xs
xsm
sm
md
lg

“เด็จพี่” โวย “มาร์ค” ขู่ยื่นถอด ส.ว.หนุนชำเรา รธน. ปัดทุ่ม 200 ล้านฟาดหัวชาวสวนยาง

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย (ภาพจากแฟ้ม)
โฆษกเพื่อไทย เผยเตรียมสุมหัว ส.ส. กล่อมชาวบ้านขึ้นค่าก๊าซหุงต้ม-ค่าทางด่วน-ค่าไฟ โต้ “อภิสิทธิ์” ยื่นถอดถอน ส.ว. ที่ลงมติเห็นชอบให้แก้รัฐธรรมนูญที่มา ส.ว. อ้างเป็นการข่มขู่ เลียบรรหารจนลื่นอ้างถ้า ปชป.ปล่อยวางบ้านเมืองดีขึ้น ปัดรัฐทุ่มเงิน 200 ล้าน ล็อบบี้แกนนำสวนยางเหนือ-อีสาน อ้างกำลังแก้ปัญหา “อนุตตมา” กางตัวเลขอ้างเศรษฐกิจไม่ถดถอย เหน็บ ปชป. หยุดทำร้ายประเทศไทย

วันนี้ (1 ก.ย.) ที่พรรคเพื่อไทย เมื่อเวลา 10.00 น. นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย แถลงว่า ในวันที่ 3 ก.ย.จะมีการประชุมพรรคเพื่อไทย เพื่อให้ ส.ส.ไปทำความเข้าใจกับประชาชนเรื่องการขึ้นราคาก๊าซหุงต้ม ค่าทางด่วน ค่าไฟฟ้า ตลอดจนจะทำความเข้าใจกับ ส.ส.เรื่องการประชุมร่วมรัฐสภาในการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ประเด็นที่มา ส.ว.ในวันที่ 4 ก.ย. หลังจากมีการร้องเรียนจากส.ส.ฝ่ายรัฐบาลว่า ได้พูดน้อยกว่าฝ่ายค้าน ซึ่งพรรคจะกำชับให้ ส.ส.เพื่อไทยมาครบองค์ปะชุม และวางกรอบการอภิปรายไม่ให้ประชาชนเบื่อหน่าย และให้ ส.ส.ไปทำความเข้าใจประชาชนว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญไม่ใช่การต่างตอบแทน สภาผัวเมีย หรือสภาทาสตามที่มีการกล่าวหาจากฝ่ายค้าน แต่ทุกอย่างขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของประชาชน และยืนยันว่าการอภิปรายร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญที่ผ่านมา รัฐบาลไม่ได้ปิดปากฝ่ายค้านในการอภิปราย แต่เปิดโอกาสให้ฝ่ายค้านอภิปรายถึง 90% ขณะที่ฝ่ายรัฐบาลอภิปรายแค่ 10% เท่านั้น แต่ฝ่ายค้านพยายามยื้อเวลาและเตะถ่วง

ส่วนที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ระบุในเวทีผ่าความจริงฯ ว่าจะยื่นถอดถอน ส.ว.ที่ลงมติเห็นชอบให้แก้รัฐธรรมนูญเรื่องที่มา ส.ว.นั้น นายพร้อมพงศ์ กล่าวว่า เป็นการข่มขู่และปิดกั้นการทำหน้าที่ของสมาชิกวุฒิสภา นำเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญมาเป็นเกมการเมืองโจมตี ส.ว.ที่เห็นด้วยให้มี ส.ว.มาจากการเลือกตั้ง โดยกล่าวหาว่าเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ ถ้านายอภิสิทธิ์ไม่ความจำสั้น สมัยที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นรัฐบาลเคยแก้รัฐธรรมนูญให้ลดจำนวน ส.ส.เขต และ ส.ส.บัญชีรายชื่อมาแล้ว น่าจะขัดเป็นการขัดกันของผลประโยชน์ การกล่าวหาว่าการให้ ส.ว.มาจากการเลือกตั้งเป็นสภากินรวบ สภาทาส เป็นการดูถูกประชาชน เพราะเป็นสิทธิของประชาชนที่จะเลือก ส.ว. ซึ่งอาจจะไม่เลือก ส.ว.ที่มีความใกล้ชิดกับพรรคการเมืองก็ได้ นายอภิสิทธิ์อย่าตีตนไปก่อนไข้ ถ้าต้องการให้บ้านเมืองเป็นประชาธิปไตย เหตุใดไม่สนับสนุนให้มีการเลือกตั้ง ส.ว. แต่กลับปกป้องอำนาจเผด็จการ

