สภาถกปัญหายางต่อ ปชป.ซัดรัฐทำเฉยจนเกษตรกรคิดว่าสองมาตรฐาน เพราะไม่ใช่ฐานเสียง แถมส่งใช้กำลังลุยจนบานปลาย ยันไม่ได้ชักใย ฉะเมินลงพื้นที่ สับใช้สื่อบีบกระทบสังคม “อำมาตย์เต้น” แจงแก้เหมาะสมแล้ว ป้อง “ปู” ชิ่งหนีสภา “ชินวรณ์” โร่ร้องตำรวจสลายม็อบ “พายัพ” โผล่ลุกขอปิดประชุม แต่ “วิสุทธิ์” เมิน “น้องเทือก” สุดฉุนทุ่มเก้าอี้ ท้าปิดไปเลย “ยุคล” ปัดยิงแก๊ส อ้างม็อบจะปิดถนนเจอรวบไป 10 “ครูมานิตย์” ชักเบื่อหนุนข้อเสนอเพื่อน “รังสิมา” เหน็บกินเงินเดือนเป็นแสนไม่คิดเป็นปากเสียงเพื่อชาวบ้าน
วันนี้ (5 ก.ย.) ที่รัฐสภา การประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาญัตติแก้ปัญหาราคายางพารา สอบถามถึงการแก้ไขปัญหาราคาสินค้าเกษตรตกต่ำที่ค้างจากสัปดาห์ก่อน โดยนายสาทิตย์ วงศ์หนองเตย ส.ส.ตรัง พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายถึงปัญหาราคายางพารา และการเคลื่อนไหวชุมนุมของกลุ่มเกษตรกรชาวสวนยาง โดยเห็นว่ารัฐบาลเพิกเฉยต่อการแก้ไขปัญหา โดยเฉพาะการไม่ส่งตัวแทนไปเจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมในพื้นที่ จนทำให้เกษตรกรเกิดความรู้สึกว่ารัฐบาลปฏิบัติสองมาตรฐาน เพราะไม่ใช่พื้นที่ฐานเสียงของรัฐบาล ทำให้การแก้ไขปัญหาแตกต่างจากสินค้าเกษตรชนิดอื่น โดยเฉพาะข้าว ขณะเดียวกันยังสั่งการให้เจ้าหน้าที่รัฐให้กำลังกับกลุ่มผู้ชุมนุมจนทำให้ปัญหาบานปลาย ทั้งนี้เห็นว่าตั้งแต่รัฐบาลเข้ามาบริหารประเทศก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาราคายางพาราที่ตกต่ำได้ ซึ่งเป็นเหตุผลหลักของการออกมาชุมนุมเรียกร้อง ขณะที่มาตรการต่างๆ ที่ออกมาก่อนหน้านี้ ก็ไม่สามารถกระตุ้นให้ราคายางพาราปรับตัวสูงขึ้นได้
“พรรคประชาธิปัตย์ ไม่ได้อยู่เบื้องหลังการชุมนุมของกลุ่มเกษตรกร แต่การเข้าร่วมของ ส.ส.ในพื้นที่ เพราะต้องการร่วมขับเคลื่อนข้อเรียกร้องที่เป็นปัญหาของประชาชน” นายสาทิตย์กล่าว
นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ อภิปรายชี้ว่ารัฐบาลไม่มีความใส่ใจต่อการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการไม่ส่งตัวแทนระดับตัดสินใจของรัฐบาล ลงพื้นที่เจรจากับกลุ่มผู้ชุมนุมด้วยตัวเองเพื่อหาข้อสรุปและยุติปัญหา พร้อมขอให้คณะรัฐมนตรีทบทวนและยอมรับเงื่อนไขข้อเรียกร้องของเกษตรกรเพื่อยืนยันให้เห็นว่าไม่มีการเลือกปฏิบัติกับการแก้ปัญหาสินค้าเกษตรประเภทอื่น
ขณะที่นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ชี้แจง ยืนยันว่ารัฐบาลได้ติดตามปัญหาอย่างใกล้ชิด ด้วยการติดตามสถานการณ์ราคายางพารา และข้อเรียกร้องของเกษตรกร พร้อมอ้างอิงข้อมูลทางวิชาการเพื่อยืนยันว่าการคิดอัตราค่าชดเชยปัจจัยการผลิตเพื่อแก้ไขปัญหาเฉพาะหน้าเป็นไปอย่างเหมาะสมแล้ว และเป็นแนวทางที่เม็ดเงินจะถึงมือเกษตรกรโดยตรง นายณัฐวุฒิยืนยันด้วยว่า นายกฯ และรมต.ที่เกี่ยวข้องไม่ได้หลบเลี่ยงเข้าสภา เพื่อรับฟังการสะท้อนปัญหา แต่ติดภารกิจแก้ปัญหาให้ชาวสวนยาง พร้อมปฏิเสธข้อสังเกตของ ส.ส.ฝ่ายค้าน ที่เห็นว่ารัฐบาลนิ่งนอนใจต่อปัญหาด้วยเหตุที่ไม่ใช่พื้นที่ฐานเสียงการเมือง เนื่องจากมีเกษตรกรได้รับผลกระทบทุกภาค และเป็นหน้าที่ของรัฐบาลในการช่วยเหลือประชาชนในทุกพื้นที่ และย้ำว่าเป็นเรื่องสถานการณ์ราคาตลาดโลกที่ไม่เอื้ออำนวยต่อการแก้ไขปัญหา
