“ประชา” เต้นแทน “แม้ว” จ่อใช้ กม.ฟันมือกุคลิปฆ่าให้ ชี้ฝีมือพวกต้านรัฐ ไม่ได้ปล่อยจากมาเลย์

รองนายกฯ เชื่อพวกต้านรัฐกุคลิปอัลกออิดะห์ขู่ฆ่า “ทักษิณ” ปล่อยยูทิวบ์ในต่างแดน จ่อสรุปแล้วไม่จริง ชี้ของจริงไม่โชว์หน้า โอ่รู้แล้วชายมีหนวดเป็นใคร ไม่ใช่มาเลย์ กำลังเช็กทางลับ โยน กต.แจงให้นายใหญ่ จ่อฟันกฎหมายแทนด้วย คาดไม่ดึงต่างชาติจุ้นไฟใต้ ย้ำเรื่องการเมือง เผยนายกฯ เพื่อนบ้านมาละหมาดที่นราฯ เสาร์นี้ ไม่ชัวร์ “ปู” ไปรับ - บอกเบรกมือที่ 3 ป่วนม็อบไม่ได้ แต่เตรียม พ.ร.บ.มั่นคงรอ พร้อมเข้มป้องกันทำเนียบ



วันนี้ (29 ก.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.ต.อ.ประชา พรหมนอก รองนายกรัฐมนตรีด้านความมั่นคง กล่าวถึงคลิปวิดีโอที่มีชายแต่งชุดอาหรับอ้างเป็นกลุ่มอัลกออิดะห์ขู่จะล้างแค้น พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เคยใช้นโยบายรุนแรงจนทำให้พี่น้องมุสลิมใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้เสียชีวิตจำนวนมากว่า ล่าสุดพอจะสรุปและประเมินได้ว่าเป็นการกระทำของกลุ่มที่มีความเห็นต่างในทางการเมืองกับรัฐบาล เนื้อหาในคลิปไม่น่าจะเป็นเรื่องจริง เป็นการสร้างสถานการณ์ขึ้นมาร่วมกันระหว่างคนภายในประเทศไทยกับต่างประเทศ คลิปดังกล่าวมีการปล่อยมาจากต่างประเทศเพื่อให้เราจับได้ยาก ฉะนั้นคงพอสรุปได้แล้วว่าเรื่องนี้ไม่มีมูลความจริง ส่วนผู้ชายในคลิปนั้นเราพอจะทราบบ้างว่าเป็นใคร ขณะนี้อยู่ระหว่างพิจารณาของฝ่ายที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการอย่างไรต่อไปในส่วนนี้

ผู้สื่อข่าวถามว่า มีรายงานว่าผู้ที่ปล่อยคลิปเป็นชาวมาเลเซียที่คัดค้านการพูดคุยสันติภาพระหว่างสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) กับกลุ่มบีอาร์เอ็น พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เท่าที่รับทราบไม่ใช่กลุ่มมาเลเซีย เป็นอีกประเทศหนึ่งแต่ขอสงวนไม่เอ่ยถึง แต่ไม่ใช่มาเลเซียแน่นอน

เมื่อถามว่า ขณะนี้ทางอัลกออิดะห์ได้มีการปฏิเสธหรือตอบรับหรือยัง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานกันในทางลับกับหน่วยข่าวอยู่ มีการประสานกับหลายฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพราะมีหน่วยข่าวอยู่ในประเทศไทยหลายหน่วย ในด้านการข่าวเราต้องได้ข่าวจากเขาบ้าง และเขาต้องได้ข่าวจากเราบ้าง แลกเปลี่ยนกันอยู่

เมื่อถามว่า เราสามารถประสานกับอัลกออิดะห์ได้หรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ไม่ใช่ประสานกับผู้ก่อการร้ายต่างประเทศ แต่ประสานกับหน่วยงานที่ทำงานด้านการข่าว ซึ่งมีหลายประเทศ และขณะนี้มีการประสานงานกันอยู่แล้ว

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีประทศเพื่อนบ้านสอบถามเรื่องดังกล่าวมายังไทยหรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า มีพูดคุยกันบ้าง แลกเปลี่ยนข่าวสารกันบ้าง จากการประเมินของเราที่ได้รับทราบจากข่าวสารต่างประเทศประเมินได้ว่ามันไม่ใช่ เรื่องนี้เป็นเรื่องการเมือง ไม่ใช่อัลกออิดะห์ตัวจริง เป็นการสร้างภาพขึ้นมา เพราะหากเป็นตัวจริงจะไม่เปิดหน้าเปิดตามาแบบนี้ ดูจากคลิปเสียงเสียงก็ไม่ตรงกับปาก ส่วนเรื่องการชี้แจงกับต่างประเทศคงเป็นหน้าที่ที่กระทรวงการต่างประเทศจะต้องดำเนินการอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า สถานการณ์ตอนนี้มีการเล่นกันแรงขึ้น ทางรัฐบาลจะรับมือหรือมีมาตรการทางกฎหมายอย่างไร พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เราต้องตรวจสอบในรายละเอียด ส่วนมาตรการจะดำเนินการอย่างไรต่อไปนั้นขึ้นอยู่กับสถานการณ์และเหตุการณ์ หากเรามีหลักฐานที่เชื่อมโยงได้ชัดเจนเพียงพอก็สามารถที่จะดำเนินการตามกฎหมายได้ แต่ขณะนี้อยู่ระหว่างการประเมิน แต่การที่ไปโยงกับทางมาเลเซียนั้นเราได้ตรวจสอบชัดเจนแล้วว่าไม่ใช่แน่นอน เพราะเรากับมาเลเซียกำลังจะร่วมมือกันในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัด และ 4 อำเภอของจังหวัดชายแดนภาคใต้ของเรา จึงมีการพยายามที่จะให้เกิดความเข้าใจผิดขึ้นมา

เมื่อถามว่า ในกรณีคลิปมีโอกาสจะขยายผลนำตัวผู้กระทำความผิดมาลงโทษได้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นเรื่องที่เราจะพยายามในอนาคตถ้าเรามีหลักฐานที่ชัดเจน หากสามารถที่จะเข้าสู่กรอบในการดำเนินการทางกฎหมายได้เราจะดำเนินการต่อไป

เมื่อถามว่า เหตุใดขณะนี้ยังไม่ชัดเจน เพราะบุคคลในคลิปได้มีการเปิดเผยใบหน้า รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นระดับหนึ่ง เราขอตรวจสอบในหลายช่องทางก่อน ขณะนี้เราตรวจสอบจากแหล่งข่าวของเราในหลายประเทศ และเวลา 14.00 น.วันนี้ (29 ก.ค.) คงจะมีข้อสรุปเพิ่มเติมขึ้นมา

เมื่อถามว่า มีความเป็นไปได้ว่าเป็นประเทศที่สามจะที่เข้ามามีส่วนในการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า คงไม่ถึงระดับประเทศ คงเป็นกลุ่มย่อยกลุ่มหนึ่งในบางประเทศเท่านั้น ตนขอไม่ระบุประเทศ เพราะอาจกระทบความสัมพันธ์ แต่เชื่อมโยงกับฝ่ายคนไทยของเราที่มีแนวความคิดต่างกันกับรัฐบาล ประสงค์ที่จะดิสเครดิตรัฐบาล สร้างข่าวนี้ขึ้นมาเพื่อให้รัฐบาลเสียสมาธิไปเฉยๆ ในขณะที่เรากำลังจะเดินไปได้ด้วยดีในการแก้ไขปัญหาของเรา เมื่อถามว่า ยืนยันว่าคลิปดังกล่าวเป็นเรื่องการเมืองใช่หรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ถูกต้อง เป็นทางด้านการเมือง เรื่องนี้ตนมองว่าเป็นไปได้ที่การเมืองไทยจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เป็นกลุ่มที่ไม่ต้องการให้บ้านเมืองสงบ เขาต้องการล้มรัฐบาล ส่วนเขาจะเอาใครเป็นมานายกฯ แทนนั้นคิดว่าเขาคงอยากจะเป็นเอง แต่ตอนมีโอกาสก็ไม่เห็นทำอะไรให้ชาติบ้านเมือง พอคนอื่นเขาจะทำบ้างก็หาเรื่องนั้นเรื่องนี้มากวน

