พท.ขอบคุณสภาผ่านร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 2557 ยันไม่ล้มโครงการกู้เงิน 2 ล้านล้าน ดันเข้าสภาฯหลังผ่านร่างแก้ไข รธน.ต้นเดือนหน้า เหน็บ ส.ส.ในสังกัดหารือเตรียมซื้อประกันหลัง ปชป.ป่วนสภา บีบคอตำรวจ โวย ปชป.-กลุ่ม 40 ส.ว.ไม่ร่วมสภาปาหี่ โต้ “คณิต” ขวางชำเรา รธน. ถามไม่คิดแก้เพื่อประชาธิปไตยหรือ
นายอนุสรณ์ เอี่ยมสะอาด รองโฆษกพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงการประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติเห็นชอบ ร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2557 ว่า ในนามของพรรคเพื่อไทยขอขอบคุณที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่ทุกภาคส่วนเสียสละทำงานในหน้าที่ของตัวเองอย่างเต็มที่ เข้าร่วมประชุมอย่างเคร่งครัด มีวินัย พรรคเพื่อไทยยืนยันและขอให้ความมั่นใจกับพี่น้องประชาชนทั้งประเทศว่า จะดูแลการใช้งบประมาณ ที่มาจากเงินภาษีอากรของพี่น้องประชาชนทุกบาททุกสตางค์ ให้มีประสิทธิภาพ ประสิทธิผล รวมถึงเป็นประโยชน์สูงสุดกับประชาชนต่อไป
ส่วนร่าง พ.ร.บ.ให้อำนาจกระทรวงการคลัง กู้เงินเพื่อการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านคมนาคมขนส่งของประเทศ 2 ล้านล้านบาท ที่มีกระแสข่าวว่ารัฐบาลอาจจะล้มเลิกโครงการกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท นั้น ขอยืนยันว่าไม่เป็นความจริง เพราะขณะนี้ทางกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญได้ส่งรายงานการพิจารณาของ กมธ.ไปยังสภาผู้แทนราษฎรตั้งแต่ต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาแล้ว ซึ่งขณะนี้รัฐบาลรอการบรรจุระเบียบวาระอยู่
ทั้งนี้ คาดว่าน่าจะบรรจุได้ในสัปดาห์ถัดการประชุมพิจารณาแก้ไรรัฐธรรมนูญแล้วเสร็จ คือช่วงระหว่างวันที่ 4-5 กันยายนนี้ ก็น่าจะเริ่มพิจารณาได้ ที่สำคัญโครงการนี้จะเป็นการพัฒนาระบบโลจิสติกส์ทั้งระบบตั้งแต่ ต้นน้ำ กลางน้ำ ปลายน้ำ ให้สมดุลย์และครบวงจร การลงทุนระยะยาวที่คุ้มค่าของรัฐบาลเป็นสิ่งจำเป็นต้องทำ รวมถึงนานาอารยประเทศก็รับรู้และให้ความเชื่อมั่นอย่างสูงต่อประเทศไทย
นายอนุสรณ์กล่าวถึงภาพรวมของการประชุมรัฐสภา เพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม ประเด็นที่มา ส.ว. และการประชุมสภาเพื่อพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2557 ซึ่งบรรยากาศตรึงเครียดเป็นระยะๆ มีการกระทบกระทั่งกันตลอด ว่า ไม่เหนือความคาดหมาย เพราะพรรคประชาธิปัตย์ประกาศตัวชัดเจนจะทำงานแบบ 1 พรรค 2 ระบบ คือ ระบบม็อบ และ ระบบรัฐสภา และระบบรัฐสภา ยังแบ่งออกเป็นอีก 2 ระบบย่อย คือ ระบบบีบคอเพื่อน ส.ส. และบีบคอเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งที่ความครบถ้วนสมบูรณ์ของกระบวนการประชาธิปไตย ส่วนหนึ่งน่าจะมาจากการมีฝ่ายค้านที่สร้างสรรค์ มีประสิทธิภาพ มีความรู้ ความสามารถ ทำตัวเป็นที่พึ่งที่หวัง เป็นอีกทางเลือกของประชาชน ซึ่งมีโอกาสที่จะได้เป็นรัฐบาลในอนาคต แต่พรรคประชาธิปัตย์ กลับโกรธแค้น ที่ประชาชนไปเลือกพรรคที่มีฝีมือ มีความสามารถทางการบริหาร เลยกล่าวหาว่า กินรวบประเทศ