นอกจากนี้ โฆษกพรรคเพื่อไทยยังกล่าวถึงกรณีนายบรรหาร ศิลปอาชา ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคชาติไทยพัฒนา เตรียมเดินสายเชิญชวนทุกฝ่ายร่วมเวทีปฏิรูปการเมืองว่า เป็นสัญญาณที่ดี เพราะเวทีดังกล่าวประชาชนให้การตอบรับ เห็นได้จากโพลที่ประชาชนเห็นด้วยกับการยุติบทบาทของกลุ่มพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย และไม่เห็นด้วยที่พรรคประชาธิปัตย์จะลาออกจาก ส.ส.มาเคลื่อนไหวข้างถนน อยากให้พรรคประชาธิปัตย์ใช้เวทีปฏิรูปมาคุยปัญหาทุกเรื่อง ถ้านายอภิสิทธิ์ยอมปล่อยวางทุกอย่างไว้ก่อน เชื่อว่า จะเป็นนิมิตรหมายที่ดีทางการเมือง หากพรรคประชาธิปัตย์ไม่เข้าร่วมก็จะถูกโดดเดี่ยวทางการเมือง ประชาชนจะตัดสินได้ในการเลือกตั้งครั้งต่อไปว่าใครเป็นคนขัดขวางไม่ให้เกิดความปรองดอง นอกจากนี้ พรรคมอบให้ ส.ส.ไปชี้แจงกับประชาชนเรื่องเวทีสภาปฏิรูปการเมืองว่า นายกรัฐมนตรีมีความจริงใจในการสร้างความปรองดองอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อลดความขัดแย้งให้หมดจากประเทศ

พร้อมกันนี้ นายพร้อมพงศ์ยังกล่าวถึงกรณีแกนนำม็อบสวนยางพาราระบุรัฐบาลทุ่มเงิน 200 ล้านบาท ล็อบบี้แกนนำเกษตรกรสวนยางพาราภาคเหนือ ภาคอีสานไม่ให้นำคนมาร่วมชุมนุมว่า ไม่เป็นความจริง รัฐบาลไม่ได้ล็อบบี้ใช้เงิน 200 ล้านบาท มาสกัดกั้นแกนนำเกษตรกรภาคเหนือ ภาคอีสาน แต่แกนนำภาคเหนือ ภาคอีสานเข้าใจสถานการณ์ดีว่า รัฐบาลกำลังเร่งแก้ปัญหา ไม่มีเลือกปฏิบัติ ขณะนี้ น.ส. ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี สั่งให้ทุกหน่วยงานเร่งช่วยชาวสวนยางเต็มที่ แต่การปิดถนนเป็นการใช้ประชาชนเป็นตัวประกัน กระทบภาพลักษณ์ประเทศ อย่างไรก็ตาม การที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ จะลงพื้นที่ไปพูดคุยกับแกนนำเกษตรกรในภาคใต้เป็นเรื่องดี อยากให้นายอภิสิทธิ์ เป็นตัวกลางประสานงานพูดคุยกับเกษตรกรเพื่อสะท้อนปัญหามายังรัฐบาล ซึ่งรัฐบาลพร้อมรับฟังเกษตรกร

