวได้เข้ารับฟัง พร้อมทั้งมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์เอเอสทีวีและเว็บไซต์เอเอสทีวีผู้จัดการด้วย
ทั้งนี้ ก่อนเริ่มการสนทนา นายบรรหารได้ทักทายนายสนธิ และ พล.ต.จำลอง พร้อมกับระบุว่านายสนธิ เวลาผ่านไปไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่นายสนธิตอบกลับว่า นายบรรหารต้องไม่โกรธในสิ่งที่ตนพูด ซึ่งนายบรรหารตอบกลับมาว่าไม่โกรธ ขณะที่ พล.ต.จำลองระบุว่า 33 ปีที่ไม่ได้พบกัน ต้องขอบคุณนายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุล ที่ติดต่อมา แต่ตนได้ตอบกลับว่า นายบรรหารอาวุโสกว่าคงไม่เหมาะหรอก ขณะที่นายบรรหารตอบกลับว่า ที่ต้องมาคุยเพราะเห็นเป็นคนสำคัญ
นายสนธิกล่าวว่า นายบรรหารคือคนที่ 2 ที่ตนพบด้วย คนแรกก็คือ พล.ต.สนั่น ขจรประศาสน์ อดีตรองนายกรัฐมนตรี ในฐานะเพื่อนที่สนิทกันมา
นายบรรหารกล่าวว่า ตนมาในฐานะผู้ประสานงานเพื่อทำให้บ้านเมืองเกิดความสงบเรียบร้อย ตนอายุ 82 ปีแล้ว คงจะอยู่อีกไม่กี่ปี ก็อยากจะทำประโยชน์ให้ลูกหลานบ้าง โดย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นคนโทร.มาหาเองว่าอยากจะทำการปฏิรูปบ้านเมืองให้ทุกฝ่ายมาเปิดใจคุยกันไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาล และขอให้ตนเป็นผู้ประสาน เพราะรู้จักคนจำนวนมาก ตนดูเอเอสทีวีมาตลอด ว่าอะไรตนบ้างก็รู้ แต่ตนไม่ถือเพราะคิดว่าให้พร ตนมาวันนี้เพื่อมาหาทางออกให้ประเทศชาติ
นายบรรหารกล่าวต่อว่า เหตุการณ์ในวันนี้ตนถือว่ารับไม่ได้ ในสภาก็รับไม่ได้ ระบุมาด้วยความจริงใจไม่เข้าข้างรัฐบาล ตนฐานะพรรคร่วมรัฐบาลต้องยอมรับการจัดตั้งรัฐบาลต้องมีพรรคการเมืองร่วม ในตอนนั้นพรรคชาติไทยพัฒนาก็ต้องทำทุกอย่างให้บ้านเมืองเดินหน้าต่อไปได้ ไม่ได้คิดจะเป็นปลาไหล อายุป่านนี้แล้วก็อยากจะทำอะไรให้บ้านเมืองบ้าง
ด้าน พล.ต.จำลอง กล่าวขอบคุณนายบรรหารที่ขอเข้าพบยอมลดตัวเป็นผู้ประสาน และถือว่าเป็นผู้อาวุโสกว่า เพราะทราบว่าต้องพบกับนายสนธิด้วย จึงให้มีการพบปะกันทีเดียว พร้อมระบุถึงการที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์เสนอการปฏิรูปนั้นเพราะบ้านเมืองมีความขัดแย้งเกิดขึ้น ซึ่งมันก็มาจากการกระทำของพรรครัฐบาลที่เป็นคนก่อ เช่น แก้รัฐธรรมนูญ ออกกฎหมายนิรโทษกรรม และก็คงไม่จำเป็นที่จะต้องตั้งสภาปฏิรูปอะไร เพราะสามารถแก้ได้เองที่ตัวของรัฐบาล พธม.มีความคิดไม่ได้ต้องการทำเพื่อตัวเอง แต่คิดปกป้องสถาบันและชาติเท่านั้น และก็คงไม่มีกลุ่มใดในโลกที่จะทรหดเหมือนกับ พธม.อีกแล้ว ย้อนจุดยืนตนต่อสู้กับความไม่ถูกต้องมาตั้งแต่อดีต เคยเขียนจดหมายเปิดผนึกถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร ให้นำเงินที่เลี่ยงภาษีมาชำระเพื่อช่วยเหลือคนจน แต่ไม่เป็นผล จึงเข้าร่วมกับประชาชนต่อต้าน และได้ขอให้กลับมารับโทษในช่วงที่อยู่ต่างประเทศหรือไม่ก็อยู่เงียบๆ อย่าเคลื่อนไหว เจ้าตัวก็ไม่ทำ ขณะเดียวกัน พธม.ไม่ผูกขาด พวกตนไม่ใช่แกนนำ เพราะฉะนั่นนายกฯควรที่จะแก้ปัญหาที่ต้นตอ อะไรที่ทำอยู่ก็ยกเลิกซะง่ายจะตาย ไม่ต้องเดือดร้อนนายบรรหารด้วย มันเสียเวลา
นายสนธิกล่าวว่า ตนยินดีต้อนรับ และขอถามคำถามพี่บรรหาร 4-5 ข้อว่า นายบรรหาร คิดว่า พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร นักโทษหนีคำพิพากษาศาลฎีกา ควรจะกลับมาติดคุกหรือไม่ และจะนิรโทษกรรมให้ พ.ต.ท.ทักษิณ ต้องนิรโทษกรรมให้นายประชา มาลีนนท์ อดีตรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ด้วยหรือไม่ ทำไมนักการเมืองและข้าราชการต้องบินไปหา พ.ต.ท.ทักษิณ และกลับมาพร้อมตำแหน่ง ตนจึงไม่เชื่อว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ มีอำนาจในการบริหารบ้านเมือง นายกฯ ตัวจริงคือ พ.ต.ท.ทักษิณ และสำคัญที่สุดนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร ไม่เคยแยกจากกันเป็นพวกเดียวกัน ข้อเท็จจริงปัจจุบันนี้ไม่มีประชาธิปไตยเลย ปัญหาในการปฏิรูปการเมืองคือ พ.ต.ท.ทักษิณ และตนไม่คิดว่า น.ส.ยิ่งลักษณ์ ฉลาด อะไรที่เขามาพูดกับนายบรรหาร เขาถูกลิสต์มาเรียบร้อยแล้ว การแสดงออกของรัฐบาลไม่ได้แสดงออกถึงความจริงใจในการแก้ปัญหา อย่างการต่ออายุราชการให้กับนายธาริต เพ็งดิษฐ์ อธิบดีกรมดีเอสไอ ก็เพราะนายธาริต สามารถเล่นงานฝ่ายตรงข้ามกลับได้ รวมไปถึงบทบาทของทั้งประธานสภา-วุฒิสภา
“ถ้าเขาคิดจะใช้พี่บรรหารเป็นเครื่องมือในเกมนี้ ถ้าเป็นแบบนั้นผมขอไม่เล่นด้วย และอยากถามพี่ด้วยว่า พี่คิดว่าตัวเองก็คือต้นตอขอปัญหาด้วยหรือไม่” นายสนธิกล่าว
นายสนธิกล่าวต่อว่า ทุกวันนี้ปัญหาเกิดขึ้นเพราะการเมือง เช่น การฉ้อราษฎร์อย่างนายประชา มาลีนนท์ ตนคิดว่าต้องมีการเมือง แต่ไม่ควรตัดสินกันด้วยเครื่องคิดเลขในสภา เสียงมากทำอะไรก็ทำได้ การเมืองต้องมีส่วนประกอบของการมีส่วนร่วมของทุกฝ่าย อย่าให้การเมืองเป็นการลงทุน นายบรรหารรู้ดีบ้านเมืองใกล้ล่มสลาย และพี่วัตร (นายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง) ก็รู้ เพราะอยู่ในวงการการเงิน เราใกล้ที่จะถึงปี 2540 อีกครั้งหนึ่ง ต่างที่ยุคนั้นแบงก์อ่อนแอ ยุคนี้แบงก์แข็งแรง ประชาชนอ่อนแอ ตนอยากให้นักการเมืองเสียสละ หยุดเล่นการเมืองสัก 2-3 ปี แล้วเรามาร่างกติกาให้ทุกคนเท่าเทียมกัน ภราดรภาพคนไทยต้องมีเท่ากัน สิทธิในกระบวนการยุติธรรมจะต้องเข้าถึงได้เหมือนกัน ที่สำคัญที่สุดคือหลักนิติรัฐ ถ้าไม่มีปฏิรูปอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์ แต่วันนี้ น.