หลายคนต้องหลั่งน้ำตาที่เห็นบรรยากาศเสื่อมถอยของสภา แต่นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรค นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคไม่เดือดร้อนอะไรบ้างเลยหรือ ซึ่งถ้าจะมีคนในพรรคประชาธิปัตย์ต้องร้องไห้เสียใจกับเหตุการณ์ดังกล่าว วันนี้คงจะเหลือเพียงนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ทนเห็นจิตวิญญาณประชาธิปไตยของพรรคประชาธิปัตย์หล่นหายไปในยุคนี้ไม่ได้ ฉายาเผด็จการเสียงข้างน้อย จึงน่าจะเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนและติดตัวพรรคประชาธิปัตย์ตลอดไป และสิ่งที่น่าสะเทือนใจในขณะนี้ ส.ส.พรรคเพื่อไทย ได้เริ่มจับกลุ่มหารือ เพื่อจะหาเงินซื้อประกันชีวิตเพื่อไปทำงานในสภา เพราะขนาดตำรวจยังถูกบีบคอ นับประสาอะไรกับ ส.ส.จะไม่โดนทำร้าย
นายอนุสรณ์กล่าวถึงกรณีนายคณิต ณ นคร ประธานกรรมการปฏิรูปกฎหมาย (คปก.) ออกมาเตือนการแก้ไขรัฐธรรมนูญในเรื่องที่มาของ ส.ว. อาจขัดรัฐธรรมนูญว่า ก่อนหน้านี้นายคณิต ก็เคยออกมาเตือนเรื่อง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านๆ แล้วครั้งหนึ่งวันนี้บทบาทของนายคณิตนั้นน่าคิดว่าเป็นอย่างไร หลายคนตั้งข้อสงสัยว่าเหตุใดกฎหมายที่ส่งผลต่อการพัฒนาประเทศหรือการส่งเสริมความเป็นประชาธิปไตยกลับถูกออกมาตั้งคำถาม แต่กฎหมายที่มาจากคณะปฏิวัติรัฐประหารหลายต่อหลายเรื่องคณะกรรมการชุดนี้กลับไม่ออกมาแสดงความคิดเห็นหรือคิดเสนอให้มีการแก้ไขเพื่อความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์บ้าง จึงขอตั้งคำถามกลับว่า วันนี้คปก.ได้แสดงบทบาทเพื่อปฏิรูปกฎหมายอันส่งผลต่อการพัฒนาประชาธิปไตยแล้วหรือยัง
นายอนุสรณ์กล่าวถึงกรณีความคืบหน้าการจัดประชุมเวทีสภาปฏิรูปในวันที่ 25 สิงหาคมนี้ ว่า ถึงนาทีนี้คงชัดเจนแล้ว ที่พรรคประชาธิปัตย์ และกลุ่ม 40 ส.ว. ยืนยันแน่นอนจะไม่เข้าร่วมเวทีสภาปฏิรูป ซึ่งถือเป็นสิ่งที่น่าเสียดายที่พรรคประชาธิปัตย์และเครือข่ายปฏิเสธกระบวนการสภาปฏิรูปนี้อย่างสิ้นเชิง ถึงแม้จะให้เหตุผลว่าการจัดเวทีสภาปฏิรูปของรัฐบาลไม่มีความชัดเจน แต่รัฐบาลก็ได้เรียนเน้นย้ำเสมอมาว่ารัฐบาลอยากเห็นทุกฝ่ายเข้ามามีส่วนร่วม คนละไม้คนละมือ สร้างกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อหารือให้ได้แนวทางของประเทศไทย ไปสู่ความปรองดองสมานฉันท์ เป็นสังคมที่ไม่มีความขัดแย้งในอนาคต ความไม่ชัดเจนที่กล่าวหารัฐบาลนั้น จึงเกิดจากมายาคติ ที่คิดเอง เออเอง เพราะความชัดเจนจะเกิดชัดขึ้นได้ ก็ต่อเมื่อทุกฝ่ายมาร่วมด้วยช่วยกัน
