โฆษก กมธ.วิฯ งบปี 57 แอบดอดลงตรวจ 2 โรงสีสุโขทัย เจอเบรกไม่ให้เข้า ปูด ขรก.ส่อฮั้วนายทุนปลดบัญชีดำ คาดเสียหาย 640 ล้าน จี้หน่วยงานสอบ ด้าน “ชวนนท์” ห่วงวิกฤตข้าวรุนแรง ถามของเน่า 200 ถุงโยนทิ้งที่ จ.กระบี่ มีขายในร้านถูกใจหรือไม่
วันนี้ (12 ก.ค.) ที่รัฐสภา เมื่อเวลา 11.30 น. นายวัชระ เพชรทอง ส.ส.บัญชีรายชื่อพรรคประชาธิปัตย์ ในฐานะโฆษกคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2557 แถลงว่า ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบโรงสีโชคชัยธัญญากิจ และโรงสีบัวทองธัญญากิจ ที่ จ.สุโขทัย โดยไม่ได้แจ้งล่วงหน้าตามความต้องการของ คณะ กมธ.งบฯ 57 แล้ว ปรากฏว่าโรงสีทั้ง 2 แห่งไม่ให้เข้าตรวจสอบภายใน แต่จากเอกสารทางราชการสรุปการประชุมที่มีนายสมิทธ์ ปาลวัฒน์วิไชย รองผู้ว่าราชการ จ.สุโขทัย เป็นประธาน ก็ระบุชัดว่าโรงสีทั้ง 2 แห่งอยู่ในบัญชีแบล็กลิสต์ของ อคส.
นายวัชระกล่าวว่า นอกจากนี้ยังมีข้อมูลอีกว่ายังมีโรงสีอีก 77 แห่ง ที่ติดอยู่ในแบล็กลิสต์ของ อคส.อีกด้วย จึงทำให้เชื่อว่าโรงสีบางแห่งที่ถูกติดแบล็กลิสต์และได้รับการออกปลดนั้น อาจมีการทุจริตระหว่างข้าราชการ และเจ้าของโรงสีเกิดขึ้น เพราะเพียงแค่โรงสีทั้ง 2 แห่งที่ จ.สุโขทัยนั้น ก็สร้างความเสียหายกว่า 640 ล้านบาท ดังนั้นตนจึงขอเรียกร้องไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ (ป.ป.ท.) คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) และกรมสรรพากร ให้ตรวจสอบโรงสีโชคชัยธัญญากิจ และโรงสีบัวทองธัญญากิจ ว่ามีทำธุรกรรม การเสียภาษี ตรวจสอบจำนวนข้าว และพิสูจน์ว่ามีการสีข้าวจริงหรือไม่ด้วย
นายวัชระกล่าวอีกว่า ในสัปดาห์หน้า กมธ.งบฯ 57 จะทำการพิจารณางบประมาณในส่วนของกระทรวงกลาโหม ค่าใช้จ่ายของทั้ง 3 เหล่าทัพ แต่ก่อนที่จะมีการซักถามในส่วนของงบประมาณ ทาง กมธ.จะถามในประเด็นที่เกี่ยวกับคลิปถังเช่าก่อน
ด้านนายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ แสดงความเป็นห่วงต่อวิกฤตคุณภาพข้าวไทย โดยเห็นว่าหากรัฐบาลไม่เร่งแก้ไขจะส่งผลกระทบรุนแรงกว่าที่คาดคิด เพราะในขณะนี้ปัญหาข้าวเน่ายังไม่จบ ล่าสุดมีการพบข้าวเน่าจำนวนมากที่ หมู่ 7 ต.ไสยไทย อ.เมือง จ.กระบี่ พบข้าวถุง 5 กิโลกรัมถูกโยนทิ้งไว้ข้างทาง ซึ่งตนขอตั้งคำถามว่าทำไมภาพข้าวเน่าจึงเกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องทั่วประเทศทั้งที่ไม่เคยเกิดมาก่อน ตนฝากถึง น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ว่าเป็นเรื่องสำคัญเพราะภาพที่ปรากฏสะท้อนไปถึงต่างประเทศ ตนยังเชื่อว่าข้าวไทยมีคุณภาพแต่ถ้ารัฐบาลไม่เร่งรีบแก้ไข ใช้แต่วิธีการตอบโต้อย่างดุเดือดต่อคนที่ออกมาให้ข้อมูลจะแก้ปัญหาไม่ได้ และไม่ใช่เรื่องถูกต้อง
นายชวนนท์กล่าวว่า ทั้งนี้เห็นว่ารัฐบาลต้องตรวจสอบปัญหาคุณภาพข้าวถุงตามกระบวนทางวิทยาศาสตร์ว่าข้าวไทยมีปัญหาหรือไม่ ถ้ามีเกิดจากอะไร จะมีวิธีการแก้ไขอย่างไร และต้องอธิบายว่าข้าวเสียหายจากอะไร เพราะข้าวยี่ห้อนี้ผูกพันกับโครงการของรัฐบาล เนื่องจากเป็นข้าวที่ขายอยู่ในโครงการธงฟ้าหรือร้านถูกใจของรัฐบาล
“ถามว่าข้าว 200 ถุงที่ถูกนำมาโยนทิ้งที่ จ.กระบี่นั้น เป็นข้าวที่ขนออกมาจากร้านถูกใจหรือไม่ เพราะข้าวเน่าทั่วประเทศเลยทำให้คนที่มีข้าวเน่าอยู่ต้องนำออกมาทิ้งข้างทางใช่หรือไม่ และเมื่อข้าวยี่ห้อดังกล่าวมีการขายในร้านถูกใจก็เป็นหน้าที่ของรัฐบาลเพราะเป็นโครงการที่ใช้ภาษีของประชาชน นำข้าวเอกชนมาจำหน่ายในราคาที่ไม่ถูกกว่าท้องตลาด และมีปัญหาไม่ได้คุณภาพจนกลายเป็นข้าวเน่าด้วย จึงขอเรียกร้องว่ารัฐบาลต้องเร่งเข้าไปดูแล ซึ่งตนเตือนด้วยความหวังดีเพราะหากฝ่ายค้านไม่เตือนวงการค้าข้าวจะยิ่งแย่รวมถึงคุณภาพข้าวด้วย ดังนั้น รมว.พาณิชย์ต้องแก้ไขโดยด่วน ฟื้นฟูภาพลักษณ์ข้าวไทย หากไม่ทำอย่าหวังว่าจะขายข้าวได้เดือนละ 5 แสนตัน แต่อาจขายได้แค่ราคาตามเช็ค 8 หมื่นที่อ้างว่าเป็นการขายแบบจีทูจี” นายชวนนท์กล่าว
