แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรฯ โผล่ให้กำลังใจกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ แนะแกนนำปรับยุทธวิธีทางจิตวิทยา และเป้าหมายต้องชัดเจน เชื่อ ปชป.มีความพร้อมเคลื่อนไหวต้านนิรโทษกรรม แนะถ้าไม่ลาออกจาก ส.ส.ก็ยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ หากสู้ในสภาไม่ได้ ยันพันธมิตรฯ ไม่เคลื่อน ถ้าออกมาต้องคุ้มค่า อีกด้านชุมนุมหน้ากากขาวเซ็นทรัลเวิลด์ มวลชนสวนลุมฯ นำเอง
วันนี้ (11 ส.ค.) ที่สวนลุมพินี ซึ่งเป็นสถานที่ชุมนุมของกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่น 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้เดินทางมาสังเกตการณ์การชุมนุมและเป็นกำลังใจให้แก่ผู้ชุมนุม โดย นายปานเทพ กล่าวว่า ผู้ที่เข้าร่วมชุมนุมครั้งนี้ถือว่าเป็นผู้ที่รักชาติ จึงได้ออกมารวมตัวกัน ตนจึงเข้ามาให้กำลังใจ แต่มองว่าการเคลื่อนไหวที่ผ่านมายังไม่มีพลังมากเพียงพอนั้น เนื่องจากแกนนำยังขาดประสบการณ์ในการนำมวลชลอย่างเต็มตัว จึงต้องมีการปรับยุทธวิธีทางจิตวิทยา การนำมวลชน รวมถึงเป้าหมายในการเคลื่อนไหวที่ต้องชัดเจน ให้มวลชนมีความหวัง และการที่กองทัพธรรมเข้ามามีส่วนร่วมก็ถือเป็นเรื่องที่ดี
นายปานเทพ กล่าวต่อว่า ขณะนี้พรรคประชาธิปัตย์ ถือว่ามีความพร้อมที่สุดที่จะออกมาเคลื่อนไหวคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เนื่องจากมีมวลชน นักปราศรัย และช่องทางการสื่อสาร ตนจึงมองว่าพรรคประชาธิปัตย์มีอยู่สองทางเลือกในการคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม คือออกมาเล่นเกมนอกสภา ใช้มวลชนกดดันไม่ให้ พ.ร.บ.นิโทษกรรมวาระ 2 และ 3 เดินหน้าได้ เหมือนที่ นายสนธิ ลิ้มทองกุล แกนนำพันธมิตรฯ เสนอไป หรือทางเลือกที่สอง ต่อสู้ในสภา แต่ถึงอย่างไรก็ไม่สามารถที่จะต่อสู้กับฝ่ายรัฐบาลได้ แล้วยื่นเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญตีความ เนื่องจากมองว่า พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ขัดต่อรัฐธรรมนูญชัดเจนมาก เพราะมี ส.ส.ได้รับประโยชน์ และยืนยันว่า พันธมิตรฯ มีจุดยืนชัดเจนที่ไม่ยอมรับร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ที่พันธมิตรฯ ยังไม่เคลื่อนไหวนั้น เนื่องจากมีข้อจำกัดในเรื่องคดีที่อยู่ในชั้นศาล ทำให้การเคลื่อนไหวครั้งต่อไปเปรียบเสมือนธนูดอกสุดท้าย ที่เมื่อออกมาแล้วต้องคุ้มค่า และเรานึกถึงการปฏิรูปการเมืองของประเทศ ไม่ใช่เพียงการต้าน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม
เมื่อถามว่า ปัจจัยอะไรที่จะสามารถทำให้ล้มรัฐบาลได้ นายปานเทพ กล่าวว่า อยู่ที่การกระทำของรัฐบาลเอง หากมีการแก้กฎหมายเพื่อพวกพ้องคนที่อยู่กลางๆ ก็จะรับไม่ได้ รวมถึงฝ่ายที่คัดค้านรัฐบาลหากรวมตัวเป็นเอกภาพก็จะมีพลังมากขึ้น เมื่อถามต่อถึงรัฐบาลแห่งชาติ นายปานเทพ กล่าวว่า มีความเป็นไปได้อยู่แต่ยาก เพราะแต่ละฝ่ายมีแนวทางของตัวเองอยู่หากมารวมกันก็จะเสียมวลชน
