ส.ส.แดงห้าวหนัก นำสมุนยื่นหนังสือ “ขุนค้อน” จี้ลงมติร่างแก้ไข รธน.มาตรา 291 เพื่อรื้อทั้งฉบับ พร้อมบี้ตุลาการศาล รธน.ให้ยกคำร้อง พร้อมไม่รับวินิจฉัยตาม ม. 68
พน.เหวง โตจิราการ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคเพื่อไทย พร้อมด้วยนายอาคม รัตนพจนารถ ตัวแทนกลุ่มประชาชนผู้รักกฎหมาย ยื่นหนังสือเรียกร้องต่อนายสมศักดิ์ เกียรติสุรนนท์ ประธานรัฐสภา ขอให้ดำเนินการลงมติวาระ 3 ร่างแก้ไขเพิ่มเติมรัฐธรรมนูญ มาตรา 291 เพื่อให้ดำเนินการแต่งตั้ง ส.ส.ร.ยกร่างรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ หลังจากที่ศาลรัฐธรรมนูญมีความเห็นให้ทำประชามติก่อนมีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตราดังกล่าว โดยเห็นว่าเป็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับเผด็จการให้เป็นประชาธิปไตย พร้อมให้กำลังใจ ส.ส.312 คนที่ปฏิเสธอำนาจศาลรัฐธรรมนูญในการรับคำร้องแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 68 ที่แก้ไขเพื่อไม่ให้ศาลรัฐธรรมนูญรับเรื่องพิจารณาโดยตรง หากกรณีนั้นๆ เข้าข่ายล้มระบอบการปกครอง
โดย นพ.เหวงอ้างว่า กระบวนการจะต้องผ่านขั้นตอนอัยการเพื่อพิจารณารับเรื่องก่อน การกระทำของศาลรัฐธรรมนูญจึงถือว่าแทรกแซงอำนาจของอัยการ
นายอาคมกล่าวต่อว่า ในวันนี้ตนได้ยื่นหนังสือต่อคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ 1 ฉบับเพื่อขอให้มีคำสั่งยกคำร้อง หรือสั่งไม่รับคำร้องตามมาตรา 68 เพราะตนเชื่อว่าคำร้องทั้ง 5 ฉบับที่ศาลรัฐธรรมนูญรับไว้พิจารณานั้น ไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์ตามรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2550 มาตรา 68 ที่ระบุว่าต้องเป็นการพบเห็นบุคคลหรือพรรคการเมืองเป็นผู้กระทำ แต่ครั้งนี้เป็นการแก้รัฐธรรมนูญเป็นรายมาตรา ซึ่งกระทำโดยรัฐสภา และมีอำนาจในการแก้ไขกฎหมายทุกฉบับ ทั้งนี้ การแก้รัฐธรรมนูญก็เป็นไปตามที่ศาลรัฐธรรมนูญให้คำแนะนำก่อนหน้าด้วย พร้อมเสนอให้มีการเร่งรัฐสภาพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญรวดเดียวทั้ง 3 วาระ
ก่อนหน้านี้ นายอาคม รัตนพจนารถ ทนายความของกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ หรือ นปช. พร้อมด้วยนายกณิตพัฒน์ สมุทรรังสี ทนายความอิสระ เดินทางเข้ายื่นเอกสารถึงคณะตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ
นายอาคม กล่าวว่า การยื่นเอกสารในครั้งนี้มาในฐานะประชาชน ที่ต้องการให้ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาทบทวนยก5 คำร้อง ที่ศาลรัฐธรรมนูญได้รับไว้พิจารณากรณีกลุ่มส.ส.,ส.ว.และกลุ่มพันธมิตรประชาชาเพื่อประชาธิปไตย ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัย การกระทำของ สส.และสว. รวม 312 คน ที่เสนอร่างรัฐธรรมนูญ แก้ไขเพิ่มเติม(ฉบับที่ .. ) พ.ศ. .... โดยแก้ไขมาตรา 68 และมาตรา 237 เป็นการล้มล้างการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุขตามรัฐธรรมนูญ เพื่อให้ได้มาซึ่งอำนาจการปกครองประเทศโดยวิธีการซึ่งไม่ได้เป็นไปตามวิถีทางที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญเนื่องจาก ทั้ง 5 คำร้องนั้นไม่ได้มีการเขียนระบุไว้ว่า การดำเนินการแก้ไขของรัฐสภาในมาตราดังกล่าวส.ส.และส.ว. ทั้ง 312 คน ที่ร่วมลงชื่อจะไม่แตะหมวด 1 ซึ่งเป็นหมวดทั่วไป และหมวด 2 ที่เกี่ยวข้องกับพระมหากษัตริย์ จึงถือได้ว่าคำร้องที่ยื่นมาให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณานั้นเป็นการร้องที่หมกเม็ด และเชื่อโดยบริสุทธิ์ใจว่าหากกลุ่มที่มาร้องมีการระบุถ้อยคำดังกล่าวเชื่อว่าศาลรัฐธรรมนูญจะไม่รับคำร้องอย่างแน่นอน
ขณะที่นายกณิตพัฒน์ กล่าวว่า ต้องการให้ศาลรัฐธรรมนูญทบทวนขอบเขตอำนาจหน้าที่ ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 154 ที่กำหนดให้ศาลรัฐธรรมนูญมีอำนาจวินิจฉัย พระราชบัญญัติ และกฎหมายอื่นๆ แต่ไม่ได้ระบุว่าให้มีอำนาจพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญได้