นายกฯ และรมว.กห.บินไปโปแลนด์-ตุรกี ยันพร้อมแจง ป.ป.ช.ถอดกู้จัดการน้ำ 3.5 แสนล้าน โยน “พงศ์เทพ” ดูทำอะไรได้บ้าง ท้ารองปลัดคลังเขียนรายละเอียดพิสูจน์โกงจำนำข้าว ลั่นพร้อมฟัน โบ้ยทีมตรวจสต๊อกสรุปขาดทุน ปัดคืนจำนำหมื่นห้ากลับไปกลับมา อ้างดูเหตุการณ์ โอ่เพิ่งตั้ง ครม.ใหม่ไม่มีหรอกยุบสภา สวนสื่อซักพรรคกระเพื่อมอะไร ไล่เรื่องข้าวไปถามพาณิชย์
วันนี้ (3 ก.ค.) ที่สนามบินสุวรรณภูมิ เมื่อเวลา 12.30 น. น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ให้สัมภาษณ์ก่อนเดินทางเยือนประเทศโปแลนด์และประเทศตุรกี ถึงกรณีที่พรรคประชาธิปัตย์ยื่นถอดถอนนายกรัฐมนตรีและคณะรัฐมนตรีทั้งคณะในเรื่องการบริหารจัดการน้ำ 3.5 แสนล้านบาทว่า คงต้องว่าไปตามขั้นตอน เรายินดีให้ข้อมูลและชี้แจง ผู้สื่อข่าวถามว่าจะทำให้โครงการบริหารจัดการน้ำของรัฐบาลหยุดชะงักหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เราคงต้องรอเรื่องศาลปกครองอีกทีว่าจะอย่างไรและเมื่อวานนี้ (2 ก.ค.) คณะรัฐมนตรีมีมติให้นายพงศ์เทพ เทพกาญจนา รองนายกรัฐมนตรี เรียกประชุมหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดูว่าอะไรบ้างในส่วนที่ภาครัฐทำได้หรืออะไรที่ต้องปฏิบัติตามคำสั่งของศาลปกครอง ต้องดูตรงนั้นมากกกว่า
เมื่อถามว่า น.ส.สุภา ปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว ระบุว่าโครงการรับจำนำข้าวมีการทุจริตทุกขั้นตอนตั้งแต่ระดับล่างจนถึงระดับบน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ก็ให้ น.ส.สุภาพิสูจน์ออกมาเป็นรายละเอียดเลยดีกว่าหรือไม่ วันนี้ต้องเรียนว่าสื่อมวลชนก็เห็นการตรวจสต๊อกเราตรวจพร้อมกันทั่วประเทศ 2,000 กว่าโรงสี ก็ต้องให้ความเป็นธรรมกับเราบ้าง ซึ่งจากการตรวจทั้งหมดจุดที่เจอประมาณ 26 จุด เราก็รอขั้นตอนของตำรวจในการสืบค้น ถ้ามีหลักฐานการทุจริตทุกจุดก็เอาหลักฐานมา ตนพร้อมที่จะดำเนินคดีและพร้อมตรวจสอบให้หมด ขอเป็นอย่างนั้นดีกว่า เพราะจริงๆ เราเองพูดภาพรวมอาจทำให้คนกังวล ถ้าพูดเป็นรายละเอียดเลยว่ามีจุดไหนที่ตรวจสอบแล้วมีประเด็น เราก็พร้อมให้เจ้าหน้าที่หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปตรวจ ถ้าผิดก็พร้อมดำเนินคดี ตรงนั้นพร้อมอยู่แล้ว
เมื่อถามว่า เรื่องการขาดทุนที่มีมากกว่า 2.2 แสนล้านบาท ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขณะนี้เราตรวจสต๊อกจริง ต้องให้คณะกรรมการตรวจสต๊อกเป็นผู้สรุปดีกว่า การตรวจสื่อมวลชนก็เห็น ขณะนี้ทางคณะกรรมการจะเรียกตัวเลขจริง ฉะนั้นตัวเลขเราดูด้วยตาหมดแล้ว ไม่ใช่ตัวเลขที่เกิดจากการคำนวน ตัวเลขจะเกิดจากการลงตรวจโรงสีทุกโรง วันนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 หมื่นกว่านายที่ลงไปน่าจะใช้ข้อมูลนั้นมากกว่า ขอให้คณะกรรมการได้สรุปมาอย่างเป็นทางการดีกว่า
เมื่อถามว่า ทางพรรคประชาธิปัตย์โจมตีกรณีที่รัฐบาลเห็นชอบตามมติของคณะกรรมการนโยบายข้างแห่งชาติ หรือ กขช.ที่ให้กลับไปรับจำนำข้าวในราคา 15,000 บาทต่อตันเหมือนเดิม เหมือนเป็นนโยบาบไม้หลักปักขี้เลน นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า อันนี้แล้วแต่ไม่ขอวิพากษ์วิจารณ์ตรงนั้น แต่ขอเรียนเหตุผลที่คณะรัฐมนตรีรับทราบตามประเด็นที่ กขช.นั้นนายกิตติรัตน์ ณ ระนอง รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เรียนว่าเรื่องของวินัยการเงินการคลังเราก็รักษา เพราะจากตอนแรกได้ตัวเลขมาเราจำเป็นต้องรักษาสมดุล 4 เรื่อง แต่ระหว่างที่ดำเนินงานไปหน่วยงานก็มีการปรับปรุงเรื่องขั้นตอนการควบคุม การนำเข้าและมีจำนวนที่มา ข้าวที่ปลูกแล้วเหลือสต๊อกเท่าไรก็มีความชัดเจนเรื่องรายละเอียดทำให้คณะกรรมการสามารถพิจารณาได้ ก็ไม่ทำให้เราเสีย 4 สมดุลนั้นไป ขณะเดียวกันเราก็ได้ดูแลชาวนาด้วยเพื่อให้เกิดสมดุลทั้ง 4 เรื่อง ไม่ได้เรียกว่ากลับไปกลับมาหรอก เราต้องดูตามเหตุการณ์ทั้งหมด อนาคตก็ต้องดูตามสมดุลเหมือนเดิมว่าราคาตลาดโลกเป็นอย่างไรและควรจะมาเท่าไร หากราคาตลาดโลกดีขึ้นอาจจะปรับขึ้นก็ได้ก็ต้องดูตามสภาวการณ์
เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านมองรัฐบาลเตรียมการยุบสภา นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า “โอ้ย...เพิ่งประกาศคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ ขอให้คณะรัฐมนตรีชุดใหม่ทำงานก่อนดีมั้ย ไม่มียุบสภาหรอก” เมื่อถามว่า ในพรรคเพื่อไทยมีแรงกระเพื่อมหลังปรับคณะรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีย้อนถามว่ากระเพื่อมอะไร ความจริงแล้วเป็นความคิดเห็นมากกว่า เราเองเชื่อว่าสมาชิกในพรรคก็คงจะเข้าใจ เพราะทุกท่านก็ตั้งใจที่จะเข้ามาทำงานและเราก็น้อมรับทุกท่าน จริงๆ ทุกคนอยากช่วยบ้านเมือง ก็ต้องอยูที่บทบาทว่าเราจะช่วยกันตรงไหนอย่างไร แต่เชื่อว่าเราเองพูดคุยกันได้ เมื่อถามว่า นายกฯ มั่นใจหรือไม่ว่าเรื่องรับจำนำข้าวจะไม่สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาล นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า พอแล้ว เรื่องข้าวเยอะแล้ว ไปถามรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์บ้าง