“ดร.เสรี” เตือนฝ่ายค้านไม่รู้จักเก็บอารมณ์เปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามโจมตีว่าป่าเถื่อน ชี้หยาบคายกลับจะต่างอะไรจากเพื่อไทย แนะโดนปิดกั้นในสภาก็สามารถเผยแพร่ข้อมูลผ่านสื่อช่องทางต่างๆ ได้ พร้อมระบุตอนนี้คนที่ไม่ชอบรัฐบาลวังเวงเต็มที เพราะไม่มั่นใจว่าจะพึ่งใครได้แล้ว
วันที่ 6 ก.ย. รองศาสตราจารย์ ดร.เสรี วงษ์มณฑา นักวิชาการด้านสื่อสารมวลชนและการตลาด ได้เผยผ่านเฟซบุ๊ก “ดร.เสรี วงษ์มณฑา” ว่า ฝ่ายค้านทำงานในสภาให้ประชาชนได้สบายใจหน่อยจะได้ไหม ที่ผ่านมาพวกคุณเก็บอารมณ์กันไม่อยู่หลายครั้ง เปิดโอกาสให้ฝ่ายรัฐบาลและคนที่รักรัฐบาลเอาพวกคุณ และคนที่นิยมพวกคุณมาด่าได้ว่าเป็นพวกป่าเถื่อน ไม่ใช่แค่ด่าว่าพวกคุณป่าเถื่อนเท่านั้น แต่เขาจะว่าคนที่นิยมคุณว่านิยมความป่าเถื่อนด้วย
นอกจากนั้นแล้ว เวลาที่พวกรัฐบาลหยาบคาย หรือใช้ความรุนแรงคุกคามฝ่ายตรงกันข้ามรัฐบาล คนที่นิยมพวกคุณ และไม่ชอบรัฐบาลจะพูดจาเต็มปากได้อย่างไร ก็เข้าใจนะว่าคุณอยากจะพูดแต่เขาไม่ให้พูด คุณอึดอัด คุณโกรธ แต่คุณก็ไม่ควรจะกระชากเก้าอี้ ขว้างปาเอกสารใส่คนอื่น หรือขว้างเก้าอี้ และเวลาที่พวกเขาหยาบ คุณจะไปหยาบตอบทำไม เมื่อคุณหยาบเหมือนเขา คุณจะต่างอะไรกับเขา คำด่าว่าสำเนียงส่อภาษา กิริยาส่อสกุล มันก็จะกระทบถึงท่านด้วย ทำไมไม่ดำรงตนเป็นผู้ดีที่ด่าได้เจ็บแสบโดยไม่ต้องใช้คำหยาบละคะ นั่นคือศิลปะของการพูด หรือวาทศิลป์นี้ ฝึกหัดให้มีเหนือกว่าคนที่หยาบคาย ถ่อยสถุลซิจ๊ะ
สิ่งที่พวกคุณควรจะทำในสภาคือ
1.นำเสนอความคิดอย่างมีน้ำหนักน่าเชื่อถือพร้อมหลักฐาน อย่าพูดจาลอยๆ
2.พูดจาให้ตรงประเด็นอย่าตีสำนวนเพราะเรื่องในสภาเป็นเรื่องจริงจังที่มีความสำคัญต่อบ้านเมือง ไม่ใช่เรื่องที่จะเอามาเล่นสำบัดสำนวนเหมือนสภาโจ๊ก
3.ประท้วงด้วยเหตุด้วยผล อย่าประท้วงเพื่อตีรวนอย่างพร่ำเพรื่อ ทำให้คนเบื่อ และมองดูการทำงานไร้สาระ แทนที่จะได้ความสนใจจากประชาชน เมื่อเขาเบื่อ เขาไม่ติดตามแทนที่จะได้เสนอความคิดดีๆ ให้ประชาชนได้รับรู้ก็กลายเป็นพูดฟังกันเองในสภา และมีแต่พวกเดียวกันเองด้วยที่ฟัง ฝ่ายรัฐบาลเขาไม่ฟังหรอก เพราะเขายกมือตามโผคำสั่งที่กำหนดมา
4.ถ้าจะ walk out ก็ขอให้เป็นเรื่องที่สำคัญมากๆ ที่ประชาชนมองแล้วว่าประธานสภา และ ส.ส. ฝ่ายรัฐบาลทำไม่ถูกจริงๆ ฝ่ายค้านไม่ควรร่วมสังฆกรรมด้วย
ถ้าหากคุณถูกปิดกั้นในสภา ก็ไม่ใช่ว่าคุณจะหมดหนทางที่จะเผยแพร่ความคิดของคุณนี่น่า ลองพิจารณาช้องทางต่อไปนี้สักหน่อยดีไหม
1.ให้สัมภาษณ์หนังสือพิมพ์บางฉบับที่ยังมีพื้นที่ให้ฝ่ายค้าน
2.เข้าสายรายการวิทยุที่ยังให้โอกาสฝ่ายค้าน
3.ออกรายการ cable TV และ satellite TV ที่ยังให้โอกาสฝ่ายค้าน
4.พูดบนเวทีผ่าความจริง
5.ทำ AV เช่น CD, Video หรือ DVD แจกไปยังกลุ่มคนแนวร่วมที่เขามี outlet ในการขยายต่อ ทั้งทาง face-to-face และ on line ในรูปแบบplatform ต่างๆ
6.ทำเอกสารสิ่งพิมพ์ (booklet) ออกมาจะเป็นสมุดปกฟ้าก็ได้ คุณมีทนายตั้งมากมาย ดูแลข้อความที่ดผยแพร่อย่าให้ผิดกฎหมาย อย่าให้เสี่ยงกับการถูกฟ้องหมิ่นประมาท (แต่ถ้าคุณพูดจริง พิสูจน์ได้ในศาลก็คงไม่ใช่หมิ่นประมาท)
7.ใช้ WOM ที่คุณมีอยู่ให้เกิดประโยชน์ ต้องช่วยกันทำหลายๆ คน เพราะถ้าทำอยู่คนเดียวก็ขยายกลุ่มได้ช้า
8.ส.ส. ส.ก. ส.ข. และนักการเมืองท้องถิ่นฝ่ายของคุณน่าจะเผยแพร่ในพื้นที่ได้
9.แกนนำของคุณทั้งหลายจะต้องใช้ social media แบบ evangelist (ผู้มีความกล้า) ในการเสนอข้อเท็จจริงต่อประชาชน เปิด blog เล่าเรื่องราวใน twitter เปิด Facebook และ fan page โดยจะต้องประชาสัมพันธ์ sites ต่างๆ เหล่านี้ให้มีจำนวน fans และ followers เยอะๆ มห้มีคนดังมาร่วม share และ comment ในฐานะเป็น third party endorsers เพิ่มความน่าเชื่อถือ
10.มี Clip ที่สมควรเผยแพร่ให้คนรู้ก็เอาลงใน YouTube กระตุ้น public dialogue ให้ข่าวสารกระจายเป็น viral messages อยู่ใน social network
11.เมื่อมีจำนวน fans และ followers มากพอก็จัดการสร้าง events คือ จัดการชุมนุมให้ fans และ followers รวมตัวกันเป็กลุ่มคนร่วมอุดมการณ์
ลองทำดูสิแล้วคุณจะหายอึดอัดไม่ต้องใช้กิริยาป่าเถื่อนดังที่บางคนทำในช่วงที่ผ่านมา
อ้อ...เวลาพูดอะไรอย่าเอาแต่ด่าว่าเพื่อไทยไม่ดีอย่างไรเท่านั้น ต้องบอกด้วยว่าถ้าประชาธิปัตย์จะทำเรื่องเดียวกัน ที่คิดว่าน่าจะเป็นการกระทำที่ดีกว่า
เป็นความหวังให้ประชาชนหน่อยเถอะ ตอนนี้คนที่ไม่ชอบเพื่อไทยวังเวงโหวงเหวงเพราะไม่มั่นใจว่าจะพึ่งใครได้ที่จะนำพาประเทศเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ และโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล