ทีมข่าวการเมือง ASTVผู้จัดการออนไลน์ ....รายงาน
น่าแปลกใจสำหรับการแถลงข่าวของ “ผู้พันต๊อด” พ.อ.วินธัย สุวารี รองโฆษกกองทัพบก ที่ออกมาข่มขู่ว่าจะดำเนินการฟ้องร้องผู้ที่จัดทำและเผยแพร่เอ็ม.วี. “สองเรา ปูกะตู่” โดยอ้างว่าไม่เหมาะสม ทำประชาชนเข้าใจผิด ภาพที่ “นายกฯ ปู-ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร” กับผู้บัญชาการทหารบก “บิ๊กตู่-พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” กองทัพบกระบุว่าเป็นกิจกรรมและความตั้งใจในการเข้าไปช่วยเหลือดูแลประชาชน แต่มีการแปลความหมายเปลี่ยนไป
ทั้งๆ ที่หากพิจารณากันดีๆ มันเป็นเพียงเอ็ม.วี.ล้อเลียนที่ “ทีมงานผู้จัดกวน” จัดทำขึ้น ออนแอร์ครั้งแรกในรายการ “คุยทุกเรื่องกับสนธิ” ทาง ASTV เมื่อ 12 ก.ค. ก่อนจะมีการแชร์ต่อกันผ่านโซเชียลมีเดีย สะท้อนภาพความสัมพันธ์หวานชื่นระหว่าง “ปู” กับ “ตู่” นับตั้งแต่ฝ่ายหญิงขึ้นมาเป็นนายกรัฐมนตรี และฝ่ายชายเฝ้าติดตามต้อยๆ แม้ว่าผู้หญิงคนนี้เคยหนุนเสื้อแดงฆ่าทหาร และพี่ชายผู้เป็นนักโทษหนีคดีจะหยามหมิ่นศักดิ์ศรีกองทัพเพียงใดก็ตาม
เอ็ม.วี.ชิ้นนี้เกิดขึ้นในช่วงที่ “คลิปถั่งเช่า” ที่เปลือยตัวตนระหว่าง “นักโทษชายทักษิณ ชินวัตร” ผู้ต้องหาหนีคดีอาญาแผ่นดิน คุยโทรศัพท์กับ “บิ๊กอ๊อด-พล.อ.ยุทธศักดิ์ ศศิประภา” รมช.กลาโหม วันนี้สวมหัวโขนในกระทรวงด้านความมั่นคงเพื่อภารกิจ “พาทักษิณกลับบ้าน” อาศัยช่องทางของสภากลาโหม ออก พ.ร.ก.นิรโทษกรรม ขณะเดียวกันก็มีแผนชั่วที่คิดจะฮุบอำนาจกองทัพ ด้วยการแต่งตั้งคนของตัวเองขึ้นมายึดเหล่าทัพอย่างเบ็ดเสร็จ
ที่เลวทรามต่ำช้ายิ่งกว่าก็คือ “นักโทษชายทักษิณ” พยายามสร้างภาพความจงรักภักดีพร้อมกับฉวยโอกาสแสวงหาผลประโยชน์ ด้วยการขอตำแหน่ง “ที่ปรึกษาสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์” ซึ่งมีพระราชทรัพย์มรดกตกทอด โดยเฉพาะที่ดินใจกลางกรุงเทพฯ จำนวนมหาศาล นับว่าเป็นการเอาคืนจากการถูกยึดทรัพย์ 4.6 หมื่นล้านพร้อมกับล้างผิดคดีอาญาแผ่นดิน และสร้างภาพความจงรักภักดีแบบหน้าด้านๆ
แต่กองทัพเหมือนจะไม่รู้สึกตื่นเต้นกับแผนการของ “นักโทษชายทักษิณ” เสมือนลืมไปแล้วว่าหน้าที่กองทัพต้องปกป้องสถาบันพระมหากษัตริย์ และผลประโยชน์ของชาติ ถ้าไม่ใช่เพราะถูกนักการเมืองซื้อ?
ประโยคหนึ่งที่ “นักโทษชายทักษิณ” เปิดอกออกมาว่า “ไว้ใจ...ไว้ใจไอ้ตู่มาก” ประกอบกับสายสัมพันธ์ระหว่าง “นายกฯ ปู” กับ “บิ๊กตู่” เป็นไปอย่างราบรื่นไร้สะดุด มีทั้งไปออกงานด้วยกันอย่างสนิทสนม ป้อนของหวานเป็นงบกองทัพจำนวนมหาศาล โดยเฉพาะงบเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมทั้งอาจจะได้รับการปูนบำเหน็จจาก “ระบอบทักษิณ” ให้เป็น รมว.กลาโหม หลังเกษียณอายุราชการ หากทำงานเข้าตานายใหญ่
สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นที่มาของ เอ็ม.วี. “สองเรา ปู-ตู่” ที่กำลังฮือฮาอยู่ในโซเชียลมีเดีย พร้อมกับเสียงวิพากษ์วิจารณ์ว่า ศักดิ์ศรีของกองทัพอยู่ที่ไหน เมื่อต้องยอมศิโรราบรับใช้ “นักโทษชายหนีคดี” และ “น้องสาวหุ่นเชิด” ผู้ถูกชักใยบงการประเทศ ราวกับราชสีห์ร้องเหมียว นัวเนียเหมือนแมวนอนหวดเสียอย่างนั้น
แต่ก็น่าแปลกที่กองทัพกลับออกมาประกาศตัวว่าจะเอาผิดกับ “ทีมงานผู้จัดกวน” ซึ่งจัดทำคลิปล้อเลียนบุคคลสาธารณะ เพียงเพื่อแสดงความคิดเห็นทางการเมือง ซึ่งเป็นเสรีภาพในระบอบประชาธิปไตย เพราะเมื่อมองไปถึงเนื้อหาคลิปก็ไม่ได้มีอะไรเกินเลยนอกจากเพลง “เราสองคน” ของภูสมิง-บุปผา ผสมกับภาพถ่ายเหตุการณ์ที่ “ปู-บิ๊กตู่” ลงพื้นที่จริงไม่มีตัดต่อใดๆ ซึ่งผู้ชมส่วนใหญ่ก็มองว่าเป็นเรื่องตลกขบขัน และเมืองนอกก็มีคลิปล้อเลียนผู้นำประเทศมากเสียด้วยซ้ำไป
แน่นอนว่าการออกมาดิ้นของกองทัพคราวนี้ ก็ทำเอาเป็นที่ฮือฮาในโลกออนไลน์ ซึ่งส่วนใหญ่ต่างประณามถึงท่าทีของกองทัพ ทั้งผิดหวังต่อภาวะผู้นำขององค์กร เรื่องที่กระทบความมั่นคงของประเทศไม่ทำ แต่เรื่องที่กระทบกับรัฐบาลปูกลับออกมาดิ้นพล่าน ย้อนถามกลับไปว่า ทำไมคลิปถั่งเช่า ถึงได้หุบปากเงียบ ไม่อายบ้างเลยหรือ อีกทั้งคลิปหมิ่นสถาบัน และพวกจาบจ้วงสถาบันพระมหากษัตริย์อีกมหาศาล ทำไมไม่ออกมาจัดการเป็นเรื่องเป็นราว
และประโยคแทงใจดำที่สำคัญ คือ “ศักดิ์ศรีกองทัพอยู่ที่ไหน?”
เฉกเช่นความคิดเห็นจากผู้อ่าน ASTVผู้จัดการออนไลน์นับร้อยข้อความ ระบุไว้อย่างน่าสนใจ เช่น
ความคิดเห็นที่ 4 - ทหารบัดซบแล้วจริงๆ เมืองนอกเขาก็มีล้อเลียนกันตามปกติ ทำตัวให้มันเหมาะสมสิครับ แล้วจะไม่มีใครเขาว่าอะไร
ความคิดเห็นที่ 6 - ลูกน้องตาย ไม่สนใจ นายอาย จะเป็นจะตายให้ได้ วังเวงวะ
ความคิดเห็นที่ 14 - ถ้าอยากให้เหมาะสม จงเป็นทหารของประชาชน และในหลวง
ความคิดเห็นที่ 19 - ที่คลิปเสียงที่มันไม่ให้เกียรติผู้นำกองทัพ มันยิ่งกว่านี้กลับเฉย เหลือเชื่อจริง ๆ
ความคิดเห็นที่ 20 - พระวิหาร ไอ้ประยุทธ์ไม่ปกป้อง พวกล้มเจ้าไม่จัดการ เสื้อแดงคุกคามองค์กรอิสระ ก็ไม่ปกป้อง แต่ทีเรื่องไหนด่ารัฐบาลที่ชั่วดิ้นพล่านจังนะครับ ยิ่งพูดยิ่งเข้าตัวเองไอ้ประยุทธ์
ความคิดเห็นที่ 26 - สมัยนี้ยังคิดว่า ทหารยังมีเกียรติ อยู่เหรอ เอาเวลาไปแก้ไขสามจังหวัดชายแดนภายใต้ และเขาพระวิหารดีกว่า อย่ามาเก่งกับคนไทยในเรื่องแบบนี้เลย ถุยใส่หน้าทหารทุกเหล่าที่เกาะชายกระโปรง
ความคิดเห็นที่ 66 - อยากให้คนอื่นเขาให้เกียรติคุณ คุณก็ต้องรู้ตัวเองว่าต้องทำตนรักษาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีของคุณเอง ถ้าคิดว่ามีคนไม่ให้เกียรติคุณ คุณผู้นำทั้งหลายจงพิจารณาตนเองว่า ตัวคุณเองใช่ไหมที่ทำตัวไม่ให้เกียรติตัวเองเอาเกียรติยศ ศักดิ์ศรีที่สะสมมาตลอดชีวิต มาแลกกับลาภยศ ซึ่งตายไปก็เอาไปได้ซักบาทเดียว
ความคิดเห็นที่ 73 - ไม่สับสนครับ เหมาะสมกันดี อยากได้รับเกียรติจากคนอื่นแล้วท่านทำหน้าที่เหมาะสมที่จะได้รับเกียรตินั้นแล้วหรือยัง ท่านอิงแอบเกียรติยศจากเครื่องแบบไม่พอยังทำลายเกียรติยศของเครื่องแบบด้วยตัวของท่านและลูกน้องของท่านเอง หน้าที่ของท่านคืออะไร เข้าใจอย่างถ่องแท้แล้วหรือไม่
แทนที่จะเอาเวลามาฟ้องคนแพร่คลิป เอาเวลาตบเท้าเข้ากระทรวงไอซีทีไปไล่บี้ให้ปิดเว็บหมิ่น ตบเท้าเข้า กสทช. ให้ปิดคลื่นหมิ่น ก่อนดีกว่ามั้ย กองทัพมีทหารเป็นแสนๆ กลับนิ่งเฉยไม่รู้ไม่เห็น กะแค่คลิปกระตุ้นต่อมสำนึกผู้นำประเทศกับผู้นำกองทัพ ทำเป็นกระดี๋กระด๋า หน้าไม่อายชายชาตินักรบจริงๆ นับวันทำตัวเป็นละครน้ำเน่าหลังข่าวเข้าทุกวัน
แก้ปัญหาใต้น่ะ แนะให้ก็ได้ ย้ายกระทรวงกลาโหม มหาดไทย รัฐสภา ไปไว้สามจังหวัดชายแดนใต้ชิ ทำงานด้วยปากดีกันนัก ย้ายไปอยู่หน้างานกันมั่งซิ จะดูว่าเก่งเหมือนปากกันหรือเปล่า
ความคิดเห็นที่ 101 - ขายตัว ขายชาติ ยังมีเกียรติอีกเหรอ แล้วยังกลัวต่างประเทศดูหมิ่นดูแคลน ไม่สำเหนียกเลยว่าต่างประเทศจะมองว่าประเทศนี้ ระดับเสนาบดียังไปกราบกรานนักโทษหนีคดี มีที่ไหนเค้าทำกัน
