วิชามาร-ต้มชาวสวนยาง !!

เกาะกระแส

00 ไม่รู้รัฐบาลโดย รมว.คลัง กิตติรัตน์ ณ ระนอง เกิดอาการหน้ามืดจากภาวะ "ถังแตก"หรือเปล่า เพราะที่ผ่านมาได้ยกโขยงกันไปร่วมขบวนที่นำโดย รองนายกฯฝ่ายความมั่นคงที่ได้รับมอบหมายให้เป็นหัวหน้าเจรจาเรื่องปัญหายางพารากับเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ที่นครศรีฯเมื่อสุดสัปดาห์ก่อน แล้วอาศัยช่วงชุลมุนใช้เล่เหลี่ยมหักดิบมั่วซั่วว่าชาวสวนยอมรับความช่วยเหลือจากรัฐบาลเข้าไปแทรกแซงราคาที่กก.ละ 90 บาท ทำเอามึนไปพักหนึ่ง แต่ก็กัดฟันยอมรับ เพราะมีเพื่อนเกษตรกรบางส่วนถลำตัวยอมรับและยกเลิกการปิดถนนกันไปบ้างแล้ว แต่ล่าสุดก็"พลิกลิ้น"อีกแล้ว เพราะกลายเป็นว่าทั้ง กิตติรัตน์ และ รมว.เกษตรฯ มาถึงกรุงเทพฯเข้าประชุมกนย.ออกมายืนยันว่า "ไม่แทรกแซงราคา"แต่จะช่วยเหลือในการลดต้นทุนการผลิตช่วยเรื่องค่าปุ๋ย จากเดิมไร่ละ 1,260 บาท เพิ่มให้เป็นไร่ละ 2,520 บาท จำนวนไม่เกินรายละ 25 ไร่ อ้างว่าเมื่อคำนวณตามราคาตลาดเวลานี้กก.ละ 79 บาทบวกกับค่าปุ๋ยที่จะให้เฉลี่ยรวมกันแล้วก็ได้กก.ละ 90 บาท แสบมั๊ยละพี่น้อง !!

00 เพราะสิ่งที่รัฐบาลให้มันคนละเรื่องกับสิ่งที่ชาวสวนยางประท้วงร้องขอ พวกเขาต้องการให้รัฐบาลประกันราคาขายยางไม่ต่ำกว่ากก.ละ 90-100 บาท ไม่ใช่ช่วยเรืองปุ๋ย เนื่องจากเงื่อนไขของรัฐช่วยเฉพาะสวนยางที่มีเอกสารสิทธิ์ และที่สำคัญการช่วยเรื่องปุ๋ยดังกล่าวไปไม่ถึง"คนรับจ้าง"กรีดยางที่ใช้ส่วนแบ่ง 40/60 หรือ 50/50 กับเจ้าของสวนยางทางภาคใต้ ถ้าออกมารูปนี้มีหวังทำให้"แตกแยก"กันเองอีก เพราะ"เคลียร์กันไม่ลงตัว" ผลที่ออกมาแบบนี้มันก็ส่อเค้ายุ่งอีกเพราะไม่ต่างจากการ "หักหลัง"หรือ "ต้มจนเปื่อย" นั่นแหละ งานนี้ถ้าไม่ "ถังแตก" ไม่เงินจ่ายก็เลยหาทางเฉไฉเบี้ยวไปเรื่อย และที่สำคัญมีเจตนาช่วยเหลือ เอาใจชาวสวนยางในภาคอีสานกับ ภาคเหนือที่เป็นพื้นที่ฐานเสียงตัวเองชัดๆ รวมไปถึงลอยแพ แบ่งแยกคนใต้อย่างชัดเจนทำนองว่า "ไม่เมื่อมึงไม่เอากู กูก็ช่วยให้ป่วนเสียเลย เจือกหัวแข็งดีนัก" และลองสืบไปให้ดีเถอะวิชามารแบบนี้มันคุ้นๆเหมือนกับนิสัยของคน "เหลี่ยมจัด"พิกล !!

00 ขณะที่บ้านเมืองยังมีปัญหาวุ่นวายทุกเรื่อง แต่นางนายกฯกลับแอ่นระแร้ไปทัวร์เมืองนอก ไปสวิส ฯประเทศแรกก็ไม่เห็นมีวาระเจรจาอะไรกับผู้นำ หรือมีการตกลงเซ็นสัญญาการค้าอะไรให้คุ้มค่าเครื่องบิน มีแต่ข่าวการประชุมร่วมกับภาคเอกชนสรุปปัญหาการลงทุนในสวิสฯ ซึ่งก็ไม่เป็นโล้เป็นพายอะไร ลักษณะไม่ต่างจากการ"ไปเที่ยวแต่อ้างการสัมนาบังหน้า"นั่นแหละ แต่เพื่อให้เนียน เพราะเป้าหมายที่แท้จริงก็คือการไปสรุปและฟังคำสั่งจากพี่ชาย คือ ทักษิณ ชินวัตร ที่แอบไปซุ่มอยู่แถวนั้นล่วงหน้าแล้ว และคอยดูเถอะข่าวฉาวเรื่องผลประโยชน์จะโผล่ออกมาจากสื่อต่างประเทศตามลังที่เธอและเขาจับเครื่องบินเดินทางออกไปแล้ว

00 สมกับเป็นหนึ่งใน “มนุษย์พันธุ์พิเศษ”จริงๆสำหรับ ธาริต เพ็งดิษฐ์ ล่าสุด ครม.มีมติต่ออายุราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) ออกไปอีก 1 ปี มองอีกมุมหนึ่งก็อย่าได้แปลกใจ เพราะทำงาน “เข้าตา” ได้ถึงขนาดนี้มันจะไม่ให้รางวัลเป็นตัวอย่างได้อย่างไร และต่อไปก็ขอให้จับตามองว่า หลายคดีที่เหลือ และหากมีการร้องให้ดำเนินคดีจากคนเสื้อแดง และพรรคเพื่อไทยขึ้นมาคราวใดเป็นต้อง “ติดจรวด” เมื่อนั้น แต่ขณะเดียวกันขอให้จับตาบั้นปลายเอาไว้ด้วย เมื่อทุกอย่างพลิกผัน มันจะจบไม่สวย เห็นมาเยอะแล้ว !!