ด้าน น.ส.อนุตตมา อมรวิวัฒน์ รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงกรณีความเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจปรับตัวลดลงเป็นการปรับตัวช่วงไตรมาสต่อไตรมาสเท่านั้น ระบุนักวิชาการด้านการเงินการคลังยังเชื่อมั่นว่าเศรษฐกิจไทยยังเดินไปได้ดีอยู่ ซึ่งรวมทั้งภาคเอกชนและธนาคารแห่งประเทศไทย แต่ที่การขยายตัวไม่คงที่คงเป็นเพราะประเทศยังเป็นประเทศที่กำลังพัฒนา ฉะนั้น การพัฒนาที่สำคัญที่สุด คือ คน ต้องพัฒนาคนให้มีความรู้ และไม่ลืมที่จะเชื่อมต่อเรื่องระบบคมนาคมพื้นฐานของประเทศอีกด้วย การศึกษาถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ทางพรรคเพื่อไทยเองก็ได้ให้ความสำคัญมาตั้งแต่ต้น ขณะนี้มีอีกโครงการที่กำลังขับเคลื่อน คือ เรื่องกองทุนกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษาของกระทรวงการคลังจัดตั้งขึ้นมาโดยมีวัตถุประสงค์ให้กู้ยืมเงินแก่นักเรียน นักศึกษาที่ขาดแคลนทุนทรัพย์เพื่อเป็นค่าเล่าเรียน ค่าใช้จ่ายที่เกี่ยวเนื่องกับการศึกษา และค่าใช้จ่ายที่จำเป็นในการครองชีพระหว่างศึกษา โดยให้กู้ยืมแก่นักเรียน นักศึกษาตั้งแต่ระดับมัธยมปลาย(สายสามัญและสายอาชีพ จนถึงระดับปริญญาตรี ตั้งแต่ปีการศึกษา 2539-2555 โดยให้กู้ไปแล้วกว่า 4 ล้านราย โดยกองทุนได้ปรึกษากับหน่วยงานต่างๆพร้อมจะร่วมมือกับกองทุนที่จะรับเด็กที่จบมาเข้าทำงานโดยมีการร่วมมือกันทั้งภาครัฐและเอกชน เช่น บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัดบรรษัทประกันสินเชื่ออุตสาหกรรมขนาดย่อม (บ.ส.ย.) และ บริษัท ไมเนอร์ อินเตอร์เนชั่นแนลจำกัด (มหาชน) เป็นต้น

สำหรับประเด็นด้านเศรษฐกิจก็ยืนยันว่าไม่ถดถอยและกำลังปรับเข้าสมดุลย์ ปัจจัยต่างๆ ได้แก่ 1. การจัดเก็บภาษี 10 เดือนแรกของปีงบประมาณ2556 (ตุลาคม 2555 - กรกฎาคม 2556) รัฐบาลจัดเก็บรายได้สุทธิ 1,753,011 ล้านบาท สูงกว่าเป้าหมาย 86,898 ล้านบาท หรือร้อยละ 5.2 มาจาก 3กรมจัดเก็บภาษีของกระทรวงการคลัง ซึ่งสะท้อนถึงความต้องการภายในประเทศ รายได้ภาคครัวเรือน ที่ขยายตัวได้ดี เฉพาะเดือนกรกฎาคมเองก็สูงกว่าเป้าประมาณ 1,700 ล้านบาท 2. การส่งออกก็เริ่มดีขึ้นจากเดือนก่อน โดยมีอัตราเพิ่มขึ้น 0.8 ในหมวดสินค้าอิเล็คทรอนิคส์และเชื้อเพลิง ขยายตัวเป็นบวกตามเศรษฐกิจสหรัฐฯ และยุโรป รวมทั้งการท่องเที่ยวก็ขยายตัวเพิ่มขึ้น และการลงทุนในหมวดก่อสร้างที่มีสูงขึ้น นั่นแสดงให้เห็นว่าเศรษฐกิจมีสัญญาณที่ดี ไตรมาส 3 จะปรับตัวดีขึ้น เศรษฐกิจแข็งแกร่ง อัตราเงินเฟ้อและอัตราการว่างงานอยู่ในระดับต่ำ ที่ร้อยละ 2 และ 0.5 เงินทุนสำรองก็มีที่ 172 พันล้านเหรียญสหรัฐ ซึ่งก็น่าจะเพียงพอหากเกิดความผันผวนของเศรษฐกิจโลก ดังนั้น ที่ว่าประเทศไทยเศรษฐกิจถดถอยเชื่อว่าไม่เป็นความจริง ขอให้เชื่อว่ารัฐบาลนำโดยพรรคเพื่อไทย จะนำพาประเทศไปสู่ความก้าวหน้า ซึ่งทางด้านการเมืองก็กำลังไปได้ด้วยดี เศรษฐกิจก็มีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจที่แข็งแกร่งขอเรียกร้องให้พรรคประชาธิปัตย์หยุดทำร้ายประเทศไทยในทุกๆ ด้าน


กำลังโหลดความคิดเห็น