อย่างไรก็ตาม นายปานเทพได้กล่าวชี้แจงกับผู้สื่อข่าวเพิ่มเติมว่า เหตุที่ไปยังที่ชุมนุมนั้น ตนตั้งใจจะไปเยี่ยมกองทัพธรรม ซึ่งเข้ามาปักหลักชุมนุมร่วมกับผู้ชุมนุมก่อนหน้านี้ ซึ่งพันธมิตรฯ กับกองทัพธรรมเปรียบเสมือนเป็นญาติกัน อีกทั้งสวนลุมพินีอยู่ใกล้บ้าน ซึ่งก็ได้พบปะพูดคุยกับ ร.ต.แซมดิน เลิศบุศย์ ผู้ประสานงานกองทัพธรรม และสังเกตการณ์เพื่อเก็บข้อมูลมาด้วย
มีรายงานว่า ก่อนหน้านี้ คณะเสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ซึ่งประกอบด้วย พล.อ.ปรีชา เอี่ยมสุพรรณ, พล.ร.อ.ชัย สุวรรณภาพ, พล.อ.ท.วัชระ ฤทธาคณี, พล.อ.ชูเกียรติ ตันสุวัฒน์ และ นายไทกร พลสุวรรณ ได้ประชุมหารือภายในศาลาไทยภายในสวนลุมพินี ซึ่งกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณใช้เป็นกองบัญชาการใหญ่ อย่างเคร่งเครียด เป็นเวลานานกว่า 30 นาที กระทั่งนายปานเทพเดินทางมาถึง นายไทกร หนึ่งในคณะเสนาธิการร่วมฯ ได้ออกมาเชิญนายปานเทพ เข้าไปหารือภายในศาลาไทยเป็นเวลาประมาณ 30 นาที
อีกด้านหนึ่งที่ลานหน้าศูนย์การค้าเซ็นทรัลเวิลด์ สี่แยกราชประสงค์ เมื่อเวลา 14.00 น.มวลชนกลุ่มกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ได้จัดการชุมนุมหน้ากากขาว เพื่อแสดงพลังเชิงสัญลักษณ์ ต่อต้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก่อนที่จะเดินขบวนไปยังสถานที่ชุมนุมบริเวณสวนลุมพินี ไปตามเส้นทางถนนราชดำริ อย่างไรก็ตามในวันนี้ไม่พบว่ามีการประกาศนัดชุมนุมของกลุ่ม V For Thailand ผ่านทางเฟซบุ๊กแต่อย่างใด มีเพียงการประชาสัมพันธ์กิจกรรมในต่างจังหวัด อาทิ จ.นครสวรรค์ จ.อุดรธานี จ.หนองคาย จ.ปัตตานี เป็นต้น
ต่อมา นายไทกร แถลงข่าวว่า ในวันนี้ เสนาธิการร่วมกองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ ได้ตกลงร่วมกันว่า จะเปิดรับทุกกลุ่มที่จะร่วมโดยไม่ปิดกันขอให้มีแนวทางเดียวกันในการโค่นระบอบทักษิณ ก็สามารถร่วมกับเราได้ รวมถึงได้พูดถึงเนื้อหาการปราศรัยบนเวทีว่า ในช่วงกลางวันจะพูดด้านวิชาการ เกี่ยวกับการปฏิรูปประเทศในด้านต่างๆ หลังจากโค่นระบอบทักษิณได้แล้ว ส่วนในช่วงค่ำจะปราศรัยโจมตีระบอบทักษิณ ส่วนที่นายปานเทพ ได้เดินทางเข้ามาพูดคุยกับเสนาธิการร่วมนั้น ก็ได้แนะนำถึงแนวทางการจัดกิจกรรมในการเคลื่อนไหวมวลชน ซึ่งทางเราก็พร้อมที่จะนำมาปรับใช้
บรรยากาศการชุมนุมของ กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณ (กปท.) ว่า ในช่วงบ่าย ได้มีฝนตกลงมาอย่างหนัก ทำให้ประชาชนไปรวมตัวกันบริเวณหน้าเวทีปราศรัยที่มีการกางเต็นท์ไว้รองรับ จากนั้นเวลา 15.40 น. กลุ่มหน้ากากขาวที่รวมตัวกันที่ เซ็นทรัลเวิลด์ และกลุ่มนักศึกษาจากโรงเรียนช่างกลแห่งหนึ่ง ประมาณ 30 คน ที่ได้ประกาศเข้าร่วมชุมนุมกับ กองทัพประชาชนโค่นระบอบทักษิณก่อนหน้านี้ ได้เดินทางมาเข้าร่วมชุมนุมบริเวณ สวนลุมพินี ทำให้บรรยากาศคึกคักมากขึ้น ส่วนที่บนเวทีปราศรัยก็ได้มีการสลับสับเปลี่ยนกันขึ้นปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง