xs
xsm
sm
md
lg

“ภราดร” ไม่เลิกคุยบีอาร์เอ็น หยันโจรหวังล้มโต๊ะมีไม่เยอะ เผย “ราจิบ” เลิกแผนละหมาดนราฯ

เผยแพร่:   โดย: MGR Online

พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (แฟ้มภาพ)
เลขาฯ สมช.อ้างเหตุป่วนยะลาเมื่อคืนเหมือนทุกปี เชื่อฝีมือโจรเห็นต่างหวังล้มโต๊ะ ย้ำคุยต่อ บอกมีไม่เยอะ กำลังจี้บีอาร์เอ็นตอบพวกไหนทำ ยันแผนเจ้าหน้าที่เหมือนเดิม เผย นายกฯ มาเลย์เลิกมาละหมาดที่นราฯ ชี้ใช้ พ.ร.บ.มั่้นคงคุมม็อบเพราะจำเป็น รับยังไม่ปรากฏประชาธิปัตย์สั่งขนคนลุย หยันยื่น กสม.สอบก็เป็นสิทธิ์

วันนี้ (2 ส.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ท.ภราดร พัฒนถาบุตร เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กล่าวถึงเหตุการณ์คนร้ายลอบวางเพลิงจำนวน 6 จุดในพื้นที่ จ.ยะลา เมื่อช่วงกลางดึกคืนวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมาว่า จากรายงานเบื้องต้นในสถานการณ์ที่เกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อคืนวันที่ 1 ส.ค.อย่างต่อเนื่อง เมื่อเทียบเคียงกับในอดีตที่ผ่านมาในช่วงกลางและปลายของเดือนรอมฎอนจะมีเหตุการณ์มากในลักษณะนี้ จึงเป็นข้อสังเกตของเราอยู่ว่าเหตุการณ์ยังคงดำรงอยู่เหมือนในอดีตที่ผ่านมา ทั้งนี้ สำหรับเหตุการณ์ลอบวางเพลิงเป็นฝีมือของผู้ก่อกวนที่มีความเห็นต่างที่ยังมีกระจายอยู่ในทุกพื้นที่ ตอนนี้เขาจะเริ่มปฏิบัติการมากขึ้นเพราะในความต้องการของเขาอย่างไรต้องให้มีการปฏิบัติการ และไม่ต้องการไปสู่กระบวนการพูดคุย มีความพยายามจะล้มโต๊ะเจรจา แต่ในหลักปฏิบัติของเราและขบวนการใหญ่ เรายืนยันว่าเราจะต้องพูดคุยกันต่อไป เนื่องจากกลุ่มที่เห็นต่างมีไม่เยอะ แต่มีศักยภาพในการปฏิบัติการ เพราะเป็นหน่วยปฏิบัติการ

“กลุ่มที่ลงมือยังเป็นกลุ่มเยาวชน กลุ่มวัยรุ่น และกลุ่มก่อกวนของเขาที่เป็นกลุ่มปฏิบัติการ กลุ่มนี้ยังมีความเห็นไม่ตรงกับผู้ใหญ่ทั้งหมดที่มีการพูดคุยกับเรา ซึ่งในขณะนี้เรายังเชื่อมั่นว่าเป็นกลุ่มย่อยที่อยู่ในกลุ่มบีอาร์เอ็น แต่เราก็กำลังจะสื่อสารลงไปว่าขอให้เขายืนยันว่าสุดท้ายแล้วกลุ่มนี้เป็นกลุ่มไหนกันแน่” พล.ท.ภราดรกล่าว

ผู้สื่อข่าวถามว่า แต่ก่อนหน้านี้ สมช.เคยระบุว่าเหตุการณ์จะแรงเฉพาะต้นและปลายเดือนรอมฎอน ส่วนกลางเดือนจะแผ่ว พล.ท.ภราดรตอบว่า ขณะนี้เป็นกลางที่ค่อนข้างจะปลายเดือนรอมฎอน ซึ่งจะมีความแรง ไม่ใช่กลางทั้งหมด แต่เป็นกลางค่อนข้างปลายเดือนรอมฎอน อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ทั้งหมดในขณะนี้คณะทำงานส่งเสริมสันติภาพช่วงเดือนรอมฎอนที่ศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จัดตั้งขึ้นกำลังรวบรวมสถานการณ์และข้อมูลข้อเท็จจริงทั้งหมดเพื่อจะส่งขึ้นมาให้ตนเพื่อจะได้ทำหนังสือส่งผ่านผู้อำนวยความสะดวกอย่างมาเลเซีย ส่วนที่ พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง ระบุว่าภายในวันนี้ (2 ส.ค.) น่าจะส่งหนังสือไปยังผู้อำนวยความสะดวกได้นั้น ขณะนี้กำลังประมวลรายเอียดอยู่ เพราะเราจะต้องแปลเป็นภาษาอังกฤษด้วย

เมื่อถามว่า ก่อนหน้านี้เวลาเกิดเหตุเราสอบถามไปยังผู้อำนวยความสะดวกแล้วได้รับคำตอบบ้างหรือยัง พล.ท.ภราดรตอบว่า ขณะนี้ยังไม่ได้ตอบกลับมา แต่ในทางปฏิบัติเราต้องสื่อสารกลับไปอย่างตลอดเวลาและต่อเนื่อง เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้มีการลดการตรวจค้น พอเกิดเหตุในลักษณะนี้จำเป็นต้องกลับมาเข้มข้นเหมือนหรือไม่ เลขาฯ สมช.ตอบว่า เจ้าหน้าที่ยังยึดหลักปฏิบัติการเหมือนเดิม ซึ่งมาตรการปิดล้อมตรวจค้นเราจะดำเนินการเมื่อเป็นเหตุการณ์เฉพาะหน้า หรือเหตุการณ์ที่เราไปลาดตระเวน

เมื่อถามว่า เหตุใดขบวนการใหญ่ของบีอาร์เอ็นจึงไม่สามารถช่วยเหลือหรือบรรเทาเหตุให้เราได้ เลขาฯ สมช.ตอบว่า สิ่งเหล่านี้เป็นคำถามของเราที่จะต้องส่งผ่านไปถามเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ส่วนที่เราต้องรอคำตอบก็เพื่อให้ข้อเท็จจริงเริ่มปรากฎชัดขึ้นเรื่อยๆ ว่าสุดท้ายแล้วใครเป็นคนทำและก่อเหตุ คาดว่าจากนี้อีกสักระยะหนึ่งข้อเท็จจริงจะเริ่มชัดขึ้น เพราะที่ผ่านมามีแต่ความคลุมเครือกัน เมื่อถามว่า แสดงว่าตัวแทนที่เราไปพูดคุยไม่มีศักยภาพในการประสานงานกับกลุ่มต่างๆ เลขาฯสมช.ตอบว่า ศักยภาพในการประสาน สื่อสาร และส่งสัญญาณคงจะมี แต่ศักยภาพในการบังคับยังเป็นปัญหาอยู่

เมื่อถามว่าจะสรุปได้หรือไม่ว่าหลังจากนี้หากยังมีการก่อเหตุอยู่ แสดงว่าบีอาร์เอ็นไม่สามารถจะควบคุมกลุ่มต่างๆ ได้ แล้วจะมีการยกเลิกการพูดคุยหรือไม่ เลขาฯ สมช.ตอบว่า เราต้องการเห็นข้อเท็จจริงชัดๆ ว่ากลุ่มที่ยังเห็นต่างคือใคร แล้วจะได้มาร่วมหาวิธีการจัดการซึ่งกันและกันได้ เมื่อถามว่า การก่อเหตุยังมีอยู่ต่อเนื่อง แต่ดูเหมือนการสื่อสารยังไม่ถึงทางตัวหลักจริงๆ ของบีอาร์เอ็น คิดว่าจะต้องปรับวิธีในการสื่อสารที่เร็วขึ้นหรือไม่ เลขาฯ สมช.ตอบว่า คิดว่าคงไปถึง แต่ฝ่ายปฏิบัติไม่ยอมฟัง เพราะเขายอมรับในข้อเท็จจริงว่ายังมีขบวนการที่ไม่ยอมรับ

พล.ท.ภราดรเปิดเผยว่า ขณะนี้นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ได้ยกเลิกภารกิจการเดินทางมาร่วมพิธีละศีลอดที่ จ.นราธิวาส ในวันที่ 3 ส.ค.แล้ว เนื่องจากติดภารกิจเร่งด่วนที่มาเลเซีย และยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับสถานการณ์ในประเทศไทย

พล.ท.ภราดรยังได้กล่าวถึงการชุมนุมของกองทัพประชาชนโค่นล้มระบอบทักษิณ ในวันที่ 4 ส.ค.นี้ด้วยว่า ที่จริงกลุ่มอื่นเป็นกลุ่มที่มีมาตั้งแต่ต้นแล้วเราถึงมีความจำเป็นต้องประกาศ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ เพราะรู้อยู่แล้วว่ามีหลายกลุ่มที่หลากหลาย แต่จะมาบรรจบในเวลาที่เหมาะสมซึ่งกันและกัน

ผู้สื่อข่าวถามว่า ประเมินแล้วจะมีความรุนแรงหรือไม่ พล.ท.ภราดรตอบว่า ตอนนี้กำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เตรียมการไว้เต็มที่แล้ว แต่เราไม่พึงประสงค์ให้รุนแรง ฉะนั้นเราต้องป้องกันไม่ให้เกิดการเผชิญหน้ากัน ส่วนการข่าวขณะนี้ยังไม่มีความชัดเจน แต่เพื่อความไม่ประมาทต้องระวังป้องกันไว้ก่อน เพราะเชื่อว่าคนจะค่อยๆ สะสมมาพอสมควร

เมื่อถามว่า ได้รับรายงานเรื่องการเคลื่อนไหวการนำคนจากภาคใต้ขึ้นมาหรือไม่ พล.ท.ภราดรตอบว่า ขณะนี้การเคลื่อนย้ายจากต่างจังหวัดยังเป็นไปตามปกติ ยังไม่มีอะไรผิดสังเกต เมื่อถามว่า จะต้องดูเวทีการปราศรัยของพรรคประชาธิปัตย์ที่มีอย่างต่อเนื่องในช่วงนี้ว่ามีความเชื่อมโยงด้วยหรือไม่ พล.ท.ภราดร ตอบว่า ถูกต้อง กิจกรรมที่มีการเคลื่อนไหวทางภาคการเมือง กับเหตุการณ์ที่จะมีการชุมนุมเราต้องประมวลในทุกมิติ อย่างไรก็ตาม การปราศรัยขณะนี้ยังเป็นปกติ ยังเป็นการปราศรัยรณรงค์อยู่ แต่การที่จะสั่งการให้มวลชนมาร่วมชัดๆ ยังไม่ปรากฏ

ส่วนที่กลุ่ม อพส.จะยื่นเรื่องให้คณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ (กสม.) ตรวจสอบการประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคงฯ ที่อาจขัดรัฐธรรมนูญนั้น เลขาฯ สมช.กล่าวว่า เป็นเอกสิทธิที่เขาจะยื่น แต่ในหลักการเราเชื่อมั่นว่าเราทำตามข้อกฎหมาย ที่ผ่านมาสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ก็มีการประกาศใช้กฎหมายตัวนี้เช่นเดียวกัน จึงสามารถดำเนินการได้ อีกทั้ง พ.ร.บ.ความมั่นคงฯเป็นกฎหมายป้องกัน และเรื่องนี้เป็นเหตุแล้วเพราะมีการประกาศล่วงหน้าว่าจะมาชุมนุม


กำลังโหลดความคิดเห็น