แกนนำ ปชป.ยอมรับคุยแกนนำพันธมิตรฯ จับมือล้มระบอบทักษิณ เพราะมีเป้าหมายเดียวกันในการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม และโค่นระบอบทักษิณ คาดแกนนำพันธมิตรฯ จะพบพูดคุยกับแกนนำ ปชป.ชุดใหญ่ เร็วๆ นี้
วันนี้ (16 ส.ค.) นายนิพิฏฐ์ อินทรสมบัติ ส.ส.พัทลุง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวยอมรับว่า เมื่อคืนวันที่ 15 ส.ค.ที่ผ่านมา ตนและแกนนำพรรคประชาธิปัตย์บางส่วน เช่น นายเฉลิมชัย ศรีอ่อน เลขาธิการพรรค คุณหญิงกัลยา โสภณพนิช และนายกษิต ภิรมย์ ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ได้นัดหารือกับนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ โฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย พร้อมด้วยแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ บางส่วน หลังจากก่อนหน้านี้ตนได้ไปขึ้นเวทีของกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณที่สวนลุมพินี และบังเอิญได้พบกับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ บางคน จึงได้พูดคุยกันหลังเวทีและมีการนัดหารือกันรอบแรกเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเรื่องทั้งหมดตนได้เรียนให้ผู้ใหญ่ในพรรครับทราบแล้ว จากนั้นจึงมีการนัดเจรจาในรอบที่ 2 เมื่อคืนวันที่ 15 ส.ค. เพื่อนำข้อสรุปในการหารือไปบอกกล่าวแกนนำของแต่ละฝ่าย เพราะเห็นว่าทั้งสองกลุ่มต่างมีเป้าหมายเดียวกัน คือ คัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมที่จะลบล้างความผิด โดยเฉพาะคดีอาญา ทุจริต การหมิ่นสถาบันพระมหากษัตริย์ และโค่นล้มระบอบทักษิณ
ทั้งนี้ หลังจากการพูดคุยก็เห็นในแนวทางเดียวกันว่า แม้ขณะนี้เราจะมีแนวทางวิธีการต่อสู้ที่แตกต่างกัน แต่มีเป้าหมายเดียวกันก็สามารถร่วมกันขับเคลื่อนไปด้วยกันได้ เพราะเชื่อว่าสุดท้ายแล้วแนวทางการต่อสู้ของทุกกลุ่มก็จะออกมาเป็นแนวทางเดียวกันที่เป็นเอกภาพ เพราะขณะนี้ประเทศชาติเกิดวิกฤตปัญหามากมาย ทั้งค่าครองชีพสูง ปัญหาปากท้อง สินค้าเกษตรตกต่ำที่กระทบต่อประชาชนทั้งประเทศ แต่รัฐบาลกลับไม่มีการพูดถึงและแก้ไข กลับพยายามทำเรื่องที่ขัดแย้งแตกแยก
ผู้สื่อข่าวถามว่า เหตุใดจึงมีการเปิดเผยก่อนที่การเจรจาจะจบ และนำไปสู่การรวมกลุ่มเคลื่อนไหว นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า เพราะต้องการให้ความมั่นใจกับประชาชนเจ้าของประเทศที่ตาสว่างแล้ว และต้องการคัดค้านความไม่ถูกต้องในการทำลายหลักนิติรัฐนิติธรรมของชาติ ซึ่งที่ผ่านมากลุ่มมวลชนของพันธมิตรฯ และประชาชนยังไม่มั่นใจในการขับเคลื่อนของพรรคหรือแม้แต่ผู้สนับสนุนพรรค หรือประชาชนที่ยังวางตัวเป็นไทยเฉยว่า เราไม่โดดเดี่ยว ครั้งนี้จึงเป็นสิ่งที่ดีเพื่อบอกกล่าวให้กับคนที่ยังไม่มั่นใจ เพื่อให้ออกมาร่วมแสดงออกร่วมกัน ทั้งนี้ในการหารือทั้งสองฝ่ายก็จะมีการเปิดเผยเรื่องที่พูดคุยผ่านสื่อและมวลชนของตัวเอง
ส่วนการออกมาเปิดเผยครั้งนี้กังวลว่ารัฐบาลจะสกัดการเคลื่อนไหวครั้งต่อไปหรือไม่ นายนิพิฏฐ์กล่าวว่า คงทำได้ยาก เพราะเป็นการแสดงออกที่ถูกต้องตามกฎหมาย และอย่างน้อยก็เป็นการบอกกล่าวและให้ความมั่นใจกับคนที่จะร่วมเคลื่อนไหวกับพรรคว่าเราไม่โดดเดี่ยว และคิดว่าในเวลาอันใกล้นี้จะมีตัวแทนของพรรคชุดใหญ่เจรจากับแกนนำกลุ่มพันธมิตรฯ
