เซฟตี้โซนของ “ทักษิณ” “คุกไทย” ปลอดภัยสุด

สะเก็ดไฟ

ผ่านมาแล้วหลายวันที่มีคลิปอ้างว่าเป็นกลุ่ม “อัลกออิดะห์” กลุ่มก่อการร้ายชื่อก้องโลกประกาศตามฆ่า "ทักษิณ ชินวัตร" ไปทั่วทุกแห่งบนโลกใบนี้

ทำให้เกิดข้อถกเถียงไปต่างๆนานาว่า กลุ่มชายฉกรรจ์ที่อ้างตัวว่าเป็นสมาชิกกลุ่มก่อการร้ายสากล “อัลกออิดะห์” ที่ปรากฎกายในคลิปเป็น “ของจริง” หรือไม่???

บ้างก็ว่าจริงแท้แน่นอน เพราะสิ่งที่ “ทักษิณ” ทำไว้กับชาวมุสลิมในภาคใต้ของไทย จากเหตุการณ์มัสยิดกรือเซะ เมื่อปี 2547 นั้นสร้างความเคืองแค้นให้แก่ชาวมุสลิมทั่วโลกจริงๆ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ไทย ทั้งตำรวจและฝ่ายความั่นคง ต่างประสานเสียงเป็นโทนเดียวกันว่า “ของเก๊” บางคนถึงกับรีบตัดบทว่า “คลิปปลอม” เป็นฝีมือฝ่ายตรงข้ามที่หวังจุดกระแสการเมืองในไทย

อย่างไรก็ตาม หากไม่ใช่ของจริง ป่านนี้ “อัลกออิดะห์ตัวจริง” คงออกแถลง หรือปล่อยคลิปแก้ต่างไม่ให้เสียยี่ห้อตัวเองเป็นแน่แท้

เมื่อยังไม่ปรากฎฟีดแบ็กใดๆ จาก “อัลกออิดะห์ตัวจริง” น้ำหนักที่คลิปจะเป็น “ของจริง” ก็เป็นไปได้สูง

คำถามตามมาคือ นับจากวันนี้ “ทักษิณ ชินวัตร” จะใช้ชีวิตบนโลกนี้ต่อไปอย่างไร เพราะชีวิตแขวนอยู่บนเส้นด้าย อาจตายได้ทุกนาที โดยเฉพาะคนที่ใช้ชีวิตสุขสบายแบบ “เศรษฐีเจ้าสำราญ” ย่อมรักตัวกลัวตายเป็นธรรมดา

ถามต่อว่า “ทักษิณ” จะไปปักหลักซุกหัวที่ไหน เพราะคงไม่มีที่ใดในโลกรับรองในความปลอดภัยของชีวิตได้ร้อยเปอร์เซ็นต์อีกต่อไป และคราวนี้ก็คงไม่ได้ถูกไล่ล่าแบบชิลล์ๆ เหมือนครั้งที่จับเครื่อง บินไปมาสับขาไปทั่วโลกหลอก “รัฐบาล ปชป.” ที่ไร้ปัญญาติดตามตัว “นช.แม้ว” กลับมาดำเนินคดีในไทย

เริ่มจาก “มหานครดูไบ” ที่ “ทักษิณ” ใช้เป็นแหล่งพักพงอยู่กินจนเป็นกิจลักษณะ และยังใช้เป็นฐานบัญชาการหลักในการชักใย “รัฐบาลน้องสาว” อยู่ที่นั่นด้วย แต่ก็ดูท่าจะอยู่ลำบาก แม้จะสะดวกสบายและผู้คนไปเยี่ยมเยือนได้ง่าย จนเจ้าตัวบอกว่า “ดูไบ” เป็นร้านอาหารไทยที่อร่อยที่สุดในโลก เพราะมีคนนำอาหารจากจังหวัดต่างๆ ไปฝากเป็นประจำ

แต่เมื่อคลิปออกมาก็เท่ากับว่า “ชาวอาหรับ” ประกาศตัวเป็น “โจทก์” เต็มตัว แถวนั้นก็มีแต่แขกโพกหน้าโพกตาเต็มเมืองไปหมด ไปไหนมาไหนก็ไม่รู้ใครเป็นใคร ถือว่าภยันตรายรอบตัวเลยทีเดียว

ขยับมาดูที่แถบยุโรป ที่ “ทักษิณ” ไปบ่อยไม่แพ้กัน โดยเฉพาะที่ “ลอนดอน ประเทศอังกฤษ” ซึ่งเป็นถิ่นพำนักแรกของ “นช.แม้ว” หลังจากที่ถูกยึดอำนาจ เมื่อ 7 ปีก่อน ซึ่งเจ้าตัวยังมีคฤหาสน์หลังใหญ่ที่เทือกเขาเซนต์จอร์จ ทางใต้ของกรุงลอนดอน แถมยังเป็นแหล่งช๊อปปิ้งที่ “ตระกูลชินวัตร” ชื่นชอบเป็นพิเศษ

แต่ด้วยระยะทางที่ค่อนข้างไกลสำหรับผู้ที่จะแวะเวียนไปหา จะเสี่ยงเดินทางเองบ่อยครั้ง ก็คงไม่เป็นผลดีกับชีวิตตัวเอง

แถบยุโรปจึงถือว่าไม่ถูกจริตของ “ทักษิณ” เอาเลย

ต่อกันที่ “ดินแดนแห่งเสรีภาพ” สหรัฐอเมริกา ดูจะเหมาะเจาะสำหรับการหลบเลี่ยงภัยจากกลุ่ม “อัลกออิดะห์” เพราะถือเป็นประเทศที่มีมาตรการป้องกันภัยจากการก่อการร้ายอย่างเข้มงวด แต่ก็ติดขัดในเรื่องระยะทางที่ห่างจากเมืองไทยครึ่งค่อนโลก เวลาต่างกันถึง 12 ชั่วโมง อาจทำให้การบัญชาการรัฐบาล-พรรคเพื่อไทย ไม่สะดวกเท่าที่ควร จึงไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีหาก “ทักษิณ” จะเลือกไปปักหลักในระยะยาว

หันกลับมาดูในแถบเอเชีย ไล่ตั้งแต่ สาธารณรัฐประชาชนจีน ที่ระยะหลัง “เสี่ยแม้ว” แวะเวียนไปบ่อยครั้ง ก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าถอยคฤหาสน์หลังใหญ่ชานกรุงปักกิ่งราคาแพงระยับ 300 ล้านบาท ก็ดูท่า “เจ้าถิ่น” ยังไม่ค่อยปลื้มเท่าไร โดยเฉพาะรัฐบาลจีนยุคใหม่ภายใต้การนำของประธานาธิบดี “สี จิ้นผิง” ที่หลังเข้ารับตำแหน่ง เมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา ก็ประกาศนโยบายเร่งด่วนในเรื่องการปราบปรามการทุจริตคอร์รัปชั่น

การที่ “ทักษิณ” ผู้มีเรื่องคาวฉาวโฉ่ในการทุจริตโกงกินเป็นยี่ห้อ จะขอใช้พักพิงเป็นเรื่องเป็นราวคงจะทำให้ภาพลักษณ์รัฐบาลจีนที่ขึงขังเรื่องปราบโกงไม่ค่อยขลัง หนำซ้ำรัฐบาลจีนย่อมรู้ดีว่า จะถูกใช้เป็นฐานให้ “ทักษิณ” เคลื่อนไหวทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้มีข่าวว่า “นช.แม้ว” เคยพยายามติดต่อขอเข้าพบ “สี จิ้น ผิง” ก่อนเข้ารับตำแหน่ง ก็ถูกอย่างไร้เยื่อใยมาแล้ว

หรือจะเป็น “ฮ่องกง-มาเก๊า” ดินแดนใต้อาณัติของเมืองจีน ก็ดูจะสุ่มเสี่ยงต่อชีวิตและทรัพย์สิน เพราะรู้กันดีว่าเป็นทั้ง 2 แห่ง เป็นดินแดนอิทธิพลเถื่อนของเหล่าจอมยุทธ์มังกรเหยียบเมฆ ยากที่จะไว้วางใจใครได้

ที่พึ่งสุดท้ายคงหนีไม่พ้น “เพื่อนฮุนเซน” ที่แม้จะปล้นชัยชนะในการเลือกตั้งใหญ่มาได้แบบแทบกระอักเลือด แต่ก็ยังถือว่าเรืองอำนาจในประเทศกัมพูชา ซึ่งหาก “เพื่อนแม้ว” ร้องขอความช่วยเหลือ ก็คงเปิดคฤหาสน์ให้อยู่โดยไม่อิดออด แถมอาจยังจัดกองทัพมารักษาความปลอดภัย “เพื่อนเลิฟ” อีกด้วยซ้ำ

เพียงแต่ “ทักษิณ” ต้องพร้อมที่จะถูกเจ้าของฉายา “จิ้งจอกฮุนเซน” สูบเลือดสูบเนื้อ ทั้งผลประโยชน์ที่คาบเกี่ยวระหว่างไทย-กัมพูชา หรือแม้แต่ทรัพย์สินในกระเป๋าของ “ทักษิณ” เอง เพราะรู้กันดีว่าอดีตนักรบเขมรแดงที่ชื่อ “ฮุนเซน” คนนี้เจ้าเล่ห์ขนาดไหน

สำรวจสอดส่องทั่วโลกแล้ว ไม่ว่ามุมไหนก็ถือว่าอันตรายกับ “ทักษิณ” ทั้งชีวิตและทรัพย์สิน คงจะมี “เมืองไทย” เท่านั้นที่ดูปลอดภัยที่สุด

แต่ต้องเป็น “คุกเมืองไทย” เท่านั้น เพราะคำนำหน้าชื่อ “ทักษิณ” ยังเป็น “นักโทษชาย” อยู่

หากจะรอให้ “ลิ่วล้อ” ผลักดันกฎหมายนิรโทษกรรมให้เสร็จ ปลดพันธนาการฐานะนักโทษหนีคดี ค่อยตัดสินใจกลับเมืองไทย ก็อาจไม่ทันการ เพราะต่อแต่นี้ไปทุกวินาทีหมายถึงชีวิต และฝีมือของ “อัลกออิดะห์” ก็ระดับมืออาชีพ

ระหว่างนี้ก็น่าจะ “เอาตัวรอด” มาซุกหัวในคุกไทยไปพลางก่อน ซึ่งไม่น่ากลัวอะไร เพราะ “น้องสาว” ก็เป็นผู้นำประเทศ หากกลัวจะไม่สบายก็หมดห่วงเพราะ “คุกวีไอพี” หรือเรือนจำชั่วคราวหลักสี่ก็ถูกล้างไว้รอเป็นปีแล้ว ที่สำคัญยังมี “น้องรัก” อย่าง “พ.ต.อ.สุชาติ วงศ์อนันต์ชัย” ที่คุม “กรมคุก” อยู่ในฐานะอธิบดีกรมราชทัณฑ์ เรื่องการรักษาความปลอดภัยแน่นปึ๊กแน่นอน ดีไม่ดี “อธิบดี” อาจมานอนเฝ้าด้วยตัวเองทุกคืน

“คุกเมืองไทย” จึงเหมาะที่สุดสำหรับ “นช.แม้ว” ในยามนี้

อยู่ที่ว่าจะเลือกอิสรภาพ หรือเลือกชีวิตตัวเอง