ความคิดเห็นที่ 128 - ทหารวันนี้เป็นไรไปหมดแล้ว หรือว่าพากันกินยาผิดทั้งกองทัพ แต่ละตัวที่ออกมาปกป้องนายมันดูเหมือนผ่านการฝึก "ตาบอดไร้สมอง" กันทุกราย ทหารที่ดีและกล้ายืนอยู่กับ ปชช.-ความจริงอยู่ไหน
ความคิดเห็นที่ 139 - แล้วที่อยู่ในคลิป ไว้ใจตู่มากไม่เสียหายเหรอคะ ภาพไม่สำคัญเท่าการกระทำเวลาจะแสดงให้รู้ว่าใครขายชาติ ใครเข้าข้างนักโทษ จะได้รู้ว่าเป็นทหารของราชินีหรือเป็นขี้ข้ารับใช้นักโทษโกงแผ่นดิน
ความคิดเห็นที่ 152 - คลิปหมิ่นในหลวงเต็ม YOUTUBE ไม่เคยออกมาพูด เอาแต่บอกว่าไม่ใช่หน้าที่ทหาร ทีอย่างนี้ทหารออกมาพูดทำไม
ความคิดเห็นที่ 170 - อนาถว่ะ กองทัพมีหน้าที่แค่เดินสวนสนามกับข่มขู่ประชาชน แน่จริงลองปลูกข้าวกินเองสิวะ อย่ามาใช้ภาษีประชาชนซื้อโน่นซื้อนี่ ขอพูดเหมารวมอย่างนี้แหละ เพราะทหารดีก็คงมี แต่ถ้าดีแล้วนิ่งเฉย มันก็ไร้ค่าอยู่ดี ไม่มีประโยชน์อะไร
ฯลฯ
ย้อนไปถึงคลิปถั่งเช่ากันอีกครั้ง ที่ผ่านมาแต่ละฝ่ายก็ยอมรับว่าเสียงสนทนาระหว่าง “นักโทษชายทักษิณ” กับ “บิ๊กอ๊อด” นั้นเป็นเสียงที่เกิดขึ้นจริง ไล่ตั้งแต่ “พานทองแท้ ชินวัตร” ลูกนักโทษชายทักษิณ ยอมรับอย่างชัดเจนว่าเป็นคลิปเสียงของพ่อชัดเจน แต่ก็อ้างไว้ก่อนว่าบางเรื่องก็พูดกันจริง บางเรื่องก็ไม่ยืนยัน และบางตอนมีคำพูดมากกว่านั้น สอดคล้องกับทนายความประจำตัว “นพดล ปัทมะ” ก็ยอมรับแล้วว่า เสียงบางส่วนในคลิปเป็นของ “นายใหญ่” จริง
แต่ในช่วงที่ผ่านมา เมื่อถามถึงจุดยืนของกองทัพ คนที่ออมาพูดถึงคลิปเสียงชัดเจนมีเพียง “บิ๊กเจี๊ยบ-พล.อ.ธนะศักดิ์ ปฏิมาประกร” ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ที่เปิดเผยว่า ส่วนตัวแล้วไม่ได้ใส่ใจอะไร เพราะว่ากองทัพมีจุดยืนในการทำหน้าที่ตามกฎหมาย และกติกาอยู่แล้ว ขอให้ทุกคนมั่นใจ แต่ก็ยอมรับว่ารู้สึกกังวลเล็กน้อย หากจะมีใครขยายความในเรื่องนี้ อีกด้านยังได้พูดคุยทำความเข้าใจกับผู้บัญชาการทหารสูงสุดของพม่าแล้ว ซึ่งก็ไม่ได้ติดใจอะไร
“บิ๊กเจี๊ยบ” มั่นใจว่าที่ผ่านมากองทัพไม่เคยถูกการเมืองครอบงำ การเดินทางกลับประเทศของ “นักโทษชายทักษิณ” เป็นเรื่องทางกระบวนการยุติธรรม ทหารไม่ได้เป็นกระบวนการยุติธรรม รวมทั้งความพยายามในการผลักดัน พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ก็ไม่เกี่ยวข้องกับกระทรวงกลาโหม แม้ภายหลังปลัดกระทรวงกลาโหม จะเปิดเผยว่า พ.ร.บ.กลาโหมเปิดช่องให้ “นายกฯ ปู” เสนอ พ.ร.บ.นิรโทษกรรม เข้าสู่การพิจารณาในสภากลาโหมได้ ตามที่สั่งการในคลิปเสียงก็ตาม