เมื่อถามว่า มีข้อเสนอแนะอยากให้อินโดนีเซียเข้ามาเป็นตัวกลางมากกว่ามาเลเซีย รองนายกฯ กล่าวว่า เราประสานกันหลายประเทศ ไม่ใช่เฉพาะมาเลเซียแห่งเดียว ส่วนประเทศใดบ้างขอไม่ระบุตรงนี้ อะไรที่จะทำให้เหตุการณ์ทางภาคใต้ของเรายุติลงได้เราได้ทำทุกหนทาง เชื่อมกับทุกประเทศที่เราสามารถพูดคุยกันได้

รองนายกฯ เปิดเผยว่า ในวันที่ 3 ส.ค.นี้ นายนาจิบ ราซัค นายกรัฐมนตรีมาเลเซีย จะเดินทางมาเยือน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ของไทยเพื่อมาร่วมพิธีละศีลอด ที่ จ.นราธิวาส ดังนั้น ถือเป็นนิมิตหมายที่ดีเพราะทางผู้นำของมาเลเซียมีความเข้าใจประเทศของเราในการดำเนินการที่จะพยายามคลี่คลายปัญหาที่มีอยู่ โดยมาเลเซียเป็นส่วนหนึ่งที่ช่วย เราจึงต้องขอขอบคุณรัฐบาลมาเลเซียไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 31 ก.ค.นี้ตนจะลงพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ส่วนน.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะลงไปต้อนรับนายนาจิบด้วยตัวเองหรือไม่นั้น เรื่องนี้สุดแล้วแต่นายกฯ

พล.ต.อ.ประชายังได้กล่าวถึงสถานการณ์การเมืองในช่วงการเปิดประชุมสภาสมัยสามัญทั่วไปในเดือน ส.ค.นี้ว่า กลุ่มผู้ชุมนุมมีมาแน่นอน เพราะกลุ่มที่มีความเห็นต่างมีอยู่มากพอสมควร ส่วนจะมีมากน้อยเพียงใดนั้นยังประเมินไม่ได้ แต่ทางรัฐบาลจะดำเนินการในทางที่เหมาะสมและดีที่สุด เพราะเราให้สิทธิทางกฎหมายในเรื่องของการชุมนุม ซึ่งการแสดงออกนั้นแต่ละกลุ่มสามารถกระทำได้ กฎหมายให้กรอบไว้อยู่ แต่อย่างไรก็ตาม ฝากไว้ว่าขอให้อยู่ในกรอบของกฎหมาย ไม่ให้คนอื่นเดือดร้อน ไม่ให้กระทบกระเทือนกับสังคมในภาพใหญ่ต่อไป

ผู้สื่อข่าวถามว่า ได้มีการกำชับเจ้าหน้าที่ตำรวจไว้อย่างไรบ้าง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า มีการพูดคุยกันไว้ ทางตำรวจเองมีแผนในการที่จะดูแลเรื่องนี้อยู่ เมื่อถามว่า การข่าวประเมินไว้หรือไม่ว่าจะมีมือที่สามเข้ามาก่อเหตุความรุนแรง พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า จะมีมือที่สามหรือไม่นั้นเราไม่สามารถไปห้ามปรามได้ แต่เราระมัดระวังพยายามที่จะหาข่าว ถ้ามีเราจำเป็นต้องเบรกและสกัดไว้ ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องอยู่ในกรอบของกฎหมาย

เมื่อถามว่า ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมามีการขับมอเตอร์ไซค์เชิญชวนให้คนออกมาร่วมชุมนุม ตรงนี้เข้าข่ายความผิดหรือไม่ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า เขายังไม่ได้ทำอะไรในทางที่ผิด เป็นแค่ความเห็นที่แตกต่างกับทางรัฐบาล และรัฐบาลเราได้ดำเนินการอย่างโปร่งใสอยู่แล้วในเรื่องของการบริหารประเทศ ฉะนั้น ผู้ที่มีความเห็นต่างก็พยายามจะยัดเยียดมาให้ว่ารัฐบาลทุจริตบ้าง ไม่บริสุทธิ์บ้าง แต่เป็นเรื่องธรรมดาที่เกิดขึ้นในทุกสังคมของทุกประเทศ

เมื่อถามว่า ต้องระดับไหนจึงจะใช้กฎหมายจัดการได้ พล.ต.อ.ประชากล่าวว่า ตัวบทกฎหมายมีกรอบชัดเจนอยู่แล้ว หากผิดเราสามารถที่จะใช้ตัวบทกฎหมายนั้นดำเนินการได้

เมื่อถามว่า ก่อนการพิจารณาร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรมในวันที่ 7 ส.ค. มีการเตรียมไว้หรือไม่ว่าอาจจะต้องประกาศใช้ พ.ร.บ.ความมั่นคง รองนายกฯ กล่าวว่า เราเตรียมอยู่ตลอดเวลา อะไรที่จะกระทบกระเทือนต่อความสงบเรียบร้อยภายในประเทศเราต้องเตรียมแผนรองรับไว้ เป็นธรรมดา ผู้ที่หน้าที่ที่เกี่ยวข้องก็ต้องเตรียมไว้ เมื่อถามว่า ประเมินว่าถึงขั้นไหนจึงจะต้องประกาศใช้พ.ร.บ.ความมั่นคง รองนายกฯ กล่าวว่า อย่าเพิ่งไปประเมินถึงขั้นนั้น เหตุการณ์ยังไม่เกิด ฝนตกเขายังไม่ให้กางร่ม ฝนยังไม่ตกอย่าเพิ่งไปกางร่ม

เมื่อถามว่า การที่ผู้ชุมนุมไม่ได้บอกสถานที่ชัดเจน ทางรัฐบาลจะต้องมีการระมัดระวังพื้นที่ไหนเป็นพิเศษหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับการหาข่าวและการสืบสวน ตรงนี้เป็นเทคนิคเฉพาะ เราคงเปิดเผยไม่ได้ ฝ่ายที่จะกระทำก็พยายามอย่างเต็มที่จะทำให้เกิดความวุ่นวายขึ้นมา รัฐบาลเองก็พยายามอย่างเต็มที่ที่จะรักษาความสงบตรงนี้ จะคุมสถานการณ์ให้อยู่ให้ได้ เป็นหลักธรรมดา

เมื่อถามว่า การข่าวประเมินไว้หรือไม่ว่าการเมืองจะรุนแรงซ้ำรอยปี 49 รองนายกฯ กล่าวว่า เราประเมินไว้ สามารถที่จะเกิดได้ในทุกระดับ แต่เราจะมีมาตรการในการแก้ไขและการป้องกันอย่างไรตรงนั้นเป็นมาตรการของรัฐบาลที่เตรียมเอาไว้ เมื่อถามว่า ในทำเนียบรัฐบาลจะต้องเข้มงวดในการป้องกันหรือไม่ รองนายกฯ กล่าวว่า เป็นธรรมดา เพราะทำเนียบรัฐบาลเป็นศูนย์บัญชาการและบริหารราชการแผ่นดินของรัฐบาล เราต้องดูแลและรักษาไว้