ระยอง - กรมทรัพยากรทางทะเลฯ หวั่นเงินค่าประกัน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งในระยะแรก และระยะยาวไม่น่าจะเพียงพอเยียวยา พร้อมเผยไม่ยากให้ประชาชนแตกตื่นเกี่ยวกับสารปรอท แต่จริงๆ แล้วสารปรอทเป็นสารขั้นต้นของโรคมะเร็ง ด้าน ปตท. ชี้แจงท่อรับน้ำมันดิบแตกเกิดจากในตัวท่อระเบิด ไม่ใช่เกิดจากเจ้าหน้าที่
วันนี้ (14 ส.ค.) ที่ห้องประชุมสิงห์บุรานุรักษ์ชั้น 4 ศูนย์ราชการ จ.ระยอง คณะอนุกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบการบริหารงบประมาณ ของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และคณะอนุกรรมาธิการศึกษาตรวจสอบและติดตามการบริหารงบประมาณของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง กรมป่าไม้ และกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ในคณะกรรมาธิการกิจการองค์กรตามรัฐธรรมนูญและติดตามการบริหารงบประมาณ วุฒิสภา
นำโดย พ.ต.อ.สนธยา แสงเภา ประธานคณะอนุกรรมาธิการ คณะอนุกรรมาธิการและที่ปรึกษาฯ เดินทางมาประชุมรับทราบข้อมูลปัญหาท่อรับน้ำมันดิบรั่วในทะเล โดยมี นายวราวุธ ปิ่นเงิน รองผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง พร้อมด้วยนายวิฑูรย์ ชลายนนาวิน รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หัวหน้าส่วนราชการ เจ้าท่าภูมิภาค ผอ.ศูนย์อนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1 ผู้แทนบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมชี้แจงกรณีท่อน้ำมันดิบรั่วในทะเล
รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลฯ กล่าวว่า เหตุการณ์ในอดีตท่อน้ำมันดิบรั่วมา 9 ครั้ง จึงเสนอแนะไม่อยากให้เกิดเป็นครั้งที่ 10 ควรจะมีมาตรการป้องกัน หรือทำการฝึกร่วมกันเป็นการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์บานปลาย จากการประเมินผลกระทบหลายด้าน ด้านทรัพยากรฯ การท่องเที่ยว มลภาวะเป็นพิษ เรื่องการชดเชยเยียวยาแต่ละรายจริงบ้างไม่จริงบ้าง เป็นห่วงบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) มีจำนวนเงินค่าประกัน 50 ล้านเหรียญสหรัฐ ทั้งในระยะแรก และระยะยาวไม่น่าจะเพียงพอ และข้อกังวลเรื่องกรมควบคุมมลพิษที่ออกมาประกาศอ่าวพร้าวมีค่าสารปรอท 2.9 ไมโครกรัมต่อลิตร และอ่าวทับทิม มีค่าสารปรอท 0.25 ไมโครกรัมต่อลิตร ที่ค่ามาตรฐานกำหนดไว้ 0.1 ไมโครกรัมต่อลิตร
ส่วนที่มีการสอบถามว่า ชาวบ้านจะกินปลาได้หรือไม่นั้น ก็ไม่สามารถที่จะบอกได้ เพราะจะกลายเป็นความแตกตื่นของประชาชน และนักท่องเที่ยว แต่จริงๆ แล้วสารปรอทเป็นสารขั้นต้นของโรคมะเร็งรว จะมีการตรวจสอบ และหาทางแก้ไขและป้องกันอย่างจริงใจ และโปร่งใส
ด้าน พล.ต.สุรัตน์ บรรเทาทุรามัย ที่ปรึกษาคณะอนุกรรมาธิการฯ กล่าวว่า สาเหตุเกิดท่อน้ำมันดิบรั่วน่าจะเกิดจากบุคลากรมากกว่าอุปกรณ์ บุคลากรอ่อนการฝึกซ้อมจึงเกิดความสะเพร่า เหตุการณ์นี้เคยเกิดมาแล้วหลายครั้งก็ยังเกิดขึ้นอีก ถึงเวลาแล้วที่จะต้องกำกับดูแลบุคลากรที่มักจะเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ขึ้น โดยจะขอเสนอให้ตัวแทนบริษัท พีทีที ฝากไปถึง นายไพรินทร์ ชูโชติถาวร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในการสร้างภาพลักษณ์ยุทธศาสตร์เชิงรุกโดยให้องค์กรของ ปตท.ไปจัดสัมมนาที่เกาะเสม็ดเพื่อสร้างรายได้ให้พี่น้องชาวระยอง
นายสุเทพ กลิ่นชั้น ผู้แทนบริษัท พีทีที โกลบอล เคมิคอล จำกัด (มหาชน) กล่าวชี้แจงว่า สาเหตุการเกิดท่อน้ำมันดิบรั่วครั้งนี้ไม่ได้เกิดจากความผิดพลาดจากการทำงานของบุคลากร เรามีหลักฐานสาเหตุที่เป็นปัญหาน่าจะเป็นตัวในท่อรับน้ำมันดิบ ซึ่งขณะนี้ทางบริษัทฯ ท่อ และบริษัท พีทีที ได้ว่าจ้างผู้เชี่ยวชาญเรื่องท่อพร้อมจ้างคณะอาจารย์ผู้เชียวชาญจากจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เข้ามาร่วมในการสืบสวนหาสาเหตุว่าทำไมท่อจึงแตก คาดว่าจะทราบผลในเร็วๆ นี้