แต่อีกด้านหนึ่ง “บิ๊กตู่” กลับพูดแบบน้ำขุ่นๆ อ้างว่าที่ “นักโทษชายทักษิณ” ชมว่าไว้ใจ แสดงว่ากองทัพทำหน้าที่ได้สมศักดิ์ศรี เป็นที่พอใจของประชาชนทั่วไป แต่ถ้าจะกลับบ้านก็บอกว่าเคลียร์กับตนได้ยังไง ไม่ใช่ศาล ทุกอย่างต้องเป็นกฎหมาย กติกา กองทัพมีวินัย ไม่สามารถทำตามใจชอบได้ ทำตามอารมณ์หรือความอยากไม่ได้ ตนไม่ใช่พระเอก ขอแค่ไม่เป็นผู้ร้ายก็พอ ซึ่งการพูดจาแบ่งรับแบ่งสู้เช่นนี้ ย่อมสะท้อนว่าไร้ซึ่งความเด็ดขาด ไม้หลักปักขี้เลน
มาวันนี้ “บิ๊กตู่” ก็ใช้จังหวะที่คลิปเอ็ม.วี. “สองเรา ปู-ตู่” ฉวยโอกาสเตรียมฟ้องผู้จัดทำวีดีโอคลิปที่แสดงความคิดเห็นอย่างตรงไปตรงมาและบริสุทธิ์ใจอีกครั้ง ซึ่งนัยยะก็คงไม่มีอะไรนอกจากต้องการกลบเกลื่อน และเบี่ยงเบนความสนใจจากเรื่อง “คลิปถังเช่า” ที่ตบหน้ากองทัพ กระทบศักดิ์ศรีอย่างรุนแรง ในเมื่อทำอะไรไม่ได้ก็เอาความแค้นส่วนตัวมาปิดปากเพื่อให้สังคมลืมเลือนเรื่องนี้กันไป
ซึ่งก็คงจะหลอกได้แต่บางคนที่อ่อนหัด ไม่ทันต่อจิตวิทยาของผู้มีอำนาจเพียงแค่นั้น
วุฒิภาวะที่ตกต่ำของผู้บัญชาการกองทัพบกครั้งนี้ ก็คงไม่ต่างจากครั้งหนึ่งที่เอ่ยวจีผรุสวาทออกมาว่า “ไอ้ผู้จัดการห่วย” พร้อมทั้งมีทหารบุกหน้าบ้านพระอาทิตย์ ที่ทำการเครือเอเอสทีวีผู้จัดการถึงสองครั้ง ตามมาด้วยการคุกคามสื่ออย่างร้ายกาจ ด้วยการสั่งทหารห้ามนักข่าวเอเอสทีวีเข้าไปทำข่าวในกองบัญชาการกองทัพบก และไม่นานนักก็มีคนร้ายลอบยิงรถข่าวเอเอสทีวี ที่จอดริมถนนพระอาทิตย์จนได้รับความเสียหาย ซึ่งจนถึงตอนนี้ก็ยังจับมือใครดมไม่ได้
สิ่งที่เราต้องมานั่งตั้งคำถามนับจากนี้ก็คือ ในเมื่อเราเห็นผู้นำเหล่าทัพยอมศิโรราบต่อ “นักโทษชายทักษิณ” จนกระทั่งต้องคุกคามคนทำวีดีโอคลิปล้อเลียนรัฐบาลและกองทัพ ในฐานะคนไทยคนหนึ่งคงต้องทบทวนว่า กองทัพเป็นของประชาชนอย่างแท้จริงหรือไม่?
หรือหัวโขน “ผู้บัญชาการกองทัพบก” เป็นสมบัติส่วนตัวของ “พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา” โดยที่ผู้ใดคิดจะล้อเลียนเพื่อสะท้อนความคิดเห็นหรือวิจารณ์มิได้ใช่หรือไม่?
และท้ายที่สุด บ้านนี้เมืองนี้ตกอยู่ภายใต้ของความกลัว ถึงขั้นใครจะพูดอะไร วิพากษ์วิจารณ์อะไรเกี่ยวกับรัฐบาลและกองทัพไม่ได้เชียวหรือ นำมาซึ่งคำถามที่ว่า บ้านเราอยู่ในยุคประชาธิปไตย ที่คนไทยทุกคนมีสิทธิเสรีภาพโดยแท้จริงแล้วหรือ?