“ชวนนท์” เรียกร้องรัฐบาลเปิดชื่อประเทศที่สั่งซื้อข้าวจากไทยเซ็นเช็คแค่ 8 หมื่นบาท ระบุตอกย้ำโกงกินสารพัด เอือม “นายกฯ ยิ่งลักษณ์” ลอยตัว โยนให้ ขรก. ด้าน ส.ส.พังงาจี้ “พร้อมพงศ์” ขอโทษแจกข้าวเน่าให้ชาวบ้านน้ำท่วม
นายชวนนท์ อินทรโกมาลย์สุต โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์ข้าวเน่าที่กระทบต่อความเชื่อมั่นในคุณภาพข้าวไทยว่า ขณะนี้ประเทศไทยนอกจากจะประสบวิกฤตการโกงในโครงการจำนำข้าวแล้ว ยังมีวิกฤตเรื่องคุณภาพข้าวทั่วทั้งประเทศ เพราะมีข่าวข้าวเน่าออกมาเป็นระยะ ตั้งแต่ข่าวข้าวเน่าในโกดังร้าง จ.นครสวรรค์ ข่าวข้าวเน่าในโกดังที่ อ.พนมสารคาม จ.ฉะเชิงเทรา ข่าวพบซากหนู ซากแมวตายในโกดังข้าว จ.นครศรีธรรมราช และล่าสุดกรณีแจกข้าวเน่าให้ผู้ประสบอุทกภัยใน จ.พังงา
โฆษกพรรคประชาธิปัตย์กล่าวว่า เหตุการณ์เหล่านี้รัฐบาลต้องมีคำตอบให้ประชาชน เพราะเรื่องดังกล่าวกระทบต่อคุณภาพข้าวไทย โดยรัฐบาลควรจะมีการพิสูจน์ในทางวิทยาศาสตร์ เพื่อยืนยันว่าข้าวไทยยังมีคุณภาพมาตรฐานสำหรับการบริโภค มากกว่าจะใช้กระบวนการน้ำลายโจมตีคนที่ให้ความเห็น หรือเปิดเผยข้อมูลข้าวเน่าแบบไร้เนื้อหาสาระ เพราะรัฐบาลมีหน้าที่ทำความกระจ่าง และพิสูจน์ความจริงว่าไม่เป็นความจริงตามที่มีการกล่าวหาแต่หากยังปล่อยปละละเลยสถานการณ์ก็จะย่ำแย่และเลวร้ายยิ่งขึ้น
“อยากให้รัฐบาลแก้ไขปัญหาข้าวเน่าโดยด่วน เพราะอนาคตข้าวไทยอยู่ในมือรัฐบาล แต่ผมยังไม่เห็นมีใครออกมาแสดงความรับผิดชอบต่อเรื่องที่เกิดขึ้นเลย ซึ่งหากเทียบกับสมัยรัฐบาลพรรคประชาธิปัตย์ ที่มีข่าวปลากระป๋องเน่า นายวิฑูรย์ นามบุตร รมว.พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในขณะนั้นก็แสดงสปีริตด้วยการลาออกจากตำแหน่ง ถึงแม้ในภายหลังจะมีการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบจะไม่พบความผิด หรือความเกี่ยวข้องกับตัวนายวิฑูรย์ก็ตาม วันนี้จึงอยากถามพรรคเพื่อไทยว่ามีสปีริตสักครึ่งหนึ่งของพรรคประชาธิปัตย์หรือไม่ อย่างไรก็ตาม ผมขอเรียกร้องให้พรรคเพื่อไทยออกมาขอโทษประชาชน ดีกว่ามาตีโพยตีพายและโยนความผิดให้คนอื่น”
นายชวนนท์กล่าวอีกว่า กรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจรติแห่งชาติ (ป.ป.ช.) รายงานว่าจากการซื้อขายข้าวแบบจีทูจีมีการสั่งจ่ายเช็คจำนวน 1,460 ใบ หลังจากตรวจสอบก็พบว่ามีเช็คที่สั่งจ่ายจำนวนย่อยฉบับละ 8 หมื่นบาท จึงอยากให้รัฐบาลตอบว่าประเทศใดมีการสั่งซื้อข้าวแบบจีทูจีเพียง 8 หมื่นบาท ซึ่งหากยึดเอาราคาตลาดโลกตันละไม่เกิน 15,000 บาท การสั่งจ่ายเงิน 8 หมื่นบาทจะซื้อข้าวได้ 7 ตัน จึงไม่ทราบว่าประเทศใดกินข้าวน้อยมากกว่าหมู่บ้านบางหมู่บ้านด้วยซ้ำ ถือเป็นตัวอย่างหนึ่งที่แสดงให้เห็นว่ามีการทุจรติคอร์รัปชัน และไม่มีการซื้อขายแบบจีทูจีจริง และอยากถามว่าประเทศใดที่ค้าขายแล้วมีการซอยเช็คย่อยถึง 1,460 ใบ แสดงให้เห็นชัดว่าเรื่องนี้มีการเอาประเทศต่างๆ และเอาสัญญาจีทูจีมาบังหน้า แต่เป็นการขายรายย่อยให้เอกชนที่มีความสนิทสนทกับรัฐบาลและนำข้าวไปขายต่อในราคาที่แพง ซึ่งเป็นการเอื้อประโยชน์ให้กลุ่มพ่อค้าและนักลงทุนที่ใกล้ชิดรัฐบาล
