พันธมิตรฯ แถลงจุดยืนต้าน กม.นิรโทษ ชี้มุ่งช่วยเหลือพวกพ้องชัดเจน ขัดรัฐธรรมนูญ 50 เรียกร้องถอนทุกร่างออกจากสภา ให้ทุกฝ่ายพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรม ย้ำยังไม่เคลื่อนไหวด้วยการชุมนุม เหตุแกนนำ-ผู้ปราศรัย-ยังติดเงื่อนไขของศาล ถูกถอนประกันไม่คุ้มกับผลลัพธ์ หากมีแค่เปลี่ยนขั้วอำนาจไร้การปฏิรูป
เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 31 ก.ค. ที่บ้านพระอาทิตย์ นายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ แกนนำรุ่นที้่ 2 และโฆษกพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ได้อ่านแถลงการณ์ฉบับที่ 4/2556 พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย เรื่อง จุดยืนต่อกฎหมายนิรโทษกรรมล้างความผิด โดยมีใจความระบุว่า “ตามที่พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยได้เคยแถลงจุดยืนมาโดยตลอดว่าเราไม่เห็นด้วยและจะคัดค้านร่างกฎหมายทุกประเภทที่จะนิรโทษกรรมให้กับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร และพวกอย่างถึงที่สุด บัดนี้เป็นที่ประจักษ์ชัดแล้วว่าวิปรัฐบาลมีมติเห็นชอบที่นำร่างกฎหมายนิรโทษกรรมที่นำโดยนายวรชัย เหมะ แนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติและสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรพรรคเพื่อไทย เข้าเสนอที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎรในระหว่างวันที่ 7- 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556 ดังที่ทราบแล้วนั้น
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยขอแจ้งให้ทราบเพื่อยืนยันอีกครั้งหนึ่งว่า จุดยืนของพวกเราคือคัดค้านกฎหมายนิรโทษกรรมทุกฉบับแม้ว่ากฎหมายดังกล่าวที่จะนำเสนอเข้าสู่การพิจารณาของสภาผู้แทนราษฎรนั้น จะยังไม่ได้ครอบคลุมในการนิรโทษกรรมให้กับนักโทษชายทักษิณ ชินวัตร ในขณะนี้ก็ตาม แต่กฎหมายฉบับดังกล่าวนี้มีลักษณะที่เอื้อประโยชน์ให้กับพวกพ้องของตนเอง อันเป็นการกระทำที่ขัดกันแห่งผลประโยชน์ ไม่คำนึงถึงความเสมอภาค และศักดิ์ศรีของความเป็นมนุษย์ของประชาชนกลุ่มอื่น อันเป็นการกระทำที่ขัดต่อบทบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 อย่างชัดเจน พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงขอยืนยันเรียกร้องให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่เกี่ยวข้องได้ถอนร่างกฎหมายที่มีเนื้อหานิรโทษกรรมให้ออกจากที่ประชุมสภานี้เสีย เพื่อให้ทุกฝ่ายพิสูจน์ตนเองเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมอย่างเท่าเทียมกัน เสมอภาค และรักษาไว้ซึ่งหลักนิติรัฐ และนิติธรรม
แต่สถานการณ์ปัจจุบันมีความเปลี่ยนแปลงไป เมื่อแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ปราศรัย พิธีกร ศิลปิน และประชาชน ได้ถูกกลั่นแกล้งโดยยัดเยียดข้อหาร้ายแรงอันเป็นเท็จ และเพิ่มผู้ต้องหาจำนวนถึง 96 คน อย่างอยุติธรรมในสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ซึ่งนำโดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ที่ต้องการสร้างพันธนาการให้กับการเคลื่อนไหวของพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย แม้ว่าพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยพร้อมที่จะพิสูจน์ตัวเองตามกระบวนการยุติธรรมเพื่อรักษาหลักนิติรัฐ นิติธรรม แต่ศาลอาญาก็ได้มีคำสั่งในคดีหมายเลขดำที่ อ. 973/2556 ให้ประกันตัวโดยมีเงื่อนไขตั้งแต่เมื่อวันที่ 2 เมษายน 2556 ว่า "ห้ามมิให้จำเลยกระทำการใดๆ อันมีลักษณะเป็นการยั่วยุ ปลุกปั่น ปลุกระดม เพื่อให้เกิดความวุ่นวายในบ้านเมือง หรืออาจก่อให้เกิดภัยอันตรายต่อความเสียหายหรือความสงบเรียบร้อย หรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือกระทำการใดๆ เพื่อให้ประชาชนล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน และห้ามจำเลยเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาตจากศาล" และศาลอาญาได้แถลงย้ำคำสั่งดังกล่าวอีกเป็นครั้งที่สองเมื่อวันที่ 30 กรกฎาคม พ.ศ.2556 ย่อมแสดงให้เห็นว่า แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย ผู้ปราศรัย พิธีกร ศิลปิน และประชาชนอีกจำนวนมากได้ถูกลิดรอนสิทธิจากคำสั่งดังกล่าว และเป็นข้อจำกัดจนไม่สามารถทำให้การชุมนุมเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพหรือประสบผลสำเร็จได้จริงในสถานการณ์ปัจจุบัน และวิธีการชุมนุมภายใต้เงื่อนไขดังกล่าวก็ยังไม่คุ้มค่าเมื่อเทียบกับผลลัพธ์ที่ได้ในขณะนี้
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเป็นองค์กรที่มุ่งเน้นการรักษาหลักนิติรัฐ และนิติธรรมมาโดยตลอด ประกอบกับสถานการณ์ปัจจุบันที่นักการเมืองยังคงต่อสู้เพื่อช่วงชิงขั้วอำนาจและเพื่อผลประโยชน์ให้กับตัวเองและพวกพ้องกันทั้งสิ้น โดยปราศจากทิศทางในการปฏิรูปเปลี่ยนแปลงประเทศเพื่อผลประโยชน์ของประชาชนอย่างแท้จริง แกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยจึงมีมติอย่างเป็นเอกฉันท์ยังไม่เคลื่อนไหวมวลชนด้วยการชุมนุมในช่วงเวลานี้
ด้วยจิตคารวะ
พันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตย
วันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2556
ณ บ้านพระอาทิตย์”
คลิกที่นี่ ฟังเสียง แกนนำพันธมิตร แถลงจุดยืนต้าน กม.นิรโทษกรรม