ส.ส.พัทลุง ปชป.ยัน ปชป.ค้านชำเราที่มา ส.ว.กลับไปเป็นสภาผัวเมีย เชื่อรองรับพวกพรรคเพื่อไทยอกหัก บัญชี 3 บัญชี 4 ขัดรัฐธรรมนูญแน่ อีกทั้งขั้นตอนแก้ไขมีปัญหาส่อโมฆะ จ่อยื่นศาลตีความ ด้านโฆษก ปชป.ส่ง 80 ส.ส.ถล่ม ปมที่มา ส.ว.ตอก “วราเทพ” ไม่ได้ส่งเทียบเชิญร่วมปาหี่ปฏิรูป เตือนเลิกเล่นละครการเมือง อย่าเสียเวลาพิมพ์จดหมาย
วันนี้ (19 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงท่าทีของพรรคประชาธิปัตย์ กรณีการประชุมร่วมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่าง ว่า รัฐบาลระบุว่าจะพิจารณาแค่ที่มาของ ส.ว.ซึ่งพรรคเห็นด้วยกับ ส.ว.จากการเลือกตั้ง แต่เราคัดค้านกรณีการยกเลิกเงื่อนเวลาที่เปิดให้ ส.ว.เลือกตั้งที่จะหมดวาระในเดือน มี.ค.2557 สามารถลงสมัครต่อได้ จากเดิมที่ต้องเว้นวรรค 1 วาระ หรือ 4 ปี หรือการเปิดช่องให้ ส.ส.ลาออกและมาสมัคร ส.ว.ได้ทันที จากเดิมที่ผู้สมัคร ส.ว. ต้องปลอดจากการเมือง คือ ไม่เป็นสมาชิกพรรคการเมือง 5 ปี หรือการเปิดให้สามี ภรรยา พ่อ แม่ ที่เป็น ส.ส.สามารถให้คนในครอบครัวลงสมัครได้ ก็จะกลายเป็นสภาครอบครัว หรือสภาผัวเมีย เป็นการผูกขาดอำนาจในจังหวัดนั้นๆ ไว้กับคนแค่สกุลเดียว ทั้งนี้ ตนมองว่าเป็นการแก้ไขเพื่อหาทางออก รองรับบัญชี 3 บัญชี 4 ในพรรคเพื่อไทย ที่ขณะนี้พวกบัญชี 1 บัญชี 2 ที่เคยติดโทษแบนทางการเมืองออกมารับตำแหน่งได้แล้ว จึงต้องมีการผ่องถ่ายคนในเครือข่ายใกล้ชิด โดยจัดหาตำแหน่งให้แทน ซึ่งกรณีนี้ขัดต่อหลักการและเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญทั้งปี 40 และ 50 ก็จะกลายเป็นสภาผูกขาด
สำหรับร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่าง ยังมีปัญหาเรื่องความชอบด้วยกฎหมาย เนื่องจากในระหว่างการประชุมร่วมรัฐสภาวาระที่ 1 มีการนับองค์ประชุมแต่ไม่ครบ พรรคประชาธิปัตย์ขอให้แปรญัตติใน 60 วัน ขณะที่พรรคเพื่อไทยให้แปรญัติใน 15 วัน แต่ประธานรัฐสภากลับสรุปทันทีว่า ให้แปรญัตติภายใน 15 วัน จากนั้นได้มีการตั้งกรรมาธิการในวาระ 2 ทั้ง 3 ชุดทำหน้าที่พิจารณาต่อ โดยผ่านไปแล้ว 13 วัน แต่ประธานรัฐสภากลับเรียกประชุมใหม่ เพื่อย้อนขบวนการให้นับองค์ประชุมใหม่ว่า ครบและโหวตว่า จะแปรญัตติภายใน 15 วัน โดยโมเมว่าเป็นขั้นตอนที่ถูกต้องแล้ว แต่ในทางกฎหมายก็เกิดคำถามว่า จะเริ่มนับการแปรญัตติในช่วง 15 วันครั้งแรกที่องค์ประชุมไม่ครบ หรือแปรญัตติ 15 วันครั้งที่สอง เพราะ นายชวน หลีกภัย ประธานสภาที่ปรึกษาพรรคประชาธิปัตย์ และตน ได้ทำเรื่องขอแปรญัตติที่นับจาก 15 วันจากครั้งหลังกับประธานกรรมาธิการพิจารณาแก้ไขร่างรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่าง แต่ถูกปฏิเสธว่า ยื่นเกินเวลา 15 วันนับจากครั้งแรก
“หากมีการโหวตผ่านวาระที่ 3 หลังวันที่ 20 ส.ค.ซึ่งก่อนที่จะนำขึ้นทูลเกล้าฯ ภายใน 15 วัน ผมจะยื่นให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความทันทีว่า การแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้ง 3 ร่างถือเป็นโมฆะหรือไม่ ซึ่งได้สอบถามนักกฎหมายหรือสมาชิกสภาร่างรัฐธรรมนูญ ส.ส.ร.ที่ร่างรัฐธรรมนูญ ต่างฟันธงว่า 100 เปอร์เซ็นต์ ต้องนับจากการลงมติกำหนดวันแปรญัตติครั้งที่ 2 จึงมีปัญหาว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ 3 ฉบับนี้เป็นโมฆะ หากศาลชี้ให้เป็นโมฆะ ก็ต้องมาเริ่มนับหนึ่งใหม่หมดเพื่อความถูกต้องตามหลักกฎหมาย” นายนิพิฏฐ์กล่าว
ด้าน นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แถลงภายหลังการประชุม ส.ส.พรรคว่า ที่ประชุมได้มีการหารือถึงการประชุมร่วมรัฐสภาในวันที่ 20 ส.ค.เพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มา ส.ว.โดยเห็นว่าเเม้การเลือกตั้งจะเป็นกระบวนการตามประชาธิปไตยที่ถูกต้อง คือการเลือกผู้เเทนของประชาชน แต่ว่าต้องดูว่าวิธีการใดจะเป็นวิธีที่มีความเหมาะสม ซึ่ง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ได้แปรญัตติจำนวนมาก ที่ดูแล้วไม่ซ้ำประเด็น โดยมีกว่า 80 คนที่ญัตติที่ไม่ซ้ำกัน จึงขอเรียกร้องให้ประธานในที่ประชุมได้เปิดโอกาสให้สมาชิกได้แสดงเหตุผลชี้เเจงข้อดีข้อเสียให้ประชาชนได้ทราบ และไม่มีเหตุใดที่จะปิดกั้น ซึ่งเชื่อว่าระยะเวลาเพียง 2 วัน ก็น่าจะพิจารณาเสร็จสิ้น หากรัฐบาลไม่ตีรวน
นายชวนนท์ ยังเปิดเผยว่า ขณะนี้ นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ยังไม่ได้รับจดหมายเชิญเข้าร่วมสภาปฏิรูปการเมืองจากนายวราเทพ รัตนากร รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ รมช.เกษตรฯ อย่างไรก็ตามพรรคขอย้ำว่ารัฐบาลต้องเลิกแสดงละครทางการเมือง เพราะคนที่ท่านเชิญ และตอบรับแล้วนั้น ล้วนแต่เป็นคนสนิทสนม อีกทั้งอย่าเสียเวลาพิมพ์จดหมาย เพราะอย่างไรเสียประชาธิปัตย์จะไม่เข้าร่วม