xs
xsm
sm
md
lg

“ณัฐวุฒิ” ชม “บิ๊กบัง” สร้างสันติภาพ เชียร์ปาหี่ปฏิรูปไม่ต้องรอ ปชป. เหน็บแค่เด็กโมโหร้าย

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ (ภาพจากแฟ้ม)
รมช.พาณิชย์-แกนนำแดง เหน็บสมัยรัฐบาลมาร์คตั้ง คอป.-ปฏิรูปประเทศ สิ้นเปลือง จิกกัด ปชป.ทำตัวเด็กโมโหร้าย เชียร์รัฐบาลจัดปาหี่ปฏิรูปไปเลยไม่ต้องรอ หาข้ออ้างคู่ขัดแย้งไม่มีก็คุยคนมีประสบการณ์ก็ได้ อีกด้านดักคอหวังดึงเกมแปรญัตติ ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ลืมตัวชม “บิ๊กบัง” นั่ง กมธ.ในนามรัฐบาล ส่งสัญญาณสร้างสันติภาพ

วันนี้ (13 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ และแกนนำแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) กล่าวถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์วิพากษ์วิจารณ์และทำลายความน่าเชื่อถือสภาปฏิรูปการเมือง ว่าตนอยากเตือนความจำพรรคประชาธิปัตย์ หลังจากเหตุการณ์การใช้กำลังเข้าปราบปรามการชุมนุมปี 2553 พรรคประชาธิปัตย์ได้ประกาศแนวคิดที่จะปฏิรูปประเทศขึ้นมา โดยได้ตั้งคณะกรรมการอิสระตรวจสอบและค้นหาความจริงเพื่อการปรองดองแห่งชาติ (คอป.) ที่มีนายคณิต ณ นคร เป็นประธาน และตั้งคณะกรรมการปฏิรูปประเทศขึ้นมา 2 ชุด คือ คณะกรรมการปฏิรูปประเทศ มีนายอานันท์ ปันยารชุน ประธานและคณะสมัชชาปฏิรูปประเทศ มี นพ.ประเวศ วะสี ประธาน สิ่งที่พรรคประชาธิปัตย์ควรจะทบทวน และอธิบายกับสังคมให้ได้ว่า ถ้าการปฏิรูปประเทศโดยนายกรัฐมนตรีเป็นเรื่องไร้ประโยชน์ เป็นเรื่องที่รัฐบาลต้องการเล่นเกมการเมือง ถ่วงเวลาเฉพาะหน้านั้น แล้วที่พรรคประชาธิปัตย์เคยตั้งคณะกรรมการปฏิรูปขึ้นมานั้นคืออะไร งบประมาณใช้ไปเท่าไหร่ ผลลัพธ์ที่ได้สามารถเอามาปฏิบัติแก้ไขความขัดแย้งของประเทศได้อย่างไร

“ผมเห็นว่าอะไรก็ตามที่เป็นความพยายามที่จะแก้ไขความขัดแย้งของประเทศ พรรคการเมืองในฐานะผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ไม่น่าจะแสดงการขัดขวาง โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ที่ช่วงหลังทำตัวเหมือนเด็กโมโหร้าย มีปัญหาอะไรก็ไม่เอาซักอย่างปฏิเสธการปฏิรูป ปฏิเสธการเปลี่ยนแปลงทุกกรณี สมาชิกพรรคเสนอการปฏิรูปพรรคก็ไม่เอา นายกฯ เดินหน้าสภาปฏิรูปก็ไม่เอา คิดอยู่อย่างเดียวก็คือล้มรัฐบาล และจะเป็นรัฐบาลโดยเร็วที่สุด ผมเรียนว่าพรรคประชาธิปัตย์ควรกำหนดแนวคิดให้ชัดเจน ถ้าเห็นว่าจะแสวงประโยชน์จากความขัดแย้ง ก็ประกาศให้ชัดเจน” นายณัฐวุฒิกล่าว

นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนเรียกร้องไปยังสภาปฏิรูปฯ ที่จะมีการประชุมนัดแรก 16 ส.ค.นี้ ว่าไม่ต้องไปคอยพรรคประชาธิปัตย์ ถ้ามาพร้อมกันแล้วก็เดินหน้าต่อไป ป่วยการที่เราไปรอคอยกลุ่มบุคคลที่ปฏิเสธแล้วตั้งแต่ต้น และป่วยการที่จะเชิญคนที่หาโอกาสจากความขัดแย้งเข้ามาแก้ไขวิกฤติความขัดแย้ง เพราะถ้าบ้านเมืองเป็นประชาธิปไตยไม่มีนอกกติกา พรรคประชาธิปัตย์คงคิดว่าตัวเองก็หาโอกาสกลับมาเป็นรัฐบาลได้ยาก จึงเลือกที่จะเล่นเกมนี้ และใครก็ตามที่เข้ามาอยู่สภาปฏิรูปฯ จะเป็นเหยื่อของประชาธิปัตย์ ไม่เว้นแม้แต่นายพิชัย รัตตกุล อดีตประธานรัฐสภา อดีตหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ ที่เป็นปูชนียบุคคลของพรรคมาโดยตลอด แต่เมื่อตอบรับสภาปฏิรูปฯ ก็มีสถานะเป็นคนแก่หูตึง จากปากคำของลูกน้องนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรค ซึ่งตนว่านายพิชัยมีสติสัมปัชชัญญะครบถ้วน แต่ปัญหาเวลานี้สังคมหนักใจเด็กหูตึง อย่างนายอภิสิทธิ์และแก๊งคไอติมของพรรค เพราะไม่ฟังสียงของสังคม และคนที่มีประสบการณ์มากกว่าที่จะมาแก้ไขวิกฤติความขัดแย้ง

ผู้สื่อข่าวถามว่า กลุ่มคนเสื้อแดงจะเข้าร่วมสภาปฏิรูปหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ตนตอบในนาม นปช.ว่า ถ้าได้รับการติดต่อประสานงานในการเข้าร่วมสภาปฏิรูปฯ นปช.ยินดีที่จะเข้าร่วมและให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่ เพราะการต่อสู้ของ นปช.และคนเสื้อแดง เราไม่ได้ต่อสู่ให้คนทุกคนในประเทศเป็นคนเสื้อแดง แต่เราต่อสู้เพื่อให้บ้านเมืองเป็นของคนไทยเท่าเทียมกัน ดังนั้นถ้าหากมีอะไรที่จะสร้างสันติภาพได้ ก็จะเข้าร่วมด้วยความยินดี ทั้งนี้หากรัฐบาลประสานงานก็คงจะประสานไปยังนางธิดา ถาวรเศรษฐ หรือนายจตุพร พรหมพันธุ์ แกนนำ นปช. ซึ่งตนยังไม่ได้ข้อมูลว่ารัฐบาลไปแล้วหรือไม่ และต้องดูด้วยว่ารัฐบาลจะเชิญใคร ซึ่งทาง นปช.จะส่งคนที่มีบทบาทหลักเข้ามาทำหน้าที่อยู่แล้ว

เมื่อถามว่า คู่ขัดแย้งทางบ้านเมือง ไม่ได้เข้ามามีส่วนร่วมในสภาปฏิรูปฯ จะถูกมองว่าคุยกันฝ่ายเดียวหรือไม่ รมช.พาณิชย์กล่าวว่า ไม่ใช่ เพราะการแก้ปัญหาความขัดแย้งมีหลายรูปแบบและวิธีการ การเอาคู่ขัดแย้งมาปรึกษาหารือกัน ก็เป็นอีกวิธีหนึ่งที่หลายประเทศใช้ได้ผล การรวบรวมเอาผู้มีความรู้ ความสามารถ มีประสบการณ์มาพูดคุยกันก็เป็นอีกแนวทางหนึ่ง วันนี้ในฐานะที่พรรคประชาธิปัตย์เป็นคู่ขัดแย้งหลักปฏิเสธชัดเจนและเดินหน้าขัดขวาง ก็เป็นเรื่องที่ผู้มีความรู้ มีประสบการณ์ก็ต้องเดินกันต่อไป