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า วันนี้มองเกษตรกรเป็นศัตรู จากการใช้อำนาจที่มีผ่านไปทางผู้ว่าฯ ผู้บังคับการจังหวัด ถ้าไม่เกิดการประเมินสถานการณ์ต่ำ สามารถเดินไปพูดคุยกับเขาได้ มองผู้เสียหายเป็นเหยื่ออำนาจรัฐ พยายามบีบผู้ชุมนุมโดยการใช้สังคมกดดันประโคมข่าวว่ากระทบการเดินทาง การไปโรงเรียน กระทบต่อโรงพยาบาล แต่ความเป็นจริงสื่อได้สะท้อนว่าสามารถเดินทางไปมาได้ แต่กลับไปย้ายนักข่าวเดิมที่ปฏิบัติในพื้นที่ออกแล้วสั่งย้ายนักข่าวเอาที่สั่งได้เข้าไป ถ้ามีอำนาจจริงทำไมไม่ใช้ไปในทางที่ถูกต้อง เช่นยอม เสียเวลาลงไปดูพื้นที่ กำลังใช้อำนาจรัฐในการล้อมเมืองกดดันประชาชน
น.ส.พิมพ์ภัทรากล่าวว่า การเจรจาเริ่มต้นเห็นเลยว่าไม่มีความจริงใจ เพราะส่งคนที่ไม่มีอำนาจตัดสินใจลงไปพูดคุยตั้งแต่แรกถึงบานปลายมาถึงทุกวันนี้ รัฐบาลตั้งใจจะให้เมืองออกมานอกระบบหรือไม่ ถ้ามีการเมืองแทรกต้องมีคนกุม กำหนดนโยบายมาเรียบร้อย รู้อยู่ความแตกต่างม็อบเกษตรกรกับม็อบการเมือง ไม่ควรไปโยงว่าเป็นม็อบการเมือง น่าเสียใจที่คนที่บอกมานั่งเป็นกรรมการแก้ปัญหายางพารา อย่าไปอ้างเพื่อสร้างความชอบธรรมให้รัฐบาลเอง พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี เคยบอกว่าหากใครไม่เลือกก็จะไม่ให้ความสำคัญ วันนี้น้องสาวทำเหมือนพี่ชาย หากจริงใจควรจะออกมาแก้ปัญหานี้โดยด่วน
ต่อมาเมื่อเวลา 18.50 น. นายชินวรณ์ บุณยเกียรติ ส.ส.นครศรีธรรมราช พรรคประชาธิปัตย์ ขอหารือด่วนว่าขณะนี้กำลังมีการใช้กำลังตำรวจอาวุธครบมือได้ยิงแก๊สน้ำตาสลายการชุมนุมที่ อ.บางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ไม่เหมือนที่คุยตกลงในระหว่างเจรจาว่าจะไม่ใช้ความรุนแรง จะไม่เรียกว่าสองมาตรฐาน ไม่โหดเหี้ยมใจดำอำมหิตได้อย่างไร ขอให้นายวราเทพรีบสั่งการอย่าใช้กำลังเพราะเขาเดือดร้อนจริงๆ เกรงจะเกิดปัญหาลุกลามเพราะรุนแรงเพิ่มมากขึ้นตามลำดับ
ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์กำลังเรียกร้องให้รัฐบาลแก้ปัญหาที่กำลังสลายการชุมนุมโดยด่วน แต่นายพายัพ ปั้นเกตุ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย ชิงเสนอญัตติขอปิดอภิปราย โดยอ้างว่าอภิปรายกันมาทั้งวันแล้ว แต่นายวิสุทธิ์ได้ประนีประนอมโดยขอร้องให้นายพายัพถอนญัตติเพื่อให้ฝ่ายค้านได้อภิปรายต่อไป แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้พยายามต่อรองขอให้อภิปรายให้จบเพราะยังมีสมาชิกแสดงความจำนงอภิปรายอีก 2 คน แต่นายพายัพยังยืนยันญัตติปิดอภิปราย