การออกมาปฏิเสธกระบวนการสภาปฏิรูปครั้งนี้ จึงอยากถามจุดยืนของพรรคประชาธิปัตย์ว่าวันนี้อยู่ข้างประชาชนหรือไม่ จะรอให้ประชาชนต้องมาก่อนไปอีกนานแค่ไหน ทำไมไม่ลุกขึ้นมาร่วมมือกับรัฐบาลและทุกภาคส่วนก้าวข้ามความขัดแย้งไปพร้อมๆกัน
นายอนุสรณ์ยังกล่าวถึงกรณีนายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการกิจการสภาฯ กล่าวหาว่า ส.ส.พรรคเพื่อไทยกดดันให้กัปตันประจำเครื่องบินเปิดประตูขอลงที่สนามบินดอนเมือง หลังลงจอดชั่วคราวก่อนไปสนามบินสุวรรณภูมิว่า เรื่องดังกล่าวนายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 2 พร้อมด้วยนายสามารถ แก้วมีชัย ส.ส.เชียงราย พรรคเพื่อไทย นางอรุณี ชํานาญยา ส.ส.พะเยา พรรคเพื่อไทย ได้ออกมาแถลงชี้แจงแล้วว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะอะไร ไม่ได้เป็นการกดดันให้เครื่องบินจอดที่สนามบินดอนเมืองที่อยู่ใกล้บ้านของ ส.ส.อย่างที่นายบุญยอดกล่าวหาแต่อย่างใด
ซึ่งเรื่องนี้ต้องขอตั้งข้อสังเกตกับนายบุญยอด ที่พยายามจะทำหน้าที่ในสภาในแนวละเอียดแทบทุกเรื่อง เช่น แจ้งว่ามีการเล่นไฮโลในบริเวณข้างตึกวุฒิสภา แต่เมื่อตรวจสอบแล้วก็พบว่าเป็นแค่การเล่นหมากรุก เรื่องปลาคาร์ปหน้าอาคารรัฐสภาตายไป 10 กว่าตัว จะเป็นเรื่องที่น่ายินดียิ่งกว่านี้ถ้าข้อมูลที่นายบุญยอดนำมาแสดงนั้นเป็นข้อมูลที่ตรวจสอบแล้วถูกต้อง เพราะสุดท้ายนายบุญยอดก็จะเป็นฝ่ายที่ถูกตอกกลับหน้าหงายเสียเองในทุกครั้ง เพราะข้อมูลไม่แน่น ทำให้ประชาชนสับสน จึงอยากฝากนายบุญยอดและพรรคประชาธิปัตย์ให้ตรวจสอบข้อมูลให้ดีก่อนที่จะนำมาเสนอต่อสาธารณชนทุกครั้ง เพราะบางครั้งคนอื่นต้องเสียเวลามาแก้ไขในเรื่องไม่เป็นเรื่อง จากพวกจุกจิก ขี้ฟ้อง แต่สุดท้ายกลายเป็นเรื่องโอละพ่อ อยู่ร่ำไป
นายอนุสรณ์กล่าวถึงกรณีกรุงเทพมหานครได้สั่งการให้สำนักงานเขต 50 เขต สำรวจป้ายโฆษณาบนทางเท้าในพื้นที่ เนื่องจากมีประชาชนร้องเรียนว่าป้ายโฆษณากีดขวางทางเท้า และได้ทำการรื้อถอนแล้วบางจุดว่า ปัญหาดังกล่าวสะท้อนให้เห็นถึงความสะเพร่า ไม่รอบคอบ ไม่รู้ว่าบริษัทเอกชนที่รับสัมปทานหรือ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ที่มักง่ายกันแน่ ถึงได้มีการติดตั้งป้ายในลักษณะนั้น ซึ่งมันขวางทางเท้า ทางจักรยาน ทำให้ส่งผลกระทบโดยตรงกับประชาชน จึงขอเรียกร้องไปยังผู้ว่าฯ กทม.ให้เร่งดำเนินการแก้ไข ทั้งช่วงการรื้อถอนและหลังจากการรื้อถอน เพราะต้องทำทางเท้าใหม่ ช่วงนี้ฝนก็ตกบ่อย ประชาชนก็เรียกหาแต่ ม.ร.ว.สุขุมพันธุ์ อยู่เรื่อยๆ น้ำก็ท่วมถนนทางเท้าก็พัง เพราะฉะนั้นควรใช้สติพิจารณาดีๆ ก่อนที่จะอนุมัติหรือสั่งการอะไร อย่ามักง่ายทำส่งๆ ถึงเวลาก็เซ็นอนุมัติงบ สุดท้ายก็ต้องคอยมานั่งแก้ไขทีหลัง ส่วนป้ายที่รื้อถอนมานั้นหากยังไม่มีที่เก็บ ก็สามารถเอาไปเก็บที่สนามกีฬาฟุตซอลอารีน่า หนองจอก ก็น่าจะเหมาะสม