นายณัฐวุฒิยังกล่าวถึงการประชุมคณะกรรมาธิการสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมเพื่อแปรญัตติว่า บรรยากาศกรรมาธิการจะคล้ายกับบรรยากาศในรัฐสภาที่ประชุมพิจารณาในวาระแรก เพราะมีทั้งฝ่ายที่พยายามจะผลักดันให้เดินหน้า และอีกฝ่ายที่มีเจตนาว่าดึงเกมทุกเม็ดทุกนาที ซึ่งเป็นเรื่องยากที่นายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และผู้นำฝ่ายค้านในสภาฯ จะเข้าไปเป็นกรรมาธิการพิจารณาร่างกฎหมายฉบับหนึ่ง ซึ่งผู้เล่นในสนามล้วนแล้วแต่เป็นตัวจี๊ดทั้งสิ้น นอกจากตัวผู้เล่นหลักในพรรคประชาธิปัตย์แล้วยังมีการซื้อตัวนอกอย่างนายแก้วสรร อติโพธิ อดีตคณะกรรมการตรวจสอบการกระทำที่ก่อให้เกิดความเสียหายแก่รัฐ (คตส.) ด้วย เขาคงทำเกมกันน่าดู

“ผมหวังใจว่าใครก็ตามที่นั่งเป็นประธานกรรมาธิการ แต่ไม่ได้นั่งบนบัลลังคงต้องทำหน้าที่และมีมาตรการปกป้องตัวเอง ปกป้องเก้าอี้ หูตาต้องไว สามารถหลบอุปกรณ์บรรดาตัวจี๊ดของพรรคประชาธิปัตย์ที่จะส่งไปให้ได้ เพราะประเด็นที่พรรคประชาธิปัตย์กล่าวหา และสร้างความสับสนนั้น เราได้ชี้แจงไปแล้วทุกประเด็น ไม่ว่าเรื่อง ที่ไม่เกี่ยวข้องกับประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 การยกเว้นแกนนำผู้สั่งการต่างๆ ส่วนเรื่องอื่นจะเป็นเรื่องที่คณะกรรมาธิการจะต้องว่ากันไปในชั้นแปรญัตติ เพียงแต่บรรยากาศอาจจะดูเข้มข้น อาจจะดูมากมายเพราะสถานการณ์เท่านั้นเอง ถือว่าเป็นเรื่องปกติที่คาดการณ์ได้” นายณัฐวุฒิกล่าว

เมื่อถามว่า การที่รัฐบาลเชิญ พล.อ.สนธิ บุญยรัตกลิน หัวหน้าพรรคมาตุภูมิ และอดีตหัวหน้าคณะมนตรีความมั่นคงแห่งชาติ (คมช.) เป็นหนึ่งในคณะกรรมาธิการ คิดว่ามีความเหมาะสมหรือไม่ นายณัฐวุฒิกล่าวว่า ถ้า พล.อ.สนธิที่อยู่ในสถานะผู้นำรัฐประหารมาขับเคลื่อนทางการเมืองนั้น ตนเห็นว่าท่านขาดความชอบธรรม แต่ถ้าผ่านการเลือกตั้งของประชาชนและเดินเข้าสู่สภาอย่างถูกต้องตามกระบวนการประชาธิปไตย ตนก็เห็นว่าท่านมีความชอบธรรมที่จะร่วมกิจกรรมระบบรัฐสภา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อท่านประกาศเดินหน้าสร้างความปรองดองในประเทศ ตั้งแต่เป็นประธานกรรมาธิการปรองดองในช่วงแรกแล้ว ตนถือว่าแนวทางนี้เรายินดีที่จะให้การสนับสนุนได้ การที่ พล.อ.สนธิเข้ามานั่งในกรรมาธิการในนามของรัฐบาล ถือว่าเป็นการส่งสัญญาณที่จะสร้างสันติภาพในประเทศได้ปรากฏชัด ยกเว้นเพียงประชาธิปัตย์เท่านั้นที่เชิญนายแก้วสรรมาในนามของฝ่ายค้าน โดยประกาศชัดเจนว่าจะต้านรัฐบาลทุกกรณี จะล้มรัฐบาลให้ได้ทุกเวที ซึ่งชัดว่าใครมีความคิดอย่างไร


กำลังโหลดความคิดเห็น