ปรองดองแต่เปลือกแท้ๆ “วรชัย” แถลงข่าวร่าเริงหลังร่างนิรโทษแดงผ่านวาระรับหลักการ อ้างทำเพื่อคนรักความยุติธรรม “วิภูแถลง” อ้างแดงถอยแล้ว ไม่นั่ง กมธ.จับผิด ปชป.ทำตัวเป็นปฏิปักษ์ อีกด้าน “วัชระ” ยัน ส.ส.ทุกคนพร้อมแปรญัตติทุกตัวอักษร ย้ำ นช.แม้ว ได้ประโยชน์ เพราะมีอำนาจตัดสินใจ ซัดเผด็จการรัฐสภาชัด ลั่น พร้อมออก กมธ.ให้ “สุริยะใส” นั่งแทน
วันนี้ (8 ส.ค.) เมื่อเวลา 16.45 น. นายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ พรรคเพื่อไทย แถลงข่าวหลังที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร มีมติรับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ระบุว่าตนขอบคุณประชาชน และ ส.ส.ที่เห็นความสำคัญของการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม โดยหลังจากที่ประชุมสภา มีมติผ่านวาระ 1 ในวันนี้ หลังจากนี้ก็จะเป็นการเริ่มต้นนับหนึ่ง เพื่อจะเดินหน้าไปสู่ปรองดอง ซึ่งในชั้นกรรมาธิการ ตนก็จะทำให้ดีที่สุด เพราะจะเป็นการทำเพื่อประชาชนที่รักความยุติธรรม ตามที่ตนเคยให้สัญญาไว้ว่าจะทำให้ความปรองดองเกิดความสำเร็จ
ขณะที่ นายสมคิด เชื้อคง ส.ส.อุบลราชธานี พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หลังจากนี้ ส.ส.เพื่อไทย ก็จะช่วยกันผลักดันให้ร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ผ่านวาระ 2 และวาระ 3 เพื่อให้มีผลบังคับใช้ นำพาพี่น้องประชาชนออกจากเรือนจำ โดยภาพรวมของการอภิปรายพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ทั้ง 2 วัน บรรยากาศเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่เชื่อว่ากระบวนการพิจารณาในชั้นของกรรมาธิการต่อจากนี้จะยุ่งยากพอสมควร เพราะดูจากรายชื่อในส่วนของพรรคประชาธิปัตย์ ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับการที่จะให้ผ่านร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ อย่างไรก็ตาม คาดหวังว่าคณะกรรมาธิการจะดำเนินการแปรญัตติเป็นไปด้วยความรวดเร็ว
ส่วน นายวิภูแถลง พัฒนภูไท ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า หากสังเกตจากรายชื่อของกรรมาธิการ เห็นได้ว่าไม่มีรายชื่อของ ส.ส.เสื้อแดง ที่ตกเป็นจำเลยว่าเป็นผู้ก่อการร้ายเลยสักคน ทั้งนี้ก็เพื่อความสบายใจของทุกฝ่าย ทั้งนี้ดูจากรายชื่อกรรมาธิการ ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ถือได้ว่าเป็นปฏิปักษ์ต่อการผ่านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม อาทิ นายแก้วสรร อติโพธิ อดีต คตส. นายบุญยอด สุขถิ่นไทย ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์
ส่วน นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ส.ส.กทม.พรรคเพื่อไทย กล่าวว่า อีกไม่กี่วันก็จะครบรอบ 7 ปี เหตุการณ์รัฐประหาร อยากให้ทุกคนหันหน้ามาคุยกัน เพื่อสร้างความปรองดองให้เกิดขึ้น เพราะพรรคเพื่อไทยมีเจตนาที่จะนำความสงบสุขกลับสู่ประเทศไทย และอยากเห็นความสงบสุขกลับประเทศไทยอีกครั้ง
ก่อนหน้านี้ นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย และวิปรัฐบาล กล่าวว่า การอภิปรายร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมฉบับนายวรชัย เหมะ ส.ส.สมุทรปราการ และคณะ ตลอดระยะเวลา 2 วัน วิปรัฐบาลพยายามประสานกับวิปฝ่ายค้านด้วยความอะลุ่มอล่วย พร้อมฟังความเห็นต่างและให้เวลาฝ่ายค้านเต็มที่ แต่พรรคประชาธิปัตย์ มีมติพรรคตั้งธงไว้ตั้งแต่ต้นว่าจะไม่รับหลักการ จะค้านทุกกระบวนท่า ภาพที่ปรากฏคือวันแรกพรรคประชาธิปัตย์อภิปรายลักษณะตีรวน วันที่ 2 ใช้วิธีการกล่าวหา การอภิปรายไม่มีอะไรใหม่ ถ้าใครได้ไปฟัง ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ พูดบนเวทีนอกสภา ฟังในสภาวันนี้ก็จะเจอถ้อยคำเนื้อหาเดิมๆ พูดเหมือนอารมณ์ค้างจากม็อบ เรารู้สึกผิดหวังการทำหน้าที่ของพรรคประชาธิปัตย์ที่ไม่ฟังเหตุฟังผล ใช้อคติบดบังความจริง ค้านทุกเรื่อง ค้านแม้กระทั่งคำพูดที่ตัวเองเคยพูดอย่างน่าไม่อาย ตนเชื่อว่าสภาจะรับหลักการร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม แต่ต้องไปต่อสู้กับพรรคประชาธิปัตย์ อีกในชั้นกรรมาธิการ และขั้นตอนอื่นๆ ล่าสุดจะยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความอีก เรียกว่าค้านสุดซอย สุดโต่ง แบบธาตุไฟแตก
“พรรคประชาธิปัตย์คิดว่าล้มร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมได้ จะกระทบกับรัฐบาล กระทบคนเสื้อแดง ถ้าปล่อยให้ผ่านไปรัฐบาลจะได้คะแนนนิยม ที่สามารถช่วยเหลือคนได้ทุกสีเสื้อ พูดอยู่แค่ว่าจะสอดไส้ จะช่วยเหลือแกนนำ ช่วยเหลือ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ทั้งที่ข้อเท็จจริงไม่มี อยากถามว่าเคยสำนึกบาปบ้างหรือไม่ ที่บอกว่าประชาชนต้องมาก่อน กลืนน้ำลายตัวเองไปหมดแล้ว หรือ ประชาชนที่มาชุมนุมต้องตายก่อน ต้องเจ็บก่อนใช่หรือไม่ พรรคประชาธิปัตย์เล่นการเมืองใจดำเกินไป ไม่เห็นหัวพี่น้องประชาชน ผลักมิตรไปเป็นศัตรูหมด ทำแบบนี้จะเสียคะแนนมากกว่าได้คะแนน” นายพร้อมพงศ์ กล่าว
อีกด้านหนึ่ง นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า การแปรญัตติที่กำหนดไว้ 7 วันนั้น ก็เป็นเรื่องที่เขาต้องการเร่งอยู่แล้ว ถ้าสามารถกำหนดวันเดียวได้ผมคิดว่าเขาทำไปแล้ว ทั้งนี้ในส่วนการทำหน้าที่กรรมาธิการของพรรคประชาธิปัตย์นั้น ยืนยันว่า ส.ส.ของพรรคทุกคนจะแปรญัตติทุกตัวอักษร พร้อมทั้งจะให้ระบุให้ชัดไปเลยว่าแกนนำหรือคนมีอำนาจตัดสินใจจะไม่ได้รับการนิรโทษกรรม
“กฎหมายฉบับนี้มีความชัดเจนอยู่แล้วว่าต้องการเอื้อประโยชน์ให้กับ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี แล้วที่มีการบอกว่าผมเอง พร้อมด้วย นายแก้วสรร นายบุญยอด เข้าไปนั่งเป็นกรรมาธิการ เป็นปฏิปักษ์กับการผ่านร่าง พ.ร.บ.นั้น ผมอยากจะบอกว่า พร้อมจะลาออกเพื่อให้นายสุริยะใส กตะศิลา แกนนำกลุ่มกรีน มาเป็นกรรมาธิการ แทน หาก นายสุริยะใส พร้อมจะเข้ามาทำหน้าที่แทน ผมพร้อมลาออกทันที” นายวัชระ กล่าว
นายวัชระ กล่าวต่อว่า การเร่งรัดปิดอภิปราย เป็นการปิดปากฝ่ายค้านที่จะนำความจริงไปสู่ประชาชน ทั้งนี้มีการกำหนดผู้อภิปรายไว้ถึง 60 คน แต่อภิปรายไปแค่ 4 คน สะท้อนให้เห็นถึงความเป็นเผด็จการรัฐสภา ส่วนการที่ นายณัฐวุฒิ ใสยเกื้อ รมช.พาณิชย์ ที่เป็นนักโทษก่อการร้าย และมากล่าวหากลุ่มพันธมิตรฯ ว่าไปบุกสถานีโทรทัศน์เอ็นบีที ใช้อาวุธในการทำลายสถานที่ ยืนยันว่าไม่เป็นความจริง ผู้ชุมนุมไม่มีอาวุธ ไม่เหมือนการชุมนุมของกลุ่มคนเสื้อแดง ที่สื่อหลายแขนงก็ระบุชัดเจนว่ามีการใช้อาวุธ ส่วนที่วัดปทุมวนาราม ก็มีตำรวจออกมาแถลงเองว่ามีการพบอาวุธ ถ้า นายณัฐวุฒิ คิดว่าตนเองโกหกหมิ่นประมาท ก็สามารถไปแจ้งความได้