ส.ส.ระยอง ปชป. จี้ความจริงใจ “พีทีที โกลบอล” ชี้หวังจ่ายค่าเยียวยาน้ำมันรั่วให้น้อย ชาวบ้านห่วงผลกระทบระยะยาว ซัดรัฐฯ เลิกเป็นสุนัขรับใช้ ปตท. เหตุยุชาวบ้านอย่าฟ้อง บี้เรียกค่าเสียหาย ตอกสร้างภาพไร้ปัญหา แต่กรมควบคุมมลพิษ ระบุเสี่ยงมะเร็ง ซัดอย่าหลอกนักท่องเที่ยว คาดปัญหาจบเดือนนี้ แนะ รบ.สั่ง ปตท.ตั้ง 3 กองทุนฟื้นฟู
วันนี้ (14 ส.ค.) นายสาธิต ปิตุเตชะ ส.ส.ระยอง พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงการแก้ไขปัญหาน้ำมันรั่วที่เกาะเสม็ด จ.ระยอง ว่าตนขอเรียกร้องความจริงใจจากบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) ที่ประกาศจะรับผิดความเสียหายที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ดังกล่าวทั้งหมด เพราะขณะนี้การจ่ายเงินชดเชยเยียวค่าเสียหายมีความพยายามจะจ่ายให้น้อยที่สุด เร่งให้ประชาชนมารับค่าเสียหายโดยเร็ว ทั้งที่ชาวบ้านยังไม่ทราบว่าในระยะยาวจะได้รับผลกระทบอะไรบ้าง จึงไม่เดินทางไปรับค่าเสียหายในช่วงนี้ รวมทั้งการระบุว่าหากไม่พอใจให้ชาวบ้านยื่นอุทธรณ์นั้น ถือเป็นเรื่องยุ่งยาก เพราะชาวบ้านเข้าถึงเรื่องนี้ได้ยาก
“ขอเรียกร้องรัฐบาลอย่าทำตัวเป็นสุนัขรับใช้บริษัท ปตท.จำกัด (มหาชน) โดยต้องเรียกร้องค่าเสียหายให้ประชาชน เนื่องจาก ปตท.ก็ไม่ได้จ่ายค่าเสียหายเอง มีบริษัทประกันภัยจากต่างประเทศเป็นผู้จ่ายเงิน ซึ่งการที่รัฐบาลเรียกร้องไม่ให้ชาวบ้านฟ้อง ปตท. ถือว่าผิดหลักการ” นายสาธิตกล่าว
ส่วนกรณีที่รัฐบาลพยายามสร้างภาพว่าไม่มีปัญหาเกิดขึ้น โดยเฉพาะการที่นายปลอดประสพ สุรัสวดี รองนายกรัฐมนตรี และนายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หัวหน้าพรรครักประเทศไทย ไปลงเล่นน้ำบริเวณอ่าวพร้าวนั้น แต่กรมควบคุมมลพิษระบุว่าบริเวณนั้นมีค่าสารปรอทเกินมาตรฐาน 29 เท่า ทำให้มีความเป็นห่วงนักท่องเที่ยวที่ลงเล่นน้ำทุกวันจะได้รับสารปรอทสะสมจนเป็นโรคมะเร็ง ซึ่งหากจะสร้างภาพก็ควรดำเนินการบนพื้นฐานข้อเท็จจริง ไม่ใช่หลอกลวงชาวระยองและนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม เชื่อว่าการแก้ไขปัญหาดังกล่าวจะเสร็จภายในเดือนนี้ ในระยะยาวรัฐบาลต้องให้ ปตท. ตั้ง 3 กองทุน คือ 1. กองทุนเพื่อสิ่งแวดล้อม ที่ต้องใช้เงินกว่า 100 ล้านบาท 2. กองทุนประมงพื้นบ้าน ต้องมีเงินตั้งแต่ 20 ล้านบาท และ 3. งบประมาณให้หน่วยงานกลางใช้เพื่อพิสูจน์ความเสียหายของทรัพยากรธรรมชาติ ที่ต้องพลิกฟื้นระบบนิเวศ