ส.ยิ่งลักษณ์ และ นช.ทักษิณ จะต้องถอยถ้าเขารักบ้านเมืองจริง นายบรรหาร ก็รู้จำนำข้าวเสียหาย ถ้าขึ้นศาลฎีกาฯต้องมีคนติดคุก และยังมีเงินกู้ 2 ล้านล้าน และจัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน พี่เป็นคนเก่ง รู้ว่าเมืองไทยจะหายใจแทบไม่ทัน มีที่ไหนในโลกน้ำมันแพงยังเฉย ถ้าทุกฝ่ายไม่ก้าวล่วงพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว อยู่กันแบบที่เป็นประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข เคารพหลักนิติรัฐ ลดช่องว่างระหว่างรายได้ ความยุติธรรม บ้านเมืองเราก็จะไม่มีสีอีก
นายสนธิกล่าวถึงการศึกษาไทยที่ตกอันดับว่า นายบรรหารทนได้หรือ กระทรวงศึกษาฯคือตัวการให้ชาติบ้านเมืองฉิบหาย ควรให้ท้องถิ่นบริหารการศึกษา ใช้ประชาชนมาคุมการทำงาน อบจ.เป็นจุดเริ่มกระจายอำนาจ งบประมาณไม่อยู่แค่ส่วนกลาง ไม่จำเป็นต้องตั้งรัฐมนตรี นายบรรหาร เป็นคนบอกเอง ส.ส.คนหนึ่งใช้งบ 20-30 ล้าน จะเอาทุนคืนที่ไหน ถ้างบอยู่ที่จังหวัดทั้งหมดถูกคุมด้วยคุณภาพของงานจากประชาชน ถ้าทำยังงี้จะไม่มี ทักษิณคนที่ 2 ไม่มีการรวบผูกขาดอำนาจอยู่ในไม่กี่ตระกูล
“ผมเห็นใจพี่ที่จะปฏิรูปการเมือง ผมกำลังบอกว่าพี่เป็นเครื่องมือเขา ที่ต้องการจะลดอุณหภูมิทางการเมืองลงมาเท่านั้น ไม่เคยคิดทักษิณ ตระกูลชินวัตร คิดปฏิรูปการเมืองแค่ต้องการยึดอำนาจต่อ งั้นต้องถามว่า พี่จะไปเป็นตัวประกอบของเขาอีกนานไหม นี่คือคำพูดที่มาจากใจ พี่ต้องไม่โกรธผม” นายสนธิกล่าว
พล.ต.จำลองกล่าวว่า เผยตนเป็นนักการเมืองไม่กี่คนที่เคยเป็นมาทุกอย่าง และพูดอยู่เสมอว่าคนที่จะเป็นนักการเมืองต้องเสียสละ ไม่ใช้มาตักตวงผลประโยชน์ และปัญที่นายกฯจะตั้งสภาปฏิรูป ถ้าทำตามข้อเสนอว่ารัฐบาลเองเป็นคนก่อเหตุ เรื่องแก้รัฐธรรมนูญ กฎหมายนิรโทษกรรม กู้ 3.5 แสนล้าน กู้ 2 ล้านล้าน ถ้าระงับแล้วปัญหาไม่เกิด ต้องแก้ต้นเหตุ นายบรรหารก็ไม่เดือดร้อน
นายสนธิกล่าวต่อว่า ตนกลัวว่านายบรรหารเสนอไปทางรัฐบาลจะไม่ทำตาม ข้อเท็จจริงคือ พ.ต.ท.ทักษิณอยู่เบื้องหลังรัฐบาล ตนอยากให้นายบรรหารทำอะไรสักอย่างเพื่อให้มันลือลั่นก่อนตาย เพื่อพิสูจน์ว่าไม่ได้เป็นเครื่องมือของทักษิณ ตนอยากขอนายบรรหาร ถ้าจริงใจต่อการปฏิรูป ในฐานะที่ร่วมรัฐบาลมาโดยตลอด ให้คนที่มองไม่ดีเห็น ตนอยากให้แสดงจุดยืนให้ชัดเจนเพื่อคนรุ่นหลังให้คนที่ไม่ได้มองในแง่ดีเพื่อพิสูจน์ว่าสู้เพื่อความถูกต้อง เพื่อชาติ เพื่อประชาชน
นายบรรหารชี้แจงว่า ตนทำด้วยความจริงใจ ไม่ได้เป็นเครื่องมือใคร ตอนนี้แค่เริ่มต้น ตอนจบจะเป็นอย่างไรก็ต้องรอดูต่อไปตอบไม่ได้ ตนไม่ได้แก้ตัวแทน บางอย่าง น.ส.ยิ่งลักษณ์ก็ไม่ได้เชื่อพี่ชาย เป็นข้อเท็จจริง ตนจึงเห็นถึงเจตนาของ น.ส.ยิ่งลักษณ์ ว่าดี แต่ปัจจุบันความเป็นธรรมในสังคมมันไม่มี ตนถูกแบน พรรคถูกยุบทั้งๆ ที่ไม่ได้ทำผิดมันสองมาตรฐานหรือไม่ ตนก็ถูกรังแกจากเรื่องบางอย่าง ทีนี้ก็พูดว่าทำไมทักษิณไม่เข้ามาประเทศไทย เพราะไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะไม่ได้ทำความผิดคดีที่ดินรัชดาฯ ในการเซ็นแทนภรรยา
ส่วนเรื่องออกกฎหมายนิรโทษกรรมเพื่อทักษิณ นายบรรหารระบุว่า ไม่น่าจะเป็นไปได้ และยืนยันว่าไม่สนับสนุนหากมีการแปรญัตติกฎหมายนิรโทษครั้งนี้เพื่อทักษิณ
นายสนธิจึงถามต่อว่า ถ้าสุดท้ายแล้วสภาจะนิรโทษกรรม หรือพยายามทำอะไรให้ พ.ต.ท.ทักษิณพ้นผิด พี่จะไม่เอาด้วยใช่หรือไม่
นายบรรหารทำสีหน้าเหวอก่อนพูดว่า ไม่ขอตอบ คำถามนี้ตอบยาก ถือเป็นเรื่องละเอียดอ่อน ขอดูเหตุการณ์จริง
ต่อมา พล.ต.จำลอง ขอกล่าวแทรกถึงคำที่นายบรรหารระบุว่าทักษิณบอกไม่ได้รับความเป็นธรรมว่า เชื่อไม่ได้ นายสนธิพูดต่อว่า เขาผิดกฎหมาย ป.ป.ช.มาตรา 100 พล.ต.จำลองกล่าวต่อว่า ช่วงสมัยเป็นหัวหน้าพรรคพลังธรรม พล.ต.ท.ทักษิณบอกกับตนว่าฐานะดีมาก แต่อยากเล่นการเมืองเพื่อบ้านเมือง ต่อมาเขาเสียเพราะโลภ และเปลี่ยนไปถ้าไม่เปลี่ยนทุกอย่างวันนี้จะดีมาก เพราะฉะนั้นจะฟังคุณทักษิณไม่ได้
นายบรรหารกล่าวต่อถึงกรณีข้าราชการ อาทิ ตำรวจ ทหาร เดินทางไปขอตำแหน่งว่า ตนก็ไม่ทราบที่เดินทางไป เห็นแค่ตามข่าว ไม่รู้ว่าจริงหรือเปล่า นายสนธิจึงยกตัวอย่างกรณี พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผบช.น.เดินทางไปให้ นช.ทักษิณติดยศ นายบรรหารระบุว่า อาจอาศัยความชอบคอรู้จักกันตนก็เคยทำ นายสนธิจึงแย้งว่าท่านไม่ได้เป็นนักโทษ มันต่างกัน
นายบรรหารกล่าวตอบคำถามว่า ทักษิณอยู่เบื้องหลังการสั่งการนายกฯ หรือไม่ว่า การที่ น.ส.ยิ่งลักษณ์ เชื่อแต่ พ.ต.ท.ทักษิณนั้น พ.ต.ท.ทักษิณ เป็นเพียงแค่ผู้เสนอแนะ ทำได้ นายกฯ ตัดสินใจอีกที เรื่องนี้เป็นเรื่องจริง พล.ต.จำลองระบุว่า แล้วคำพูดว่า “ทักษิณคิด เพื่อไทยทำ” น.ส.ยิ่งลักษณ์เป็นเพื่อไทยหรือเปล่า