นายวิสุทธิ์จึงขอให้รัฐมนตรีรายงานเรื่องแก๊สน้ำตาก่อน แต่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์หลายคนลุกขึ้นประท้วง ขณะที่นายเชน เทือกสุบรรณ ส.ส.สุราษฎร์ธานี ได้ลุกขึ้นทุ่มเก้าอี้ พร้อมกับตะโกนด้วยความโกรธแค้นท้าให้ปิดอภิปรายไปเลย เพราะทำตามใจทุกอย่างอยู่แล้ว แก้รัฐธรรมนูญก็จะทำทั้งวันเสาร์ วันอาทิตย์ พอเรื่องนี้ก็จะมาปิดปากฝ่ายค้านอีก จากนั้นได้เดินไปชี้หน้านายวิสุทธิ์ และกล่าวว่าหากในสภาไม่พูดคุยเรื่องความเดือดร้อนของประชาชนแล้วจะมีหน้าอยู่ในสภาได้อย่างไร นายวิสุทธิ์ได้ขอร้องให้ใจเย็นมีอะไรค่อยๆ พูด ตนรับฟังทุกคน ขณะที่เพื่อน ส.ส.หลายคนได้พยายามเข้าไปปลอบให้ใจเย็น
ด้านนายยุคล ลิ้มแหลมทอง รมว.เกษตรและสหกรณ์ กล่าวว่า ได้ประสานไปยัง พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีแล้ว โดยแจ้งเข้ามาว่ามีประชาชน 400 คนที่ จ.ประจวบคีรีขันธ์ พยายามปิดถนน เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปเจรจาขอห้ามไม่ให้ปิด ก็มีการยั่วยุกันบ้าง และมีบางคนทำผิดกฎหมาย ทางตำรวจได้เชิญตัวไปสิบกว่าคน แต่ไม่มีการใช้แก๊สน้ำตา
จากนั้นที่ประชุมได้ถกเถียงกันไปมาโดยนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ ประธานวิปฝ่ายค้านเสนอให้อภิปรายจนถึง 1 ทุ่ม จากนั้นเลื่อนไปอภิปรายอีกครั้งในสัปดาห์หน้า ด้านนายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม ส.ส.สุรินทร์ พรรคเพื่อไทย สนับสนุนให้ปิดอภิปราย เพราะเปิดโอกาสให้ด่ามาหลายวันแล้ว
น.ส.รังสิมา รอดรัศมี ส.ส.สมุทรสงคราม กล่าวว่า บางคนมาเป็น ส.ส.กินเงินเดือนแสนกว่าบาท มีหน้าที่แค่เสนอปิดประชุมหรือ บางคนมากดบัตรเพื่อรอกลับบ้าน ไม่ให้ ส.ส.ในจังหวัดที่เดือดร้อนพูด แม้แต่ตนที่ในจังหวัดไม่มียางก็อยากจะพูดเพื่อเรื่อง ปัญหาปากท้อง ความเดือดร้อนของประชาชน บางคนมาไม่เคยเป็นปากเสียงให้ประชาชนเลย บางคนเป็นปากเป็นเสียงให้คนบางคน เป็นปากเป็นเสียงให้บางตระกูลเท่านั้น สภาเป็นที่พูด แต่กลับให้มีการปิดตลอด
แม้ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์จะพยายามต่อรองให้มีการอภิปรายต่อไปว่ารัฐบาลควรฟังเสียงส่วนน้อยด้วยเหมือนคำแนะนำของนายโทนี แบลร์ อดีตนายกรัฐมนตรี ทำไมไม่เริ่มจากปัญหาความเดือดร้อนของประชาชนที่คุกรุ่นอยู่ แต่ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ยังคงกลับสนับสนุนให้ปิดการอภิปราย โดยนายวิทยา บุรณศิริ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย อ้างว่า ขณะนี้รัฐบาลได้ตั้งคณะกรรมการขึ้นมาเพื่อดำเนินการแก้ไขปัญหานี้แล้ว สภาควรรีบสรุปข้อเสนอแนะจากที่ได้รับฟังมา ส่งมอบให้เขา ปัญหาในที่พื้นที่ต่างๆ มีความสำคัญมาก ส.ส.เพื่อไทยไม่มีใครสบายใจต่อเหตุการณ์ที่ จ.ประจวบฯ ยิ่งต้องรีบให้กรรมการที่รัฐบาลมอบหมายนำไปดำเนินการ ถ้าผลสรุปถึงมือเร็วก็เกาถูกที่คัน
หลังจากถกเถียงกันร่วมชั่วโมง นายวิสุทธิ์ได้สั่งให้มีการลงมติ ปรากฏว่าเสียงส่วนใหญ่ไม่เห็นควรให้ตั้งคณะกรรมมาธิการพิจารณาเรื่องนี้ด้วยคะแนนเสียง 279 เสียง และเห็นด้วยที่จะส่งให้รัฐบาลพิจารณา 281 เสียง ขณะที่ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์พากันเดินออกจากห้องประชุมไป จากนั้นได้สั่งปิดการประชุม