รองนายกฯความมั่นคง อ้างชาวสวนยางส่วนใหญ่รับได้กก. 90 บ. ชี้ขอรมว.เกษตรฯกก. 95 บ.ได้ แต่ยันตัวเลขนี้ ข้อเสนออื่นอยู่ที่กนย.รวมถึงเพิ่มจาก 1,260 บาทต่อไร่ ชี้ขู่ปิดถนนไม่ถูก ภาพรวมเดือดร้อน ย้ำต้องคุย อุบไต๋แผนรับม็อบ เผยนายกฯสวนยาง แจ้งภาคต่างๆพอใจ ไม่รับปากนายกฯลงพื้นที่ พร้อมอลุ่มอล่วยคดีความ รับด้อยประชาสัมพันธ์เรียกผู้ว่าฯถก แจงข้อเสนอBRNถึงศปก.กปต.ไม่เกินอาทิตย์หน้า จับตาจับอาวุธสงครามร้านอาหารไทยในมาเลย์
คลิกที่นี่ เพื่อฟัง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก ให้สัมภาษณ์
วันนี้ ( 9 ก.ย.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะประธานคณะกรรมการแก้ไขปัญหาราคายาง ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่ชาวสวนยางขู่นัดชุมนุมในวันที่ 14 ก.ย.นี้ ว่า ในที่ประชุมวันที่ 6 ก.ย. ชาวสวนยางภาคใต้กลุ่มใหญ่ยอมรับข้อเสนอราคายางกิโลกรัมละ 90 บาท แต่การที่จะให้ทุกคนมีความเห็นตรงกันคงเป็นไปได้ยาก ตนคิดว่าขอสรุปในวันนั้นเป็นข้อสรุปที่ชัดเจนแล้ว เสียงส่วนใหญ่เห็นด้วยว่าเรื่องนี้เป็นการช่วยสวนยางโดยตรง และเรามีการพูดคุยกันแล้วว่าทำอย่างไรจะให้ชาวสวนยางมีรายได้ 90 บาทต่อ 1 กิโลกรัม จึงได้ออกมาเป็นตัวเลขดังกล่าว ในเมื่อตัวเลขออกมาที่ 90 บาท เราจึงต้องยืนยันที่ 90 บาท ณ วันนี้ก็ยังยืนยันที่ 90 บาท ส่วนข้อเสนออื่นๆที่เสนอตามมาก็จะรับมาและให้คณะกรรมการยางธรรมชาติ (กนย.) พิจารณาอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งกนย.จะประชุมวันที่ 9 ก.ย.นี้ เวลา 13.30 น.
เมื่อถามว่า กลุ่มผู้ชุมนุมยืนยันให้รัฐบาลช่วยราคายาง 95 บาทต่อกิโลกรัม เราจะพิจารณาข้อเสนอให้ใหม่หรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ตนดูแล้วเขาเสนอเป็น 2 ประการคือ 1. ราคาที่ 95 บาท และ 2 ราคาที่ 90 บาท แต่จะขอพิเศษขึ้นมา คือขอให้ช่วยต่อไร่ขึ้นมาอีก ก็เป็นสิทธิที่จะเสนอได้ เอาเป็นว่าเรายุติกันก่อนที่ 90 บาทต่อ 1 กิโลกรัม ที่เราจะช่วยเกษตรให้ ถือตรงนี้เป็นข้อยุติก่อน ส่วนข้อเรียกร้องที่ให้ช่วยเพิ่มขึ้นมาอีก 1,260 บาทต่อไร่ ทางเราจะรับมาและให้กนย.รับไปพิจารณา ส่วนข้ออื่นๆอยู่นอกเหนือประเด็นที่ตนรับผิดชอบ เช่น เรื่องปาล์ม เมื่อถามว่า การชุมนุมใหญ่วันที่ 14 ก.ย.มีการระบุจะปิดเส้นทางลงภาคใต้ ปิดด่านและท่าเรือ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า เราคุยกันยังไม่จบ ถ้าจะมาพูดว่าปิดตรงนั้นตรงนี้ ตนดูว่าไม่น่าจะถูกต้อง อย่าลืมว่าพี่น้องประชาชนคนไทยจะได้รับความเดือดร้อนถ้ามีการปิดถนนหรือปิดด่าน จะเดือดร้อนในภาพรวม เราต้องคุยกันว่าจะให้ช่วยเหลือเพิ่มในส่วนใดก็ให้หยิบยกขึ้นมา และคณะกรรมการจะนำมาพิจารณา ว่าเราช่วยได้หรือไม่ได้ ก็จะตอบให้ทราบ ไม่ใช่มาขู่ปิดตรงนั้นตรงนี้ มันไม่ถูกต้อง เราเป็นคนไทยด้วยกันจะต้องพูดคุยกันได้ ถ้าข้อเสนอแนะนอกเหนือจากที่คุยกันแล้ว ถ้าไม่คุยกันอีกเราคงไม่รู้เรื่อง แต่ถ้าพูดคุยกัน มีข้อเสนอแล้วเราจะรับพิจารณาให้