“ผมไม่เคยเห็น น.ส.ยิ่งลักษณ์จะสะทกสะท้านในเรื่องนี้ หรือให้ความร่วมมือ ตื่นเต้นว่ามีการโกงกินมหาศาล แต่กลับหันหลังให้ปัญหา ปัดความรับผิดชอบ ไม่แสดงสภาวะผู้นำในการแก้ไขปัญหาการทุจริตคอร์รัปชัน เหมือนในวันที่ ครม.ยืนเข้าแถวและประกาศเจตนารมณ์ปราบทุจริตคอร์รัปชัน ซึ่งผมว่าทำได้แค่ตอนที่พูดเพราะ ครม.ทั้งคณะต้องมายืนด้านหลังนายกฯ จึงไม่มีเวลาไปทำเรื่องทุจริต แต่หลังจากพูดจบพฤติกรรม ครม.กลับตรงข้ามกัน เพราะมีทั้งการโกงข้าว กินข้าวเน่า ทำวงการค้าข้าวไทยเสียหาย และทำชื่อเสียงข้าวไทยย่อยยับ ซึ่งเป็นผลงานของรัฐบาล”
ด้านนางกันตวรรณ ตันเถียร ส.ส.พังงา พรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงกรณีมีการแจกข้าวถุงเน่าให้กับผู้ประสบอุทกภัยว่า เหตุการณ์น้ำท่วมที่ จ.พังงา เกิดตั้งแต่สัปดาห์ที่แล้ว และในวันที่ 5 ก.ค.ที่ผ่านมา นายวิสาร เตชะธีวัฒน์ รมช.มหาดไทย และนายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ โฆษกพรรคเพื่อไทย ได้นำข้าวสารจำนวน 3,000 ถุงไปมอบให้ประชาชน แต่หลังจากพบว่ามีข้าวเน่า ประชาชนจึงนำข้าวถุงเหล่านั้นมาคืนให้นายก อบต.ในแต่ละพื้นที่ ทั้งนี้ ความจริงข้าวเน่าไม่ได้มีแค่ 30 ถุงตามข่าว เพราะหลังจากมีข่าวข้าวเน่าก็มีผู้ใหญ่ในพรรคการเมืองสั่งให้เก็บข้าวที่เน่า ซึ่งตนได้รับการร้องเรียนจากประชาชนว่ามีตัวแทนจากพรรคการเมืองหนึ่งไปขอเก็บข้าวเน่าที่เหลืออยู่ และนำข้าวดีไปแจกแทน พร้อมทั้งบอกกับประชาชนว่าข้าวถุงเน่าเป็นเกมการเมืองจากพรรคประชาธิปัตย์ ยืนยันว่าเหตุการณ์นี้ไม่ใช่เกมการเมืองของพรรคประชาธิปัตย์ และขอให้นายพร้อมพงศ์ไปทบทวนว่าใครกันแน่ที่เล่นเกมการเมือง เพราะถึงแม้ว่าตนจะเป็นฝ่ายค้าน แต่ในเมื่อรัฐบาลนำข้าวและถุงยังชีพไปให้พี่น้องชาวพังงา ตนในฐานะ ส.ส.ในพื้นที่ก็ดีใจ
“สิ่งที่ผิดปกติ คือ จ.พังงามีน้ำท่วมทุกปี แต่ปีนี้เป็นปีแรกที่นายพร้อมพงศ์ และรมช.มหาดไทยเอาข้าวไปมอบให้ประชาชนจำนวนมาก ซึ่งไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ถึง 3,000 ถุง และในพื้นที่ไม่เคยมีข้าวเน่าเกิดขึ้น แต่เมื่อเกิดข้าวเน่าประชาชนก็ตกใจว่าเป็นข้าวจากโครงการรับจำนำข้าวของรัฐบาลหรือไม่ วันนี้สิ่งที่รัฐบาลและนายพร้อมพงศ์ต้องทบทวนคือต้องช่วยกันตรวจสอบว่าข้าวที่นำมาแจกเอามาจากไหน และเกิดความผิดพลาดในขั้นตอนใด ซึ่งรัฐบาลต้องสร้างความมั่นใจให้พี่น้องชาวนาไม่ใช่โยนบาปให้ข้าราชการ อย่างไรก็ตาม ดิฉันในฐานะตัวแทนชาวพังงาจะรอฟังคำขอโทษจากรัฐบาล และนายพร้อมพงศ์”