ส่วนคำถามว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของปัญหาการเมืองหรือไม่ นายบรรหารกล่าวว่า ตนไม่อยากมีปัญหากับใครเลย ไม่โกรธใคร แม้กระทั่งนายชูวิทย์ นายสนธิกล่าวย้ำคำถามว่า ปัญหาที่ถามคือพี่เป็นส่วนหนึ่งที่อยู่ในระบบ ไม่คิดจะเปลี่ยนตัวเองหรือไม่ นายบรรหารระบุว่าตนเป็นนักการเมือง พรรคการเมืองตั้งมาอยู่ได้ ไม่ยอมให้ถูกดึงไปไหน และถ้าถูกยุบอีกที่ก็เตรียมชื่อไว้แล้วว่าเป็นพรรคชาติไทยก้าวหน้า ตนเคบเป็นทั้งรัฐบาล และฝ่ายค้าน ใช้วิธีอะลุ้มอล่วย พูดจากันได้ นี่คือความจริงใจ
นายบรรหารกล่าวต่อว่า ที่มาวันนี้ไม่ได้หวังว่าท่านทั้งสองคนจะเข้าร่วมสภาปฏิรูป แต่ตนอาจจะใช้อีกสภามาพูดคุยกันอีกก็ได้ แต่ตนขอยืนยันว่าตนมีความจริงใจที่จะให้ประเทศเดินหน้าเท่านั้น ส่วนข้อเสนอของตนที่จะให้กับรัฐบาลนั้น ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งว่ารัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ ตนก็ขอทำหน้าที่ของตัวเองเท่าที่ทำได้
นายสนธิจึงเสนอว่า รัฐบาลจะต้องหยุดใช้พรรคพวกอำนาจรัฐไปทำลายฝั่งตรงข้าม อย่างนายธาริต เป็นต้น
ด้านนายสวัสดิ์ หอรุ่งเรือง กล่าวว่า วันนี้เป็นเรื่องน่าเกลียดมากสำหรับประเทศเรา เคยเป็นเพื่อนกันมา เมื่อเวลาเปลี่ยนคนก็เปลี่ยน ต่างคนต่างก็ไปทำหน้าที่ของตัวเอง มาวันนี้เป็นเรื่องที่ดีที่เราได้กลับมาพูดคุยกัน ตนอยากจะให้สังคมไทยเลิกดัดจริต นักการเมืองต้องใช้ความดีมาหาเสียง ไม่ใช่การใช้เงิน ถ้าหากประเทศเรามีการเลือกตั้งผู้ว่าราชการทุกจังหวัดประเทศเราจะแย่มากกว่านี้อีก
พล.ต.จำลองจึงกล่าวเสริมว่า ใช่ ไม่เช่นนั้นอำนาจของเงินในการซื้อเสียงจะยิ่งทำให้คนกลุ่มหนึ่งสามารถคุมประเทศได้ทั้งหมด และยังจะนิรโทษกรรมให้กับคนผิดในสภาโดยใช้เสียงข้างมากแบบที่เป็นอยู่
ผู้สื่อข่าวถามว่า กระแสข่าวที่ผ่านมากฎหมายนิรโทษกรรมที่อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของสภา น.ส.ยิ่งลักษณ์ไม่เคยพูดว่าพี่ชายจะไม่ได้รับอานิสงส์ด้วยมีความเห็นอย่างไร นายบรรหารได้ให้นายสมศักดิ์ ปริศนานันทกุลตอบ โดยนายสมศักดิ์กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้พูดคุยกันจะเห็นว่าการนิรโทษกรรมไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ซึ่งนายบรรหาร กล่าวเสริมว่า ถ้าถึงเวลานั้นจริงๆ พรรคร่วมก็จะต้องหารือกันอีกที
ต่อมาได้มีผู้สื่อข่าวถามนายบรรหารว่า ตลอดชีวิตนี้จะไม่เปลี่ยนอุดมการณ์ทางการเมืองใช่หรือไม่ แต่นายบรรหารระบุว่า คำถามนี้กว้างเกินไป นายสนธิจึงขอถามให้แคบลง โดยถามว่า ท่านจะขอร่วมรัฐบาลกับทุกรัฐบาลต่อไปใช่ไหม นายบรรหารตอบว่าไม่ ตนก็เคยเป็นฝ่ายค้าน
ทั้งนี้ นายบรรหารได้มอบปากกาที่ทำขึ้นในวันเกิดของตัวเองให้แก่นายสนธิ และ พล.ต.จำลอง ก่อนจะเดินทางกลับด้วย