เมื่อถามว่า หากชุมนุมจริงจะใช้กฎหมายเข้มข้นหรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปพูด เดี๋ยวจะเหมือนยั่วยุกัน ไม่ดีหรอก เจ้าหน้าที่ตำรวจมีหน้าที่รักษากติกาก็รักษากติกา เรามีหน้าที่กันคนละอย่าง ซึ่งตนได้รับโทรศัพท์จากนายกสมาคมชาวสวนยางแห่งประเทศไทย แจ้งว่าชาวสวนยางในภาคต่างๆ พอใจแล้วกับตรงนี้ คงมีแต่อีกกลุ่มหนึ่งเท่านั้นที่ยังไม่เข้าใจ เราจะได้อธิบายกันไป พร้อมชี้แจงทำความเข้าใจ ส่วนที่เรียกร้องให้นายกฯลงพื้นที่ไปพูดคุยด้วยตนเอง เพื่อยืนยันการช่วยเหลือในวันที่ 13 ก.ย.นั้น ก็พูดได้ แต่ทำได้หรือไม่เป็นเรื่องการปฏิบัติ
เมื่อถามว่า แสดงว่าแนวโน้มจะมีการคุยกันอีกรอบเพราะนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รองนายกฯและรมว.เกษตรฯกำลังหาวิธีที่จะให้ได้ 95 บาทต่อกิโลกรัม ถ้ากลุ่มผู้ชุมนุมพร้อมที่จะคุยรัฐบาลจะลงไปคุยรอบใหม่หรือไม่ พล.ต.อ.ประชา กล่าวว่า ก็ไม่เป็นปัญหาอะไร อยากคุยก็คุย แต่ขอยืนยันว่าอยู่ที่ 90 บาทต่อกิโลกรัม ส่วนข้อเรียกร้องไม่ให้ดำเนินคดีกับผู้ชุมนุมนั้นเป็นข้อเรียกร้องหนึ่ง เราก็รับพิจารณา ส่วนจะอลุ่มอล่วยได้แค่ไหนก็เป็นเรื่องหนึ่ง ทั้งนี้จะเชิญผู้ว่าฯและเกษตรจังหวัดภาคใต้มาหารือการแก้ปัญหาในวันที่ 10 ก.ย. ต้องยอมรับว่าการประชาสัมพันธ์ยังไม่เต็มร้อย เพราะสังเกตว่ามีหลายกลุ่มที่ยังสงสัยว่า 90 บาทต่อกิโลกรัมช่วยอย่างไร วิธีการช่วยเป็นอย่างไร จะต้องมีการทำความเข้าใจกับพี่น้องชาวสวนยาง จึงต้องเชิญผู้ว่าฯมา ในฐานะผู้รับผิดชอบจังหวัดว่าจะทำความเข้าใจและมีมาตรการประชาสัมพันธ์อย่างไร เพื่อให้เข้าใจตรงกัน เมื่อถามว่า คิดว่าจะสามารถยุติสถานการณ์ก่อนการชุมนุมได้หรือไม่ พล.ต.อ. ประชา กล่าวว่า จะพยายามทำความเข้าใจให้ทันต่อสถานการณ์ กลุ่มผู้เรียกร้องมีสิทธิเรียกร้อง เรายอมรับสิทธินี้ แต่การพิจารณาจะได้หรือไม่อยู่ที่การพิจารณาของคณะกรรมการ
พล.ต.อ.ประชา ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปฏิบัติการคณะกรรมการขับเคลื่อนนโยบายและยุทธศาสตร์การแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศปก.กปต.) ยังกล่าวถึงกรณีผู้อำนวยความสะดวกการเจรจามาเลเซียส่งรายละเอียด 5 ข้อเสนอของกลุ่มบีอาร์เอ็นมาให้สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ว่า สำหรับรายละเอียด 5 ข้อเสนอของบีอาร์เอ็นที่ส่งมาทางคณะทำงานจะนำเข้าสู่ที่ประชุมศปก.กปต.กันในปลายสัปดาห์นี้ หรืออย่างช้าที่สุดสัปดาห์หน้า ซึ่งจะต้องนำข้อเสนอดังกล่าวมาพิจารณาดูว่าขัดต่อรัฐธรรมนูญไทยหรือไม่ ส่วนบีอาร์เอ็นเองมีสิทธิที่จะบอกว่าไม่ขัดรัฐธรรมนูญ แต่เราต้องพิจารณาในเนื้อหาก่อน ส่วนเรื่องการจับอาวุธสงครามได้ที่ร้านอาหารไทยในมาเลเซียเมื่อวันที่ 6 ก.ย.นั้น ตนต้องขอติดตามข่าวนี้ก่อน